"ธัญญ่า อาร์สยาม" เผยเคยตกต่ำเหลือเงินแค่ 500 บาท รับชีวิตดีขึ้นได้เพราะนั่งกรรมฐาน

"ธัญญ่า อาร์สยาม" เผยเคยตกต่ำเหลือเงินแค่ 500 บาท รับชีวิตดีขึ้นได้เพราะนั่งกรรมฐาน

"ธัญญ่า อาร์สยาม" เผยเคยตกต่ำเหลือเงินแค่ 500 บาท รับชีวิตดีขึ้นได้เพราะนั่งกรรมฐาน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นักร้องลูกทุ่งสาวมากความสามารถ ธัญญ่า อาร์สยาม ศิลปินลูกทุ่งสาวที่ตอนนี้ขึ้นแท่นเป็นอีกหนึ่งสาวเซ็กซี่ไปแล้ว เพราะตั้งแต่ที่เจ้าตัวได้ถ่ายแฟชั่นชุดว่ายน้ำเซ็กซี่ เจ้าตัวก็เซ็กซี่ไม่หยุดเลยจริงๆ จน รายการต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 ต้องขอเชิญนักร้องสาวคนเก่งมาอัพเดทชีวิตที่ผ่านทั้งจุดรุ่งโรจน์และตกต่ำ ทั้งเคยโดนทำของใส่และงานหายหมดจนเหลือเงินแค่ 500 บาท แต่เธอก็ผ่านมาได้เพราะกรรมฐาน ปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นทำพิธีกรถึงกับอึ้งว่าเป็นไปได้อย่างไร ไปฟังจากปากเธอกันเลย

จะบอกว่าเป็นคนที่เริ่มต้นทำคลิปทำยูทูบเป็นคนแรกของวงการพูดอย่างนี้ได้ไหม ?

ธัญญ่า : "ไม่ถึงขนาดนั้นค่ะ จริงๆ หนูก็ไม่รู้หรอกว่าหนูเกิดจากโซเชียล เพราะว่าตอนนั้นหนูเล่น MV กับพี่เบิ้ล ปทุมราช แล้วก็คนช่วงนั้นกำลังเล่น Facebook กันเยอะมากค่ะ แล้วเราก็เลยมีคนติดตามใน Facebook ส่วนตัวเนี่ยล้านเจ็ด แล้วก็เริ่มอัดคลิปลงเรื่อยๆ แล้วก็เปิดแฟนเพจ พอเปิดแฟนเพจปุ๊บ แฟนเพจมันสามารถสร้างรายได้ได้อย่างนี้ค่ะ ก็เลยอัดคลิปกินส้มตำ อัดคลิปกินมะม่วงอยู่เถียงนาลงอะไรอย่างนี้ค่ะ แค่ตั้งกล้องไว้ข้างหน้าแล้วก็กินมะม่วงให้เขาดูอย่างนี้ค่ะ แล้วก็คนกดไลค์เป็นแสนๆ ช่วงโควิด

แล้วกับฉายา "สาวอีสานมหัศจรรย์" เนี่ยมันมาได้ยังไง ?

ธัญญ่า : "เหมือนแฟนคลับเราค่ะ เขาชอบพูดว่าเราคือทำทุกอย่างเลยเหรอ ไม่ว่าจะเป็นตัดคลิปเองหลังๆ มาคือช่วง covid เราว่างแล้วหนูก็หัดตัดคลิปทาง YouTube  มี iPad อยู่เครื่องนึง ไม่ได้มีคอมด้วยก็ตัดใน iPad แล้วก็ทำมิวสิค วิดีโอนี้อย่างนี้ค่ะ เคยมีอยู่ช่วง covid มี 2 เพลง ที่หนูแบบเขียนบทเองกำกับเองทำเบรกดาวน์เอง ทำทุกอย่างเองหมดเลย  แล้วก็กำกับการแสดงเอง เพราะว่าเราเล่นเองมาเยอะแล้ว ก็เลยอยากให้คนอื่นเล่นบ้าง อยากลองแบบอยู่หลังกล้องบ้าง คือก็มีความฝันเกี่ยวกับเป็นคนเบื้องหลัง เพราะว่าหนูจบนิเทศศาสตร์มา" 

ที่น่าชื่นชมมากๆ เลยก็คือเริ่มต้นอาชีพต่างๆ งานต่างๆในวงการตั้งแต่อายุ 17 ?

