เหยื่อเล่านาทีถูก "ป้าบัวลอย" วางยาหวิดดับ แฉได้เงินฌาปนกิจไปแล้ว 5 ศพ

เหยื่อเล่านาทีถูก "ป้าบัวลอย" วางยาหวิดดับ แฉได้เงินฌาปนกิจไปแล้ว 5 ศพ

เหยื่อเล่านาทีถูก "ป้าบัวลอย" วางยาหวิดดับ แฉได้เงินฌาปนกิจไปแล้ว 5 ศพ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เหยื่อป้าใจโหดเล่านาทีถูกวางยา เผยเคยเตือนคนตายก่อนหน้าให้ระวังตัว ผู้ใหญ่บ้านเผยได้เงินสงเคราะห์ไปแล้ว 5 ศพ ก่อนหน้านี้ พบ 2 ศพไม่ปกติ ยอมรับชาวบ้านสงสัยกันมานานแล้ว 

จากกรณี นางบัวลอย อายุ 61 ปี จ้างวานฆ่า นายอนันต์ อายุ 58 ปี คนไร้บ้าน หวังเงินค่าฌาปนกิจสงเคราะห์หลายแสนบาท โดยพบหลักฐานว่าเมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา นางบัวลอยมีชื่อร่วมส่งเงินฌาปนกิจ คนในหมู่บ้าน 2 ราย และทั้ง 2 รายนี้เสียชีวิตแล้ว สันนิษฐานว่านางบัวลอยอาจจะมีมีพฤติกรรมก่อเหตุลักษณะเดียวกันกับเหยื่อสองรายนี้ ตำรวจอยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานประกอบสำนวนคดี

ล่าสุด (11 ต.ค.63) นายจำรัส อายุ 64 ปี หนึ่งในชาวบ้านที่ถูก นางบัวลอย นำชื่อเข้าฌาปนกิจสงเคราะห์และรอดตายจากการถูกวางยา เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า  หลายปีก่อนนางบัวลอยได้มาขอกับลูกสาว ขอให้เอาชื่อตนเองเข้าเป็นสมาชิกฌาปนกิจสงเคราะห์ ด้วยความที่เป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันและเห็นกันมาแต่เด็ก ตนเองก็ไม่ขัดข้อง ให้ลูกสาวตัดสินใจ ลูกสาวจึงอนุญาต เพราะที่ผ่านมาก็ทราบว่านางบัวลอยก็ได้นำชื่อชาวบ้านหลายคนไปเข้า ตนเองจึงนำเอกสารสำเนาบัตรทะเบียนบ้าน และบัตรประชาชนมอบให้ไป แต่ไม่รู้ว่าไปสมัครไว้กี่ที่

ต่อมาวันหนึ่งเมื่อกลางปี 2561 ประมาณ 09.00 น. นางบัวลอยได้มาเที่ยวหาที่บ้าน เอายามาให้ อ้างว่าหลานเอามาจากประเทศญี่ปุ่น กินแล้วจะทำให้ร่างกายแข็งแรงและจะหายกลับมาเดินมาได้ หายจากอาการอัมพฤกษ์ที่เป็นอยู่  ยาดังกล่าวเป็นยาแคปซูล แบ่งซองละ 3 เม็ด รวม 2 ซอง 

หลังจากนางบัวลอยกลับไป ตนเองก็ได้กินยาไป 3 เม็ด หลังจากได้ไม่ถึงสิบนาที นางบัวลอยย้อนกลับมาอีก ถามว่ากินยาหรือยัง ตนเองบอกว่ากินไปแล้ว นางบัวลอยกลับบอกว่าเอายาให้ผิด ก่อนจะเดินเข้าไปหยิบยาอีกหนึ่งซองที่เหลือจากหัวเตียงในห้องนอนออกไปจากบ้าน หลังจากนั้นไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ตนเองเริ่มมีอาการกระวนกระวาย คลื่นไส้ อาเจียน คันและเหงื่อออกทั่วตัว ดื่มน้ำไปเท่าไหร่ก็ไม่หาย จนหมดสติไปหลายชั่วโมง มารู้ตัวอีกทีตอนสามโมงเย็นที่โรงพยาบาล ทราบภายหลังว่าถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลและแพทย์ได้ทำการล้างท้องจนอาการปลอดภัย โดยครั้งนั้นได้บอกกับหมอไปว่ากินยาผิด 

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ลูกสาวไปตามหานางบัวลอย เรียกมาสอบถามที่บ้าน นางบัวลอยอ้างว่าไม่ได้เอายาอะไรให้ หลังจากนั้นลูกสาวเชื่อว่าตนเองถูกวางยาเอาเงินฌาปนกิจ จึงได้ไปต่อว่ากับคนเก็บเงินสมาชิก และให้ยกเลิกสมาชิกฌาปนกิจทันที 

นายจำรัสยังบอกด้วยว่าก่อนหน้านี้ยังมีนางน้อยที่เป็นเครือญาติกันและอยู่หมู่บ้านเดียวกันเสียชีวิตลง และมีนางบัวลอยเป็นผู้รับผลประโยชน์ ซึ่งตนเองเชื่อว่าอาจเสียชีวิตเพราะถูกวางยา แต่ที่ผ่านมาทางญาติก็ไม่มีใครติดใจเอาเรื่อง เพราะมีฐานะยากจน ไม่มีเงินในการต่อสู้คดีและยังกลัวว่าจะถูกแจ้งความดำเนินคดีกลับ เพราะไม่มีหลักฐาน

นอกจากนี้ ก่อนที่นายอนันต์ที่เสียชีวิตรายล่าสุดจะถูกฆ่า นายจำรัสบอกว่าเคยเตือนให้ระวังตัว เพราะเห็นว่าถูกนางบัวลอยนำชื่อไปเข้าสมาชิกฌาปนกิจเหมือนกับตน จนสุดท้ายก็ต้องมาเสียชีวิตลงจริงๆ

ด้าน นายกุศล คำใส ผู้ใหญ่บ้านบ้านซาง เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้มีผู้เสียชีวิตในหมู่บ้านหลายคนที่ชาวบ้านต่างพูดกันว่าถูกวางยาจากฝีมือของนางบัวลอย โดยข้อมูลเท่าที่ทราบมาพบว่ามีทั้งหมด 5 คน ที่เสียชีวิตและมีชื่อนางบัวลอยเป็นผู้รับประโยชน์เงินฌาปนกิจ คือ นายหล้า อายุประมาณ 70 ปี เสียชีวิตไปประมาณ ​3 ปีก่อน , นายอุทิศอายุ 63 ปี  , นางหน่อย ไม่ทราบนามสกุล อายุประมาณ 70 ปี และ ชายไม่ทราบชื่อ (จำชื่อไม่ได้ ) อีก 2 คน อายุประมาณ 50 กว่าปี ทั้งสองคน

ผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า 2 ใน 5 คือนายหล้าที่เสียชีวิตไปประมาณ 4 ปีก่อน และ นายอุทิศที่เสียชีวิตเมื่อประมาณ 4 เดือนก่อนหน้านี้ ตนเองในฐานะผู้ใหญ่บ้านได้ไปตรวจสภาพศพหลังได้รับแจ้งเหตุ พบความผิดปกติ โดยทั้ง 2 เหมือนกันก็คือ หนึ่งวันก่อนตายยังแข็งแรงปกติ แต่มาพบเป็นศพตอนรุ่งเช้าในสภาพผิวดำคล้ำและมีน้ำลายฟูมปากเล็กน้อย ยอมรับว่าสงสัยอยู่ในใจ เพราะทำงานเกี่ยวกับงานด้านป้องกันและเห็นศพมามาก หากเสียชีวิตปกติตัวจะไม่คล้ำแบบนี้ แต่เมื่อสอบถามทางญาติผู้ตายไม่ติดใจ จึงต้องให้ทางญาติประกอบพิธีศพไปตามความประสงค์

นอกจากทั้ง 5 รายนี้ ยังมีอดีตสามีของนางบัวลอยที่เสียชีวิตไป 2 คน คือ อดีตสามีคนแรก (จำชื่อไม่ได้) เสียชีวิตประมาณ 10 ปีก่อน และ นายคำ ไม่ทราบนามสกุล อาชีพคนขับรถสี่ล้อแดงรับจ้าง เสียชีวิตขณะอายุประมาณ 70 ปี โดยพบเป็นศพนั่งเสียชีวิตในรถ ใกล้กับตลาดต้นพะยอม อ.เมืองเชียงใหม่ เมื่อประมาณ 7 ปีก่อน ซึ่งสองรายนี้ไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิต

ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นกับนายอนันต์รายล่าสุด ผู้ใหญ่บ้านเผยว่า ก่อนเสียชีวิตผู้ตายเคยเล่าให้เพื่อนในวงเหล้าฟังว่าถูกวางยามาแล้ว 4 ครั้ง แต่ตนเองก็ไม่เชื่ออะไรมาก เพราะนายอนันต์เป็นคนขี้เมา ล่าสุดปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา นายอนันต์มาเล่าให้ตนเองฟังว่าถูกวางยาอีก บอกว่าพบว่าขวดเหล้าที่ซื้อไปกิน บริเวณฝาเหมือนถูกเจาะเป็นรูปเข็ม เมื่อเปิดขวดจะยกดื่มพบว่าเป็นฟองฟู่สีขาว จึงเอาไปทิ้ง เชื่อว่าเป็นยาพิษ เรื่องนี้ตนเองก็ไม่ได้เชื่ออะไรมาก จนกระทั่งมาถูกฆ่าเสียชีวิต

ผู้ใหญ่บ้านยอมรับว่าการขอชื่อชาวบ้านไปเข้าสมาชิกฌาปนกิจ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านมานาน และ การนำชื่อไปเข้าโดยที่ผู้รับผลประโยชน์ไม่ใช่ญาติก็ทำได้ง่าย แค่มาขอกันแล้วมอบหลักฐานให้ไปสมัครก็ได้เป็นสมาชิก ทราบว่านางบัวลอยทำแบบนี้มานานตั้งแต่อายุ 40 กว่าปี โดยอ้างว่าต้องการแบ่งเบาภาระการจัดงานศพให้กับครอบครัว และ จะแบ่งเงินสงเคราะห์ให้กับครอบครัวเพื่อเป็นทุนต่อชีวิต  

สำหรับนางบัวลอย ปกติเป็นคนอัธยาศัยดี ช่วยเหลืองานหมู่บ้าน ที่บ้านก็ไม่ได้ขัดสนเงินทองอะไร แต่ยอมรับว่าที่ผ่านมาชาวบ้านจับกลุ่มพูดคุยกันมานานเรื่องวางแผนฆ่าคนเอาเงิน พอมาถูกจับตนเองก็ตกใจ ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องจริง

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนายอนันต์ครั้งนี้ จึงอยากให้เป็นบทเรียนกับคนในหมู่บ้าน เพราะต้องยอมรับว่าการนำชื่อไปเข้าฌาปนกิจ เพราะอาจเป็นช่องทางหากินของใครบางคน โดยเฉพาะกับผู้สูงอายุ คนป่วยติดเตียง คนพิการ คนกลุ่มนี้น่าเป็นห่วงว่าอาจถูกฆาตกรรมได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook