เสื้อแดงเล็งพิจารณาเงื่อนไขชุมนุมหาก รบ.ใช้ แอลแล้ด สลายม็อบ!!!
ทำเนียบฯสั่งเก็บเอกสารสำคัญ พร้อมติดรั้วเหล็กกันม็อบ เสื้อแดงเล็งพิจารณาเงื่อนไขชุมนุมหากรัฐบาลสั่งใช้"แอลแล้ด" ระดมตร.อารักขาบ้าน"ป๋า"โคราช พท.โยนเสื้อแดงเคลื่อนไหว "มาร์ค"ไม่สนการเมืองร้อนลัดฟ้าลุยยูเอ็น 21-27 ก.ย.ฟื้นเชื่อมั่นศก. แกนนำเสื้อแดงตีปี๊บ "ฝรั่ง"โหมข่าวชุมนุมใหญ่"19 กันยา"
ทำเนียบฯ สั่งเก็บเอกสารสำคัญ พร้อมติดรั้วเหล็ก กันม็อบเสื้อแดง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ทางสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้มีการแจ้งไปยังหน่วยงานต่างๆของทำเนียบรัฐบาลให้ทราบถึงกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองจะมาชุมนุมกันที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าจะมีการเคลื่อนตัวมาปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล ดังนั้นจึงขอให้ทุกหน่วยงานได้รวบรวมและเก็บเอกสารสำคัญทางราชการไปไว้ในที่ปลอดภัยด้วย นอกจากนี้ยังได้ประสานงานไปทางตำรวจนครบาลและ กทม. ให้ตรวจความพร้อมการใช้งานของกล้องวงจรปิด ที่ติดอยู่ตามจุดต่างๆโดยรอบทำเนียบรัฐบาลให้เรียบร้อย พร้อมกันนี้ยังได้มีการติดตั้งประตูรั้วเหล็กแบบถาวรที่ทางเข้าทำเนียบรัฐบาลช่วงสะพานอรทัย และสะพานมัฆวาน แทนของเดิมที่เป็นเพียงแผงเหล็กธรรมดาเท่านั้น ขณะเดียวกันตำรวจนครบาลได้ส่งรถติดตั้งเครื่องขยายเสียงขนาดใหญ่มาจอดประจำการอยู่ที่ตึกสันติไมตรี พร้อมกับจัดเตรียมอุปกรณ์กีดขวางเช่น แท่งปูน รั้วลวดหนาม เข้ามาไว้ในทำเนียบรัฐบาล เพื่อเตรียมติดตั้งในช่วงเย็นวันที่ 18 ก.ย.นี้ ซึ่งจะการเคลื่อนกำลังของกองกำลังผสมตำรวจ ทหาร เข้ามาประจำภายในทำเนียบรัฐบาลด้วย
เสื้อแดงเล็งพิจารณาเงื่อนไขชุมนุมหากรัฐบาลสั่งใช้"แอลแล้ด"
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะใช้เครื่องขยายเสียงกำลังสูงหรือแอลแล้ด ส่งสัญญาญเสียงเพื่อสลายการชุมนุมมารับมือการชุมนุมของคนเสื้อแดงว่า เครื่องดังกล่าวจะทำให้ประชาชนได้ดรับอันตราย ถึงขึ้นหูดับจึงอยากจะบอกไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจและรัฐบาลว่าให้เลิกล้มความคิดที่จะใช้เครื่องนี้เสีย เพราะจะเป็นการทำร้ายประชาชนและหากรัฐบาลอนุญาตให้ตำรวจใช้เครื่องนี้ คนเสื้อแดงจะถือว่า รัฐบาลกำลังทำกับประชาชนอย่างอำมหิต ซึ่งเราจะพิจารณาเงื่อนไขในการชุมนุมใหม่อีกครั้ง แต่แกนนำคนเสื้อแดงก็ไม่ได้คิดจะปล่อยให้ประชาชนคนเสื้อแดงต้องตกเป็นเหยื่อความอำมหิตรูปแบบนี้ โดยได้เตรียมวิธีการและอุปกรณ์สำหรับรับมือเครื่องแอลแล้ดนี่แล้ว
"ทักษิณ" วิดีโอลิงก์ 2 ทุ่มครึ่ง
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ได้ประสานงานไปยัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้วิดีโอลิ้งก์มายังสถานที่ชุมนุมในเวลา 20.30 น. เพราะการรัฐประหาร 19 กันยายนนอกจากจะทำให้ประเทศไทยสูญเสียประชาธิปไตยแล้วยังทำให้สูญเสียนายกรัฐมนตรีที่มีผลงานดีที่สุดไปด้วย