ธัญญ่า : "จริงๆ ถ้าเริ่มต้นร้องเพลงจริงๆ ตั้งแต่ 5 ขวบเลยค่ะ แล้วก็แบบหาเงินกับคุณแม่แบบร้องเพลงขึ้นเวทีกับคุณแม่ตั้งแต่ 5-6 ขวบเลย ช่วง 17 จริงๆ ก็คือเริ่มเป็น ธัญญ่า อาร์สยาม เริ่มเข้าวงการแล้วค่ะ

ตอนเป็น ธัญญ่า อาร์สยามใหม่ๆ ฉันก็เฝ้าติดตามเขาดูนะว่าเออเด็กคนนี้ใส่เสื้อแบบหวานแขนตุ๊กตา แต่งตัวเรียบร้อยน่ารัก แล้วอยู่ๆ ก็มาสลัดภาพเป็นสาวเซ็กซี่ มาได้ยังไงคะ ?

ธัญญ่า : "คือมันเป็นงานค่ะ คือเรารู้สึกว่าเฮ้ยครั้งนึงอะได้ลงหนังสือพิมพ์โอกาสมาแล้ว เราก็เลยอยากทำอะไรใหม่ๆ ให้แฟนคลับเราได้เห็นอีกมุมนึงของเรา ว่ามุมนี้เราได้หรือเปล่า"

แปลว่าเราไม่เคยเลือกทำลุคนี้เลย

ธัญญ่า : "ไม่เคยเลยค่ะ เคยอย่างมากก็แค่สายเดี่ยวก็ยากแล้ว แต่ทุกวันนี้หนูแทบจะใส่สายเดี่ยวตลอดเพราะว่าเรารู้สึกว่าการใส่แขนตุ๊กตามันเริ่มแบบพอง เพราะว่าเราเป็นคนรูปร่างสั้น ก็เลยแบบว่าเริ่มเปิด แล้วก็รู้สึกว่ามันดีขึ้นแขนอะไรมันก็แบบ OK ขึ้น"

แฟนว่ายังไงบ้าง ?

ธัญญ่า : "เขาเข้าใจว่าเป็นงานค่ะ เพราะว่าถ้าโป๊ไปมากกว่านี้ หนูเคยแบบเอาพวกทูพีชไปลองๆ ดูแต่หนูไม่กล้าใส่หรอก ลองส่งไปดูว่าแบบนี้ได้ไหม เขาบอกว่าไม่ได้ยังเด็กอยู่ ยังดูไม่ดี"

แปลว่าก่อนที่จะปรับลุคก่อนที่จะถ่ายรูปเนี่ยก็ต้องขออนุญาตคุณอ๊อฟ ศุภณัฐ อยู่ ?

ธัญญ่า : "ตอนแรกก็ขอแม่ก่อนค่ะ ถ้า พี่อ๊อฟ ไม่ให้เราก็ใส่อยู่ดีเพราะทุกอย่างที่เราใส่เราทำคือ งาน"

 หลังจากเซ็กซี่ไปแล้วเนี่ยก็มีพวกผู้ชายเข้ามาขายขนมจีบค่อนข้างเยอะ พี่อ๊อฟ หึงไหม ?

ธัญญ่า : "มีหึงอยู่นะคะ แต่ว่าเขาก็ไว้ใจหนูไงเพราะว่าหนูจะเป็นคนที่ถ้ามีใครทักอะไรมาไม่ดี หรือว่าคุยแบบในเชิงจีบแล้วหนูก็แคปให้เขาดูตลอดแบบนี้นะ หนูไม่ได้อะไรนะ อย่างนี้ค่ะ"

มีโรคจิตเข้ามาหลายคนด้วยใช่ไหม ?

ธัญญ่า : "มีค่ะ มีแบบว่าถ่ายของมาให้ดูเลย แล้วก็ถามว่าดูไหมอะไรอย่างนี้ แต่หนูก็เปิดผ่านไม่ได้ตอบไม่ได้แคปมาลงหรือประจานอะไรเขา เราก็บล็อกค่ะบล็อก แล้วก็ปล่อยผ่าน ก็ไม่ได้ไปสนใจ แล้วก็อย่าพูดถึงเขา คนพวกนี้ถ้ายิ่งแคปมาประจานหรือว่ามาพูดถึงเขา เขายิ่งได้ใจว่าสิ่งที่เขาทำมันเป็นผล เราก็ปล่อยผ่านดีกว่า"

อยู่ในวงการ 5 ปีแล้วก็สามารถมีได้ทั้งบ้านเรา แล้วก็รถด้วยเก่งมาก ลูกทำยังไง?

