สรุปประเด็นดีเบต 2 ผู้เข้าชิงตำแหน่งรอง ปธน. สหรัฐฯ

สรุปประเด็นดีเบต 2 ผู้เข้าชิงตำแหน่งรอง ปธน. สหรัฐฯ

สรุปประเด็นดีเบต 2 ผู้เข้าชิงตำแหน่งรอง ปธน. สหรัฐฯ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับการดีเบตของ 2 ผู้ท้าชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ซึ่งในปีนี้มีผู้ท้าชิงคือไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน และวุฒิสมาชิก คามาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต โดยจัดขึ้นที่เมืองซอลต์เลกซิตี้ รัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา โดยการดีเบตในครั้งนี้จัดขึ้นหลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ติดเชื้อโควิด-19 ส่งผลให้ภายในงานต้องอยู่ภายใต้การควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด และประเด็นสำคัญของการดีเบตในครั้งนี้ มีดังต่อไปนี้ 

แฮร์ริส ระบุว่า สถานการณ์โควิด-19 คือ “ความล้มเหลวครั้งใหญ่” ของรัฐบาลสหรัฐฯ

แฮร์ริสเริ่มต้นด้วยการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เรื่องการรับมือกับสถานการณ์โรคระบาดใหญ่โควิด-19 ว่าเป็น “ความล้มเหลวครั้งใหญ่ที่สุดของรัฐบาลในประวัติศาสตร์ประเทศของเรา” โดย แฮร์ริสได้กล่าวถึงอัตราการเสียชีวิตของชาวอเมริกัน ที่มีมากกว่า 210,000 ราย มีผู้ติดเชื้อสะสมรวมแล้วกว่า 7 ล้านราย รวมถึง 1 ใน 5 ของภาคธุรกิจต้องปิดตัวลง ขณะที่ชาวอเมริกันมากกว่า 30 ล้านคนต้องประสบภาวะตกงานมานานหลายเดือน นอกจากนี้ เธอยังกล่าวหาว่า รัฐบาลทรัมป์ปกปิดความจริงเรื่องโรคไวรัสดังกล่าวตั้งแต่เดือนมกราคม 

“เรื่องของเรื่องก็คือ ในวันที่ 28 มกราคม ท่านประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีได้รับแจ้งเรื่องโรคระบาด พวกเขารู้และปกปิดมันเอาไว้ ท่านประธานาธิบดีบอกว่ามันเป็นเรื่องหลอกลวง” แฮร์ริสกล่าว

เพนซ์ชี้ แผนรับมือโรคระบาดของไบเดน “เหมือนไปลอกเขามา”

เพนซ์โต้กลับด้วยการโจมตีแผนการรับมือกับโรคระบาดของไบเดน ที่ต้องการเพิ่มอัตราการตรวจหาโรค ผลิตชุด PPE ใหม่ พัฒนาวัคซีน โดยเพนซ์ชี้ว่า มันดูเหมือนไปลอกคนอื่นมา และไบเดนเองก็มีความเข้าใจเพียงน้อยนิดเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม แฮร์ริสได้สื่อสารโดยตรงกับประชาชนเรื่องการรับมือของรัฐบาลทรัมป์ที่ไร้ประสิทธิภาพ และตัดบทรองประธานาธิบดี เมื่อเขาพยายามพูดแทรก โดยเธอกล่าวว่า “ท่านรองฯคะ ฉันกำลังพูดอยู่ค่ะ” พร้อมกับยกมือขึ้นห้าม 

แฮร์ริสตัดบทเมื่อเพนซ์พูดแทรก 

การดีเบตครั้งนี้ ยังคงมีการพูดแทรกเหมือนการดีเบตครั้งแรกของผู้ลงสมัครประธานาธิบดี เมื่อเพนซ์พยายามพูดแทรก ขณะที่แฮร์ริสกำลังอธิบายแผนการเก็บภาษีของไบเดน เธอก็พูดอย่างตรงไปตรงมาว่าเธอต้องการพูดให้จบก่อนโดยไม่ถูกขัดจังหวะ โดยแฮร์ริสระบุว่า “ถ้าไม่ว่าอะไร ฉันขอพูดให้จบก่อน แล้วเราค่อยคุยกันนะคะ” และเธอใช้เวลานี้อธิบายว่า ไบเดนจะไม่ขึ้นภาษีสำหรับบุคคลที่มีรายได้ต่ำกว่า 400,000 ดอลลาร์ 