"ล่าสุดแกนนำ นปช.ทราบมาว่า ขณะนี้มีกลุ่มคนไม่ทราบฝ่าย แต่ใกล้ชิดบุคคลในรัฐบาล ใกล้ชิดพรรคร่วมรัฐบาลและอำมาตยาธิปไตย จะไปสร้างความวุ่นวานยังที่สำนักงาน ป.ป.ช. แม้กระทั่งภายในบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ ซึ่งถ้าเกิดอะไรขึ้นก็ขอประกาศไว้เลยว่า ไม่ใช่การกระทำของ นปช .และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการจับกุมตามกฎหมายได้ทันที" นายณัฐวุฒิกล่าว และว่า กลุ่มเสื้อแดงภาคอีสานที่ทยอยเดินทางมาร่วมชุมนุมจะแวะแสดงการต่อต้าน พล.อ.เปรม ที่บ้านไร้กังวล จ.นครราชสีมา ในคืนวันที่ 18 กันยายน ก่อนจะเดินทางเข้า กทม.
ด้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ได้สนทนากับแฟนคลับผ่านทางเว็บไซต์ twitter.com โดยมีผู้หญิงรายหนึ่งแสดงความเห็นเรื่องทุนการศึกษา ซึ่งนำรายได้จากหวยบนดินแต่ปัจจุบันถูกยกเลิกไป โดย พ.ต.ท.ทักษิณระบุว่า "หวยบนดินคนจนได้ประโยชน์ ปีหนึ่งประมาณหมื่นล้านบาท นำมาเป็นทุนการศึกษา บัดนี้ลงใต้ดินหมื่นล้านเข้าเจ้ามือหวย ซึ่งบางคนเป็นแกนนำพันธมิตร"
นัดบ่ายโมงที่ลานพระบรมรูปทรงม้า
นายณัฐวุฒิกล่าว ว่า มติที่ประชุม นปช.ยืนยันว่าเราจะนัดชุมนุมวันที่ 19 กันยายนอย่างแน่นอน โดยจะเริ่มในเวลา 13.00 น. ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า โดยฝ่ายเทคนิคคนเสื้อแดงจะเริ่มตั้งเวทีใหญ่ที่ลานพระบรมรูปตั้งแต่วันที่ 18 กันยายน ซึ่งเราพร้อมให้เจ้าหน้าที่เข้ามาสังเกตการณ์การตั้งเวทีตลอดเวลาด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่ไม่ประสงค์ที่จะถูกสกัดขัดขวางใดๆ เพราะพวกเรายืนยันที่จะชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ ตามสิทธิขั้นพื้นฐาน ซึ่งสาเหตุที่เราเลือกใช้ลานพระบรมรูปทรงม้านั้น เพราะ 1.เป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ประชาธิปไตยที่คณะราษฎร์ใช้เป็นสถานที่ประกาศเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งตรงกับแนวทางของคนเสื้อแดงที่ต้องการปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
2.เมื่อเกิดเหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 นายนวมทอง ไพรวัลย์ โชเฟอร์แท็กซี่ ได้ตัดสินใจขับรถแท็กซี่คู่ชีพพุ่งเข้าชนรถถังของทหารเผด็จการ จึงเป็นสถานที่สำคัญในการชุมนุมเปิดเผย สงบสันติ ปราศจากอาวุธ และ 3.เรารับรู้และเข้าใจว่าผู้อยู่เบื้องหลังการรัฐประหารนั้นไม่ใช่คณะนายทหารที่ชื่อว่าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) แต่เป็น พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ รัฐบุรุษของประเทศไทย ซึ่งประชาชนคนเสื้อแดงทั้งประเทศเข้าใจว่าบทบาทของท่านเป็นตัวถ่วงรั้งของระบอบประชาธิปไตย พวกเราจึงจะเคลื่อนไหวไปยังบ้านพักสี่เสาเทเวศร์
"หากรัฐบาลไม่สร้างสถานการณ์ใดๆ ทุกอย่างก็จะเกิดขึ้นและจบลงภายในเที่ยงคืนวันที่ 19 กันยายน แต่หากรัฐบาลปล่อยปละละเลยหรือรู้เห็นเป็นใจให้เกิดความวุ่นวาย การชุมนุมก็อาจจะต้องขยายพื้นที่และวันเวลาออกไป ซึ่งรัฐบาลจะต้องรับผิดชอบความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้น โดยเราจะรับผิดชอบการกระทำที่เกิดขึ้นตามมติแกนนำ นปช. จะรับผิดชอบการพูดจาปราศรัยบนเวที และจะรับผิดชอบการชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธเท่านั้น และจะไม่รับผิดชอบความรุนแรง ไม่รับผิดชอบการเคลื่อนขบวนไปในที่อื่นใด เพราะไม่ใช่มติของแกนนำ นปช. นอกจากนี้ในการชุมนุมวันที่ 19 กันยายน เราจะไม่เคลื่อนขบวนไปในสถานที่อื่นใด ไม่ว่าจะเป็นสนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ หรือแม้แต่สนามบินเด็กเล่น และหากปรากฏว่ามีใครไปชุมนุมในสถานที่อื่นใดนอกจากที่เราประกาศ ขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการจับกุมได้ทันที " นายณัฐวุฒิกล่าว
"ล่าสุดแกนนำ นปช.ทราบมาว่า ขณะนี้มีกลุ่มคนไม่ทราบฝ่าย แต่ใกล้ชิดบุคคลในรัฐบาล ใกล้ชิดพรรคร่วมรัฐบาลและอำมาตยาธิปไตย จะไปสร้างความวุ่นวายยังที่ทำการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แม้กระทั่งภายในบ้านสี่เสาเทเวศร์ ซึ่งถ้าเกิดอะไรขึ้นก็ขอประกาศไว้เลยว่าไม่ใช่การกระทำของ นปช. และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการจับกุมตามกฎหมายได้ทันที
นอกจากนี้ ในการชุมนุมวันที่ 19 กันยายน เราได้ประสานงานไปยัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้วิดีโอลิงค์มายังสถานที่ชุมนุมในเวลา 20.30 น. เพราะการรัฐประหาร 19 กันยายน นอกจากจะทำให้ประเทศไทยสูญเสียประชาธิปไตยแล้วยังทำให้สูญเสียนายกรัฐมนตรีที่มีผลงานดีที่สุดไปด้วย " นายณัฐวุฒิกล่าว
ระดมตร.อารักขาบ้าน"ป๋า"โคราช พท.โยนเสื้อแดงเคลื่อนไหว
ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครราชสีมา รายงานว่า ที่ถนนสืบศิริ ต.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา บริเวณสามแยกหน้าสำนักงานชลประทานที่ 8 และหน้ากองบัญชาการช่วยรบที่ 2 กองทัพภาคที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรโพธิ์กลาง ได้นำกำลังมาตั้งจุดตรวจสกัด และตรวจค้นรถยนต์ทุกคันที่จะใช้เส้นทางนี้ ซึ่งเป็นเส้นทางผ่านหน้าบ้านไร้กังวล เลขที่ 1885 ถ.สืบศิริ หน้ากองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ต.ในเมือง อ.เมืองฯ จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นบ้านพักของ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ภายหลังจากกลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาส่วนหนึ่งประกาศจะเดินทางมาชุมนุมหน้าบ้านไร้กังวล ซึ่งพลเอกเปรมที่มีกำหนดเดินทางมามอบทุนการศึกษามูลนิธิ พล.อ.เปรม ที่ จ.นครราชสีมา ในวันที่ 19 ก.ย. นี้
ขณะที่นายสมโภชน์ ประสาทไทย หัวหน้าศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย สาขา จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ในวันที่ 19 ก.ย. 52 นี้ สมาชิกพรรคเพื่อไทย จ.นครราชสีมา จะจัดกิจกรรมทางวิชาการเพียงอย่างเดียวคือการจัดเสวนาปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจหลังรัฐประหาร โดยสมาชิกที่ร่วมเสวนาจะไม่ไปชุมนุมที่หน้าบ้านพลเอกเปรมอย่างแน่นอน ซึ่งการชุมนุมอยู่ในความรับผิดชอบของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง
"มาร์ค"ไม่สนการเมืองร้อนลัดฟ้าลุยยูเอ็น 21-27 ก.ย.ฟื้นเชื่อมั่นศก.
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 64 ที่นครนิวยอร์ก และการประชุม Pittsburgh Summit ที่นครพิตส์เบิร์ก ระหว่างวันที่ 21-27 กันยายนนี้ โดยจะออกเดินทางจากประเทศไทยในช่วงดึกวันที่ 20 กันยายน โดยมี 3 ภารกิจหลัก ได้แก่ 1. เข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ในการเข้าร่วม 3 กิจกรรมหลัก ได้แก่ การประชุมระดับสูงว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งจะร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและแสดงวิสัยทัศน์ของไทย พร้อมย้ำบทบาทของไทยในการดำเนินการเพื่อลดปัญหาดังกล่าว การเข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ และรับฟังสุนทรพจน์ของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และการกล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติในวันที่ 26 กันยายน ซึ่งในโอกาสนี้ นายกฯจะแสดงวิสัยทัศน์ของผู้นำไทยในเวทีโลก ในประเด็นต่างๆ เช่น วิกฤตเศรษฐกิจโลก บทบาทไทยในฐานะประธานอาเซียน รวมทั้งสถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจภายในประเทศของไทย รวมทั้ง การนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้เพื่อให้เกิดการเติบโตที่สมดุลและการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศไทยในเวทีโลก
รายงานข่าวแจ้งว่า 2.การประชุม Pittburgh Summit ที่นครพิตส์เบิร์ก ในวันที่ 24-25 กันยายน 2552 ร่วมประชุม จี 20 ในฐานะประธานอาเซียน เพื่อร่วมแสดงทัศนะและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของอาเซียน โดยเฉพาะการดำเนินการหลังจากวิกฤตเศรษฐกิจ โดยในฐานะตัวแทนอาเซียนจะหยิบยกการดำเนินการของอาเซียนเพื่อรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจ ความจำเป็นที่ต้องคงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ มาตรการเพื่อป้องกันการเกิดวิกฤตเศรษฐกิจรอบใหม่ การปฏิรูปสถาบันการเงินระหว่างประเทศ ฯลฯ และ3.กิจกรรมเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นประเทศไทย ที่นครนิวยอร์ก วันที่ 21-23 กันยายน เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นประเทศไทย ประกอบด้วย 9 กิจกรรม 6 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และ สสปน. เพื่อเรียกคืนความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจและการลงทุนในประเทศไทยให้แก่นักลงทุนและนักธุรกิจที่มาลงทุนในไทยอยู่แล้วและที่มีแผนจะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย พร้อมให้ความเชื่อมั่นทางการเมือง กิจกรรมที่สำคัญ อาทิ พบหารือกับบริษัทการเงิน ผู้จัดการกองทุน ผู้บริหารของตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก บริษัทนำเข้ารายใหญ่ของสหรัฐฯในสาขาธุรกิจแฟชั่น อัญมณี อาหาร เครื่องนุ่งห่มและเฟอร์นิเจอร์ สมาชิก USABC (US-ASEAN Business Council)
"เสื้อแดงโคราช"เล็งเคลื่อนปิดล้อม"ป๋าเปรม"มอบทุนการศึกษา
เมื่อวันที่ 17 ก.ย. นายสมโภชน์ ประสาทไทย หัวหน้าศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย จ.นครราชสีมา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต นครราชสีมา เปิดเผยถึงการจัดกิจกรรมเสวนาปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจหลังรัฐประหาร 19 กย.49 โดยจะใช้พื้นที่บริเวณหน้าที่ทำการศูนย์ประสานงาน ฯ ริม ถ.ราชสีมา-โชคชัย ใกล้กับสามแยกจักราช เขตเทศบาลตำบลหัวทะเล อ.เมือง เริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 น. โดยมีนายสุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีต รมต.คลัง และผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐกิจ และ นายวันชัย พรหมภา ประธานสภากรรมกรแห่งชาติ เป็นประธานในการเสวนา
สำหรับการเสวนานั้น นายสมโภชน์ จะดำเนินการในเชิงวิชาการเกี่ยวกับผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจหลังจากถูกปฏิวัติยึดอำนาจ พร้อมทบทวนคำมั่นสัญญาของรัฐบาลอภิสิทธิ์ ฯ ที่ประกาศว่า จะแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนด้านเศรษฐกิจภายใน 3 เดือน และได้ร่วมแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นแนวทางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของท้องถิ่น ที่กำลังอยู่ในช่วงขาลง ซึ่งคาดจะมีผู้เข้ามาร่วมนับพันคน สำหรับกิจกรรมครั้งนี้เป็นการให้ความรู้เรื่องประชาธิปไตย แนวทางแก้ไขปัยหาเศรษฐกิจอย่างแท้จริง รวมทั้งขอยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยมีความอิสระในการทำงาน โดยการทำงานระหว่างพรรค และกลุ่มเสื้อแดง จะไม่ล้ำเส้นซึ่งกัน และกัน ส่วนในวันที่ 19 กย. กลุ่มคนเสื้อแดงจะเคลื่อนไหวชุมนุมที่ กรุงเทพฯ ตนมีความคิดเห็นว่าเป็นสิทธิของผู้ชุมนุมหากอยู่ในกรอบของกฎหมายบ้านเมืองก็เห็นด้วย
นายสมโภชน์ ฯ กล่าวต่ออีกว่า ล่าสุดได้รับการประสานงานจาก นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร ฯ ที่จะนำกลุ่มคนเสื้อแดง 19 จังหวัดอีสาน เคลื่อนไหวร่วมขับไล่ พลอ เปรม ฯ ที่กทม. ว่า ในระหว่างการเดินทาง กลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่ภาคอีสาน 19 จังหวัด จะต้องใช้เส้นทางผ่าน จ.นครราชสีมา จึงขอถือโอกาส ที่จะมาแวะกราบไหว้ สักการะ ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ท้าวสุรนารี ( ย่าโม ) และรวมตัวสำแดงพลังกันที่หน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ริม ถ.ราชดำเนิน เขตเทศบาลนคร นครราชสีมา ที่คาดจะมีไม่ต่ำกว่า 3 พันคน ตามกำหนดการจะมาถึงที่บริเวณลานย่าโม ประมาณ 18.00 น. ทางศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย จ.นครราชสีมา จะจัดต้อนรับอาหาร น้ำดื่ม และมีการตั้งเวทีปราศรัย ส่วนการจะเดินเท้าไปที่หน้าบ้านไร้กังวล ที่เปลี่ยนชื่อเป็นบ้านท่านแม่ทัพ ถ.สืบศิริ ตรงข้ามกองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ค่ายสุรนารี ต.ในเมือง อ.เมือง นครราชสีมา ซึ่งเป็นบ้านพักของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ฯ เนื่องจากทราบว่า พล.อ.เปรม มาอยู่ที่โคราช อีกทั้งวันดังกล่าวจะมีการมอบทุนการศึกษาให้นักเรียน ทางกลุ่มคนเสื้อแดงจึงต้องการแสดงพลังให้ชาวโคราชเห็นว่า พล.อ.เปรม อยู่เบื้องหลังการปฏิวัติเมื่อวันที่ 19 กย. 2549 ซึ่งทางกลุ่มอาจจะปักหลักอยู่จนรุ่งสางแล้วจะเดินทางเข้า กทม. ส่วนจะยกขบวนมาปิดล้อม สถานที่จัดงานมอบทุนการศึกษา ฯ ของมูลนิธิเปรม ฯ แล้วปราศรัยขับไล่นั้น ยังไม่สามารถระบุได้ ต้องรอมติใน่ประชุมจากส่วนกลาง และในที่ชุมนุมก่อน
แกนนำเสื้อแดงตีปี๊บ "ฝรั่ง"โหมข่าวชุมนุมใหญ่"19 กันยา"
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)-แดงทั้งแผ่นดิน กล่าวว่า นายวีระ มุสิกพงษ์ ประธาน นปช.-แดงทั้งแผ่นดิน ได้รับเชิญจากคณะฑูตประเทศต่างๆและสื่อมวลชนต่างประเทศ ให้ร่วมรับประทานอาหารเที่ยงในวันที่ 17 กันยายน เพื่อสรุปแนวทางการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง และประเมินสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทย รวมทั้งจะถือโอกาสขอบคุณที่ได้เสนอข่าวคราวความเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงให้ต่างประเทศรับรู้ ซึ่งเราก็หวังว่าข้อมูลของคนเสื้อแดงจะเป็นที่รับรู้สู่สังคมโลก โดยเฉพาะในช่วงที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะไปร่วมประชุมสหประชาชาติ