ธัญญ่า : "จริงๆ คุณแม่เป็นคนเก็บเงินให้มาตั้งแต่เข้าวงการเลยค่ะ คือหนูอะเป็นคนที่พอเรามีกระแสในโซเชียลแต่ว่าเพลงเราไม่ได้ดังมาก แล้วก็ทำงานโดยการที่แบบค่อยๆ เก็บ ค่อยๆ เก็บจริงๆ นะคะกับแม่ เพราะว่าหนูอยู่ห้องเช่ามา 3 ปีเต็มๆ อยู่ห้องเช่าเล็กๆ เลยนะคะ เป็นหออยู่แถวมหาวิทยาลัย แล้วก็ค่อยๆ เก็บมากับคุณแม่สองคนมาซื้อบ้านกัน เพิ่งได้บ้านได้ปีนึง เพิ่งซื้อบ้านค่ะเอาเงินไปแบบไปดาวน์บ้าน แบบก้อนใหญ่เลยแล้วก็บิ้วอิน บ้านตกแต่งบ้านซื้อเฟอร์นิเจอร์ใดๆ ทุกอย่างคือหมดเยอะมาก คือทุ่มหมดหน้าตักเพราะว่าเราคิดว่าในวันข้างหน้ามันมีคิวงานรออยู่แล้วไงคะ คือเรามีแพลนแล้ว แต่พอซื้อบ้านแล้วเจอโควิดไปเป็นช่วงที่เราแย่ก็คือช่วง covid ตอนนั้นงานเป็นศูนย์เลยค่ะ"

ศูนย์เลยถ้ามีเงินยังเหลืออยู่ก็ไม่เป็นไร แต่ว่าช่วงศูนย์งานด้วยมีเงินติดบัญชีอยู่ 500 บาท หนูใช้ชีวิตยังไงกับเงิน 500 บาท ?

ธัญญ่า : "คือเราก็มีไข่ มีอะไรหลายๆ อย่างค่ะที่มันพอเหลืออยู่บ้าง กับคุณแม่ก็จะมีเงินที่แบบพอเหลือซื้อกับข้าวอยู่บ้าง เพราะว่าพวกหนูเป็นคนกินง่ายอยู่ง่ายอยู่แล้ว ไม่ต้องแบบไปกินข้าวร้านอาหารหรืออะไรแบบหรูๆ อยู่แล้ว ทำกับข้าวกินเอง แม่ก็ชอบทำกับข้าวมันก็อยู่ได้ค่ะ แล้วก็อีกอย่างนึงก็คือมันมีครั้งหนึ่งที่ 500 บาทแล้วหนูก็ไม่ได้บอกใคร แล้วหนูก็อธิษฐาน อธิษฐานจิตขอให้หนูรอดนะ ขอให้มีเงินส่งบ้านต่อแล้วก็ขอให้มีงานเข้ามา เสร็จปุ๊บอยู่ๆ รีวิวสินค้าก็เข้ามาๆ แล้วหนูก็ฟื้นตัว 1 เดือนหลัง covid ก็คือฟื้นตัวเลย" 

แล้วก็บอกว่าการรอดของเขา เขาเชื่อว่าเกิดจากการที่เขาเนี่ยไปนั่งกรรมฐาน ไปเจอยังไง ?

ธัญญ่า :  "อย่างที่บอกชีวิตเราแย่ช่วงนั้น แล้วก็เครียดมาก ก็เลยไปดูดวงดีกว่า ว่าแบบดวงช่วงนี้เป็นยังไงแล้วก็อาจารย์ที่เขาดูดวงเนี่ยเขาเก่งมาก เพราะว่าเขาสามารถสื่อกับวิญญาณนะของของแฟนของแม่ ซึ่งหนูเรียกว่าคุณลุงซึ่งอยู่กับแม่หนูมา 10 กว่าปี 12 ปีแล้วหนูก็ถามเขาเรื่องคุณลุง แล้วเขาก็สื่อมาให้หนูแบบน้ำตาไหลได้เลย คือสื่อแบบเป็นคำพูดคุณลุงเลย หนูก็เลยเชื่ออาจารย์คนนี้มากแล้วอาจารย์เลยบอกว่าถ้าอยากดีขึ้นให้ไปฝึกกรรมฐานไปนั่งสมาธิแล้วเขาสอนดีมากค่ะแล้วก็ไม่ได้เสียเงินเสียทองอะไรเลย"

ธัญญ่า : "อยู่ที่พิจิตรค่ะ อันนี้คือเป็นเรียนกรรมฐานเลยค่ะแล้วก็เราจะได้ฝึกสมาธิจากจากที่เราเป็นคนนั่งสมาธิแล้วไม่นิ่งนั่งสมาธิแบบไม่ถูกวิธีไปที่นี่ปุ๊บนิ่งเลย แล้วพอหนูทำมาเรื่อยๆ ทุกวันนี้จากเป็นคนไม่สวดมนต์ไม่นั่งสมาธิ ทุกวันนี้สวดมนต์นั่งสมาธิทุกวันแล้วก็ชีวิตแบบดีขึ้นค่ะอยู่งานสินค้างานรีวิวเข้ามาเราก็ยังงงว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง มันก็เลยเป็นปาฏิหาริย์จนทุกวันนี้หนูก็บอกคนรอบข้าง ถ้ามีแฟนคลับมีอะไรที่เขาอยากไปหนูพาไปหมดเลย"

เรื่องกรรมฐานจะเรียกว่ามันธรรมะจัดสรร หรือว่ามันจะในอีกมุมนึงมันเป็นเรื่องบังเอิญด้วยนะที่บังเอิญไปเจอ แต่ถ้ามันไม่ได้มีหรือแม้แต่ไปกรรมฐานแล้วไม่ได้เกิดอะไรขึ้น เราคิดว่าเราจะไปต่อยังไงมีคิดไว้ไหมว่า 1.ขายบ้าน  2.ยืม หรือตอนนั้นคิดทางหนีทีไล่ไว้ไหมหรือตื้ออยู่ ?