เพนซ์แก้ต่างให้กับงานเลี้ยงในสวนกุหลาบที่เชื่อมโยงกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 

เพนซ์กล่าวถึงงานเลี้ยงในสวนกุหลาบ ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 30 คน รวมถึงตัวประธานาธิบดีได้รับการตรวจว่าติดเชื้อโควิด-19 โดยงานในครั้งนั้น เป็นการเสนอชื่อเอมี คูนีย์ บาร์เรตต์ ให้ดำรงตำแหน่งศาลสูงสุด ซึ่งเป็นการจัดงานกลางแจ้ง และเพนซ์ระบุว่า เป็นวิธีการหนึ่งที่นักวิทยาศาสตร์แนะนำว่าทำให้การเกิดติดโรคได้ยากขึ้น อย่างไรก็ตาม มีผู้ร่วมงานเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สวมหน้ากากอนามัย และยังไม่มีการเว้นระยะห่างระหว่างกันมากเท่าที่ควร ขณะที่ผู้ร่วมงานบางคนมีปฏิสัมพันธ์กันทั้งในอาคารของทำเนียบขาวและกลางแจ้ง ทั้งก่อนและหลังงานเลี้ยง

“ท่านประธานาธิบดีทรัมป์และผมเชื่อมั่นในชาวอเมริกัน ว่าพวกเขาจะเลือกวิธีที่ดีที่สุดให้กับสุขภาพของพวกเขา โจ ไบแดนและคามาลา แฮร์ริสกลับพูดถึงข้อบังคับต่าง ๆ ที่ไม่ใช่แค่เรื่องโคโรนาไวรัส แต่จะควบคุมระบบสาธารณสุขทั้งหมด” 

“ทรัมป์แพ้สงครามการค้ากับจีน”

แฮร์ริสวิพากษ์วิจารณ์นโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลทรัมป์ และโต้ว่าท่านประธานาธิบดีพ่ายแพ้สงครามทางการค้ากับประเทศจีน สัญญาทางการค้าของทรัมป์กับประเทศจีน นำไปสู่การตกต่ำทางเศรษกิจ ส่งผลให้สหรัฐฯ สูญเสียตำแหน่งงานมากกว่า 300,000 ตำแหน่ง ขณะที่ภาคการเกษตรก็ประสบกับสภาวะล้มละลายเพราะสงครามการค้า นอกจากนี้ แฮร์ริสยังระบุอีกว่า ในช่วงปลายสมัยของทรัมป์ อัตราการการตกงานจะเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม 

อย่างไรก็ตาม เพนซ์ได้โต้กลับแฮร์ริส ด้วยการชี้ว่าไบเดนเป็น “เชียร์ลีดเดอร์” ให้ประเทศจีนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา “แพ้สงครามการค้ากับจีนงั้นเหรอ โจ ไบเดนไม่เคยสู้ด้วยซ้ำ” เพนซ์กล่าว 

การชุนนุมประท้วงเพื่อเรียกร้องความเท่าเทียมทางเชื้อชาติ

เพนซ์วิพากษ์วิจารณ์ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการชุมนุมประท้วงและการปล้น ในช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมา เมื่อถูกถามเรื่องการคืนความยุติธรรมให้กับชาวอเมริกันผิวดำที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำให้เสียชีวิต

ขณะที่แฮร์ริส ยกตัวอย่างกรณีของบรีอนนา เทย์เลอร์ หญิงสาวผิวดำชาวลุยส์วิลล์ ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเสียชีวิตในบ้านของเธอ เนื่องจากความเข้าใจผิด และต้องการให้เกิดการปฏิรูปตำรวจ 

แมลงวันกลายเป็นดาวของการดีเบต 

แมลงวันที่เกาะบนหัวเพนซ์นานกว่า 2 นาที กลายเป็นแขกไม่ได้รับเชิญที่ถูกพูดถึงมากที่สุด ในขณะที่แฮร์ริสและเพนซ์กำลังพูดถึงความไม่เท่าเทียมทางเชื้อชาติ และการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจะบินหนีไปอย่างเงียบ ๆ

ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น แมลงวันตัวดังกล่าวก็ปรากฏตัวบนทวิตเตอร์ ชื่อแอคเค้าน์ @MikePenceFly โดยทวีตข้อความว่า “ทุกคนต่างอิจฉา เพราะฉันได้ที่นั่งที่ดีที่สุดในค่ำคืนนี้” 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook