เปิดเส้นทาง พายุ 3 ลูกถล่มไทย ตั้งแต่ 11-20 ต.ค. ทำฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่

เปิดเส้นทาง พายุ 3 ลูกถล่มไทย ตั้งแต่ 11-20 ต.ค. ทำฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่

เปิดเส้นทาง พายุ 3 ลูกถล่มไทย ตั้งแต่ 11-20 ต.ค. ทำฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้เชี่ยวชาญเปิดเส้นทางพายุ 3 ลูกที่จะพัดเข้ามาส่งผลกระทบกับประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 11-20 ต.ค.

เมื่อคืนนี้ (11 ต.ค.) นายชวลิต จันทรรัตน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ทีมกรุ๊ป โพสต์ข้อมูลเกี่ยวกับทิศทางการเคลื่อนที่ของพายุ 3 ลูกที่จะพัดเข้ามาและส่งผลกระทบกับประเทศไทย โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

"พายุเข้าไทยในช่วง 11 ถึง 20 ต.ค. 2563

(1) พายุโซนร้อนหลิ่นฟา (#15:Linfa) เป็นพายุจรลูกที่ 15 ของปีนี้ ก่อตัวขึ้นในทะเลจีนใต้ เคลื่อนที่ไปทางทิศตะวันตก

วันที่ 11 ต.ค. ขึ้นฝั่งเวียดนาม ทำให้ฝนตกหนักถึงหนักมาก ที่เมืองดานัง, Dong Hoi, กวางงาย และพื้นที่ใกล้เคียง

วันที่ 12 ต.ค. ทำให้ฝนตกหนักในพื้นที่ลาวใต้ ที่เมืองอัตตะปือ เซกอง จำปาสัก และปากเซ ฝนตกปานกลางที่อุบลราชธานี ศรีสะเกษ และมีฝนตกเพิ่มมากขึ้นทั่วไป ทั่วทั้งภาคอีสาน

วันที่ 13 ต.ค. ทำให้ฝนตกเพิ่มมากขึ้นโดยทั่วไปในภาคกลาง และภาคอีสาน

(2) พายุดีเปรสชั่น ลูกที่ 16 (#16) คาดว่าจะมีการก่อตัวของพายุดีเปรสชั่นขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นลูกที่ 16 ของปีนี้

วันที่ 12 ต.ค. คาดว่าจะก่อตัวขึ้นในทะเลจีนใต้ โดยจะเคลื่อนที่ไปทางตะวันตก

วันที่ 13 ต.ค. คาดว่าจะเคลื่อนที่ผ่าน ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมาก ที่เกาะไหหลำ

วันที่ 14 ต.ค. ขึ้นฝั่งเวียดนาม ทำให้ฝนตกหนักที่เมืองดองฮอย และพื้นที่ใกล้เคียง ฝนตกหนักถึงหนักมาก ที่เมือง Thanh Hao และ Vinh

วันที่ 15 ต.ค. ฝนตกหนักถึงหนักมาก ในพื้นที่ตอนกลางของลาว โพนสะหวัน เวียงจันทน์ ฝนตกปานกลางที่ นครพนม บึงกาฬ อุดรฯ ฝนตกมากเพิ่มขึ้นทั่วภาคอีสาน ภาคตะวันออก ภาคกลาง ภาคตะวันตก เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และภาคใต้

(3) พายุดีเปรสชั่นลูกที่ 17 (#17)

วันที่ 13 ต.ค. คาดว่าจะมีการก่อตัวขึ้น ในมหาสมุทรแปซิฟิก ติดชายฝั่งฟิลิปปินส์ อาจจะเป็นลูกที่ 17 ของปีนี้ โดยจะเคลือนที่ไปทางตะวันตก

วันที่ 14 และ 15 ต.ค. จะทำให้ฝนตกหนักถึงหนักมากที่กรุงมนิลา และพื้นที่ใกล้เคียง แล้วเคลื่อนที่ลงสู่ทะเลจีนใต้ และ เคลื่อนที่ทางทิศตะวันตก

วันที่ 17 ต.ค. ขึ้นฝั่งเวียดนาม ทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากที่เมือง Tuy Hoa, Qui Khon, ญาจาง ฝนตกหนักถึงปานกลาง ที่เมืองตามชายฝั่งทะเลตั้งแต่ เมืองดานัง ถึง เมือง Qui Khon

วันที่ 18 ต.ค. เคลื่อนที่เข้าไปในกัมพูชา ทำให้ฝนตกหนักถึงหนักมาก ที่เมืองสตึงเต็ง และฝนตกปานกลางในพื้นที่ทั่วกัมพูชา

วันที่ 19 ต.ค. ทำให้เกิดฝนตกหนักที่ ตราด และประจวบคีรีขันธ์ และ ฝนตกปานกลาง ในพื้นที่อีสานตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลางตอนล่าง รวมถึง กทม. และปริมณฑล

วันที่ 20 ต.ค. ทำให้ฝนตกปานกลางที่ ตราด ประจวบคีรีขันธ์ และมีฝนตกเพิ่มขึ้นในพื้นที่ภาคอีสานตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลางตอนล่าง รวมถึง กทม.และปริมณฑล"

นอกจากนี้ นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมรับมือกับพายุลูกใหม่ที่คาดว่ามีกำลังแรง อาจทำให้ภาคกลางตอนล่าง กทม. และปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสม หากพื้นที่ใดคาดว่าจะได้ผลกระทบรุนแรงให้รีบแจ้งเตือน เช่น ยกสิ่งของขึ้นพื้นที่สูง หรือเตรียมอพยพ รวมทั้งหลีกเลี่ยงการสัญจรหากไม่จำเป็นเร่งด่วน

อย่างไรก็ตาม โฆษกรัฐบาลย้ำว่า ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจว่า รัฐบาลได้เฝ้าระวังและเตรียมการเพื่อบรรเทาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นอย่างเต็มที่ หากมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่ สายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook