ราชทัณฑ์เผย นักโทษแหกเรือนจำกระบี่ เข้าออกคุกเป็นว่าเล่น เคยวางแผนหนีด้วยการกินสบู่

ราชทัณฑ์เผย นักโทษแหกเรือนจำกระบี่ เข้าออกคุกเป็นว่าเล่น เคยวางแผนหนีด้วยการกินสบู่

ราชทัณฑ์เผย นักโทษแหกเรือนจำกระบี่ เข้าออกคุกเป็นว่าเล่น เคยวางแผนหนีด้วยการกินสบู่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันที่ 10 ตุลาคม 2563 เมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และพล.ต.ต.สันทัด วินสน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ร่วมกันแถลงข่าว ผลการจับกุมนักโทษหลบหนีจากเรือนจำจังหวัดกระบี่ 1.นายอานนท์ เด็นหมาด อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดกระบี่ ที่ 467/2563 ลงวันที่ 1 ต.ค. 2563 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานหลบหนีระหว่างที่ถูกคุมขังตามอำนาจของศาล ได้กระทำโดยแหกที่คุมขัง พร้อมพวกอีก 2 คน คือ นายนฤเบศ พินประพันธ์ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดกระบี่ ในความผิดฐานสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและได้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบ นายทรรปณะ รัญวาสี อายุ 19 ปี พร้อมด้วยของกลาง ดังนี้

1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า) จำนวน 2,067 เม็ด
2. อาวุธปืนพกสั้นยี่ห้อ กล็อก ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนอยู่ในแม็กกะซีน จำนวน 19 นัด
3. อาวุธปืนลูกโม่ .38 นิ้ว จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนบรรจุอยู่ในลูกโม่ง จำนวน 6 นัด
4. อาวุธปืนชนิด เดี่ยวลูกซองยาว จำนวน 1กระบอก พร้อมกระสุนปืนเบอร์ 12 จำนวน 9 นัด
5. เครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 31 นัด .เครื่องกระสุนปืน ขนาด .38 นิ้ว จำนวน 55 นัด
6. รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมกซ์ สีขาว จำนวน 1 คัน ที่ผู้ต้องหาที่ 1 ใช้ขับหลบหนี

โดยแจ้งข้อกล่าวหา ให้ผู้ต้องหาทั้ง 3 ทราบว่าร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

ทั้งนี้ รองผบ.ตร.กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนที่จับกุมได้พร้อมนักโทษชายอานนท์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแหกคุกของนายอานนท์ และนายมลฑล ขันสมาน อายุ 47 ปี หลังออกจากเรือนจำได้ก็มีรถมารับ ทั้งนี้ ทางตำรวจทราบเบาะแสคนช่วยเหลือแล้ว รวมทั้งจะเอาผิดทั้งคนพาหลบหนี และให้ที่พักพิง โดยตำรวจภูธรทั้งภาค 8 และภาค 9 ทำงานติดตามร่วมกันมาตลอด จนกระทั่งสืบทราบว่ามาหลบหนีอยูบ้านเครือญาติในพื้นที่ ต.เขาไม้แก้ว อ.สิเกา จึงวางแผนเข้าจับกุมได้ดังกล่าว และทั้ง 3 คนจะต้องถูกดำเนินคดีที่ตรังทั้งหมด เพราะมีการกระทำความผิดซึ่งหน้าระหว่างการจับกุมคือ ยาเสพติดและอาวุธปืน ในขณะหลบหนีมีรถไปรับ ส่วนนักโทษชายอีกคนที่ยังหลบหนีขอไม่เปิดเผยในรายละเอียด ส่วนเหตุผลของการก่อเหตุแหกคุกในครั้งนี้ ยังไม่ทราบแน่ชัด เพราะผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ให้การกลับไปกลับมา พยายามปกปิดหลายอย่าง เพื่อช่วยเหลือนักโทษอีกคนที่ยังหลบหนี ซึ่งหลังจากนี้ทางตำรวจจะเร่งสอบปากคำต่อไป และมั่นใจว่าจะสามารถติดตามอีกคนที่เหลือได้ ทั้งนี้ ทราบว่านักโทษที่เหลือขณะนี้มีพยายามหาอาวุธปืนไว้ในครอบครอง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มปฏิบัติการเข้มยิ่งขึ้น

ทางด้าน พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบไม่พบเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแหกคุกของนักโทษ แต่คงเป็นเพราะนักโทษพยายามหลบหนีตลอดเวลา โดยเฉพาะ 1 ใน 2 คน เข้าออกเรือนจำแล้วเป็นครั้งที่ 5 พยายามจะแหกคุกแล้วหลายครั้ง เช่น การออกอุบายกินสบู่กับน้ำส้ม เพื่อให้ถูกส่งไปรักษาตัวด้านนอก แต่เมื่อพากลับมาทางเรือนจำก็ต้องพาเข้าห้องกักกันโรค ในช่วงสถานการณ์โควิด และคงพบเห็นโครงสร้างเรือนจำกระบี่ไม่แข็งแรง แม้จะมีลูกกรงเหล็ก แต่มีไม้เป็นส่วนประกอบ อายุเก่าแก่กว่า 70 ปี จึงทำให้นักโทษซึ่งพยายามคิดหลบหนีมาตลอด หาช่องทาง เพราะไม้สามารถดัดได้ จึงเป็นข้อบกพร่อง หละหลวมของเรือนจำในส่วนนี้ ที่ดูแลได้ไม่ดีพอ หลังจากนี้คงต้องดำเนินการปรับปรุงใหม่ให้มั่นคงแข็งแรงยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ที่จับกุมได้ในครั้งนี้ รวมทั้งนักโทษชายอานน์ จะต้องถูกดำเนินคดีที่จังหวัดตรัง โดยนายอานนท์ มีทั้งคดีเก่า คือ ยาเสพติดเรือนจำกระบี่ หมายจับคดีฆาตกรรม ศาล จ.พัทลุง อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะคุมตัวทั้ง 3 คน ไว้สอบสวนเข้มต่อไป ตามอำนาจหน้าที่ โดยแยกขังตาม สภ.ต่างๆ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook