เอม เบิกความใช้เงินของขวัญซื้อหุ้นฯ
เอม เบิกความ ซื้อหุ้นชิน จาก พานทองแท้ ก่อนเทขายเทมาเส็ก และนำเงินแบ่งลงทุนธุรกิจ เก็บฝากธนาคาร แจงไม่ต้องเสียภาษีเงิน 370 ล้าน เพราะเป็นเงินบุพการีให้วันเกิด
(17ก.ย.) ที่ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาฯ เวลา 10.00 น. ศาลนัดไต่สวนคดีที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์ สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และทรัพย์สินของครอบครัว รวมทั้งผู้มีชื่อเป็นเจ้าของทรัพย์สินรวม 22 คน มูลค่า 7.6 หมื่นล้านบาทเศษ ตกเป็นของแผ่นดิน เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ
โดยวันนี้น.ส.พินทองทา ชินวัตร บุตรสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะผู้คัดค้านการอายัดทรัพย์สินคดีนี้ เบิกความยืนยันว่า ได้ซื้อหุ้นบริษัท ชินคอปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) มาจากนายพานทองแท้ พี่ชาย และขายหุ้นทั้งหมดให้กับกลุ่มทุนเทมาเส็ก ประเทศสิงคโปร์ ได้นำเงินไปลงทุนธุรกิจส่วนตัวและส่วนหนึ่งเก็บไว้ในบัญชีเงินฝาก โดยไม่ได้นำเงินส่งคืนให้พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ พ่อแม่แต่อย่างใด
ในการซื้อหุ้นบริษัทชินฯจากพี่ชายครั้งแรกนั้น ตนได้เงินจากมารดา 370 ล้านบาท ที่ให้เป็นเงินของขวัญวันเกิด โดยไม่มีภาระต้องเสียภาษีเพราะเป็นเงินที่บุพการี มอบให้ ทั้งนี้น.ส.พินทองทา ยังเบิกความตอบคำถามศาลด้วยว่า ในการดำเนินธุรกิจของครอบครัว จะมีนางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขานุการส่วนตัวของคุณหญิงพจมาน มารดาดูแลในชั้นปฏิบัติการเกี่ยวกับเอกสารต่างๆ ภายใต้ความเห็นชอบของบิดาและมารดา ซึ่งบิดาและมารดาจะดูแลนโยบายโดยทั่วไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่ น.ส.พินทองทา เบิกความเสร็จสิ้นแล้ว น.ส.พินทองทา ได้เดินลงจากที่นั่งพยาน ตรงเข้ามาหาคุณหญิงพจมาน มารดาและนายพานทองแท้ พี่ชาย ซึ่งนั่งอยู่ที่พักของผู้ร่วมฟังการพิจารณาคดีในห้องพิจารณา โดย น.ส.พินทองทา ได้กอดซบคุณหญิงพจมาน พร้อมกับร้องไห้
โดยคุณหญิงพจมาน ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อครอบครัวให้การต่อศาลแล้วก็รู้สึกโล่งใจโดยตนขอเพียงให้ได้รับความยุติธรรมเท่านั้น ขณะที่ น.ส.พินทองทา กล่าวว่า รู้สึกกดดัน แต่ก็โล่งใจว่าได้ให้การ