ธัญญ่า : "คือคำว่ายืมหรือกู้เนี่ยไม่มีในหัวหนูเลย เพราะว่าหนูไม่อยากเป็นหนี้แล้ว คือหนูรู้สึกว่าถ้าวันนึงชื่อเสียงเราโด่งดังขึ้นมาเราจะต้องปิดบ้านให้ได้อันดับแรกเลย คือไม่อยากได้อะไรเลยอยากปิดบ้าน แล้วก็ ณ ตอนนั้นคือมันตื้อแล้ว มันก็คิดไม่ออกแล้ว ก็คิดอย่างเดียวว่าฉันต้องรอด คิดอย่างเดียวว่าเราทำความดีมาตลอด เราเป็นคนกตัญญู แล้วทุกคนจะบอกเราเสมอว่าถ้าเป็นคนกตัญญูจะไม่มีวันอด และสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะช่วยเราเอง หนูก็แบบเอาลองดูแล้วก็สวดมนต์ไหว้พระเลย"

นี่ไงการที่เขาเป็นคนคิดดีมีความกตัญญูนะคะถ้าเกิดทางพุทธเขาจะบอกว่ามีบารมีแล้วก็จะมีสิ่งของดีๆ มาปกปักรักษาเราแต่ในขณะเดียวกันน่ะรู้ไหมว่าเขาคิดดีทำดีขนาดนี้เขาโดนทำของใส่ด้วย  มันมีอะไรที่ทำให้เราคิดว่าเราโดนทำคุณไสย ?

ธัญญ่า : "ตอนนั้นย้อนไปเมื่อ 3 ปีที่แล้วค่ะ คือไปหาพระแล้วพระก็บอกว่าหนูอ่ะโดนของก็เอาเอาน้ำมะพร้าวเอาอะไรให้กินเพื่อที่จะแบบขับออกอะไรอย่างเนี้ย และพออีก 30 นาทีหนูก็อ้วกออกเป็นเลือดแล้วก็เป็นดำๆ ขาวๆ คือสิ่งที่กินไปไม่ออก แต่ออกเป็นสีดำกับสีขาว แล้วก็มือหงิกแต่หนูไม่รู้ตัวนะ หนูรู้ตัวแค่ตอนหนูอ้วกและหลังจากนั้นก็คือที่มือหงิก แล้วก็ปากเบี้ยว แล้วก็กรี๊ดอะไรเนี่ยหนูไม่รู้ตัวเลย อยู่กับแม่สองคนเพราะว่านั่งรถกลับจากวัดแล้วอยู่บนรถแล้วแม่ก็ไม่รู้จะทำยังไงเลยตอนนั้น แม่ก็ต้องตั้งสติ เพราะว่าหนูถีบรถแล้วก็มือหงิกช่วงนั้น 3 ปีที่แล้วเราเหมือนเอ๋ออะค่ะ คือไม่ค่อยคุยกับใครแล้วก็ไม่ค่อยสนใจใครเลย จนแบบพอมันออกมาแล้วเราก็รู้สึกว่า ทำไมเราจำอะไรไม่ได้ว่าที่ผ่านมาเราทำอะไรบ้างอาทิตย์ที่แล้วเราทำอะไรคือมันจะจำไม่ได้เลย ตอนนี้กลับมาสดใสเหมือนเดิมแล้วค่ะ" 

ใครอยากติดตามผลงานต่างๆ สามารถไป search อะไรถึงจะเจอกดติดตามได้ที่ช่องทางไหนเชิญเลยจ้ะ

ธัญญ่า : "ค่ะก็ตอนนี้ก็นะคะทำ YouTube ช่องคู่กับพี่อ๊อฟอยู่นะคะชื่อช่อง AY Channel ค่ะตอนนี้คนกดติดตาม 50,000 แล้วเพิ่งเปิดกันมาได้ 2-3 เดือน"

อัลบั้มภาพ 15 ภาพ

อัลบั้มภาพ 15 ภาพ ของ "ธัญญ่า อาร์สยาม" เผยเคยตกต่ำเหลือเงินแค่ 500 บาท รับชีวิตดีขึ้นได้เพราะนั่งกรรมฐาน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook