จับพระ-เณรพร้อมพวกเรี่ยไร ฉกเงินคนแก่ศรัทธาศาสนา

จับพระ-เณรพร้อมพวกเรี่ยไร ฉกเงินคนแก่ศรัทธาศาสนา

จับพระ-เณรพร้อมพวกเรี่ยไร ฉกเงินคนแก่ศรัทธาศาสนา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

ตำรวจอ่างทอง ไล่ล่าจับพระนอกรีต เรี่ยไรเงินกฐินถึงชายคาบ้าน แถมขโมยกระเป๋าตังค์ชาวบ้านขึ้นรถกระบะซิ่งหายไป

เมื่อวันที่ 18 ก.ย.พ.ต.ท.ไพบูลย์ สาที สารวัตรเวร สภ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง รับแจ้งจากนายผล วิลัยลักษณ์ อายุ 98 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42/3 หมู่ 6 ต.ไผ่จำศีล อ.วิเศษชัยชาญ ว่า ถูกพระภิกษุ สามเณร และพวกลักทรัพย์เงินสดจำนวน 4,500 บาท ก่อนจะขึ้นรถปิคอัพยี่ห้อนิสสัน สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน บพ-1087 สุพรรณบุรี หลบหนีไปทาง อ.โพธิ์ทอง ซึ่งได้ให้ญาติขับรถติดตาม


นายผล ให้การว่า ขณะที่อยู่ในบ้านพักตามลำพัง ได้มีพระภิกษุ สามเณร และพวกอีก 2 คน ใช้รถปิคอัพดังกล่าวเป็นพาหนะออกเรี่ยไรให้ร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคีไปถึงบ้านตน จึงร่วมทำบุญ 500 บาท เมื่อคณะที่มาเรี่ยไรเห็นว่าตนทำบุญง่าย จึงเอ่ยปากขอข้าวสารโดยอ้างว่าจะนำไปเลี้ยงเด็กในวัด จึงเดินไปตักข้าวสารภายในบ้าน โดยลืมไปว่าวางกระเป๋าสตางค์ไว้บนโต๊ะหน้าบ้าน เมื่อเดินกลับออกมาปรากฏว่า เงินในกระเป๋าสตางค์หายไป และกลุ่มคณะดังกล่าวเดินขึ้นรถและขับออกไปอย่างรวดเร็ว


หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งจุดสกัดบนถนนสายโพธิ์ทอง-แสวงหาและสามารถจับกุมพวกลักทรัพย์ได้ที่ หมู่ 2 ต.จำลอง อ.แสวงหา จากการตรวจค้นพบซองฏีกาทอดกฐินสามัคคีของวัดวังโหรา อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี กำหนดจัดงานวันที่ 15 ต.ค.ที่จะถึงนี้ โดยมีเงินบริจาคที่ได้จากการเรี่ยไรจำนวนหนึ่ง จึงควบคุมตัวพระละมัย ทองประสม อายุ 44 ปี ที่ใบสุทธิบัตรระบุว่าบวชที่วัดดอนสว่าง ต.คลอนโต อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี สามเณรลิขิต อายุ 16 ปี นางสมจิต สุดเสวา อายุ 42 ปี และนายเอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี คนขับรถ สอบปากคำ


พ.ต.ท.ไพบูลย์ กล่าวว่า จากการสอบสวนกลุ่มคณะดังกล่าวให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ประกอบกับไม่มีหลักฐานยืนยันโดยผู้เสียหายจำไม่ได้ว่าเงินของกลางที่หายไปมีธนบัตรชนิดใดบ้าง และของกลางที่พบมีธนบัตรหลายชนิด ที่สำคัญธนบัตรคือธนบัตรเหมือนกันไม่สามารถแยกแยะได้ เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาทำการเรี่ยไรโดยไม่ได้รับอนุญาต ปรับ 100 บาท ผู้ขับขี่รถยนต์ไม่มีใบอนุญาต ปรับ 200 บาท และทำประวัติผู้ต้องสงสัยและปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากขาดพยานหลักฐานและไม่มีหมายศาลให้จับกุม ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวพอสมควร ต้องสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป


จากการตรวจสอบใบสุทธิพระละมัยทราบว่าบวชและจำพรรษาที่วัดดอนสว่าง ต.คลอนโต อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี เมื่อสอบถามไปยังเจ้าอาวาสทราบว่าไม่มีพระชื่อดังกล่าวจำพรรษาในวัดแต่อย่างใด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook