อ่างเก็บน้ำเขาค้อแตกชาวบ้านตื่นหนีขึ้นที่สูง

อ่างเก็บน้ำเขาค้อแตกชาวบ้านตื่นหนีขึ้นที่สูง

อ่างเก็บน้ำเขาค้อแตกชาวบ้านตื่นหนีขึ้นที่สูง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

น้ำป่าบนเทือกเขาภูแลนคา ยังทะลักเข้าล้นเขื่อนลำปะทาว จ.ชัยภูมิ สูงกว่าครึ่งเมตรต่อเนื่อง เขตเทศบาลเมืองอ่วมเขื่อนฯเร่งระบายน้ำเข้าท่วมเมืองสูงกว่า 80 ซม. สั่งปิดโรงเรียนแล้ว 7 แห่งรถไม่สามารถผ่านสัญจรผ่านเข้าโรงพยาบาลได้ต้องใช้เรือแทน ด้านเทศบาลเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำออกนอกเมืองกว่า 50 จุด เขื่อนกิ่วลมลำปางระบายน้ำออกจากเขื่อน

ช่วงบ่ายวันนี้ (18 ก.ย.) อ่างเก็บน้ำเขาค้อ บ้านใจทน หมู่ 7 ต.เขาค้อ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก ความจุไม่เกิน 5 ล้าน ลบ.ม.แตก ประชาชนในเขตพื้นที่บ้านมใจทน หมู่ 7 , 9 และ 12 เกรงว่ากระแสน้ำจะไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน ต่างพากันเก็บข้าวของเพื่ออพยพบนที่สูง

น้ำล้นเขื่อนทะลักท่วมตัวเมืองชัยภูมิสั่งปิดร.ร.7แห่ง

สถานการณ์น้ำท่วมที่จ.ชัยภูมิ ยังน่าห่วงต่อเนื่องหลังเกิดฝนตกหนักบนเทือกเขาภูแลนคาจนน้ำป่าจำนวนมากทะลักเข้าล้นเขื่อนลำปะทาวสูงกว่า 90 ซม.ตั้งแต่กลางดึกคืนวันที่ 17 ก.ย.ทำให้พื้นที่ อ.แก้งคร้อ และห้วยชีลอง ต.ห้วยต้อน อ.เมืองชัยภูมิ ชาวบ้านถูกน้ำท่วมถนน-สะพานเข้าเชื่อม 3 หมู่บ้านถูกตัดขาด เดือดร้อนกว่า 400 หลังคาเรือน

ล่าสุดตั้งแต่เวลา 04.00 น.วันที่ 18 ก.ย. นายสมพงษ์ เข็มเหล็ก หน.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจ.ชัยภูมิ รับแจ้งจากเขื่อนลำปะทาว ว่าปริมาณน้ำป่าหลากที่ไหลเข้าล้นสันเขื่อนสูงกว่า 90 ซม.ได้ไหลเข้าสู่เขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ สูงกว่า 80 ซม.แล้ว ทำให้มีพื้นที่บ้านเรือนราษฎรใน 25 ชุม ถูกน้ำท่วมไม่น้อยกว่า 1,000 หลังคาเรือน ซึ่งทางจังหวัดได้เร่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ อส. ,ปภ.,เทศบาลเมืองชัยภูมิ และชลประทานจังหวัด เฝ้าคอยติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง

สาเหตุจากปริมาณน้ำป่าที่ยังไหลเข้าเขื่อนจนล้นสันเขื่อนลำปะทาวระดับไม่ต่ำกว่า 50 ซม. ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำไหลเข้าตัวเมืองยังมีระดับน้ำเพิ่มขึ้นอยู่เรื่อยๆอย่างต่อเนื่อง และเส้นทางสายหลังย่านอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล โรงเรียนชัยภูมิภักดีชุมพล โรงพยาบาลชัยภูมิ รถทุกชนิดไม่สามารถใช้เส้นทางนี้ผ่านไปได้ การช่วยเหลือผู้ป่วยที่ต้องเดินทางเข้าโรงพยาบาลต้องนำเรือท้องแบนเข้ามาใช้แทน และมีการสั่งปิดโรงเรียนในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิทั้งหมดไปแล้ว 7 แห่ง

นอกจากนี้ในส่วนการช่วยเหลือราษฎรที่ถูกน้ำท่วมในพื้นที่ต.ห้วยต้อน อ.เมืองชัยภูมิ ที่มีเส้นทางถนน สะพานถูกน้ำพัดขาดใน 3 หมู่บ้าน กว่า 400 ครอบครัวถูกน้ำท่วม ได้มีการนำถุงยังชีพจำนวนกว่า 500 ชุด เข้าช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว ซึ่งใครที่มีความต้องการสามารถติดต่อมาที่ ปภ.ชัยภูมิ ที่หมายเลข 044-813325 ได้ที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมจ.ชัยภูมิ

ด้านนายบรรยง เกียรติก้องชูชัย นายกเทศบาลเมืองชัยภูมิ ได้สั่งระดมเจ้าหน้าที่เร่งนำกระสอบทรายออกแจกจ่ายประชาชนในพื้นที่และติดตั้งเครื่องสูบน้ำกว่า 50 จุด เพื่อเร่งระบายน้ำออกนอกตัวเมืองลงสู่หนองตาดำ เป็นการเร่งด่วนแล้ว พร้อมเร่งประสานชลประทานจังหวัด ขนเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่(หัวนาก) จากกรมชลประทานเข้ามาเสริมอีกทางแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมในตัวเมืองชัยภูมิ ยังน่าเป็นห่วงเนื่องจาก ยังมีประมาณน้ำป่าที่ล้นสันเขื่อนลำปะทาวตอนบนความจุที่ 44 ล้าน ลบ.ม. และตอนล่าง 16 ล้าน ลบ.ม. สูงอีกกว่า 50 ซม. หลังเขื่อนฯปล่อยลงมาเมื่อวันที่ 17 ก.ย.ระดับน้ำล้นสันเขื่อนอยู่ที่ 90 ซม. ระดับยังเข้าท่วมตัวเมืองแล้วกว่า 80 ซม. ซึ่งจะเหลือน้ำอีกว่า 50 เปอร์เซ็นต์

ส่วนสถานการณ์ฝนตกบนเทือกเขาภูแลนคายังมีต่อเนื่อง ซึ่งจะยังเหลือปริมาณน้ำอีกจำนวนมากที่จะไหลเข้าสู่ตัวเมือง และน่าจะเกิดสถานการณ์น้ำท่วมหนักมากกว่าปีที่ผ่านมาได้ง่ายๆกว่าในรอบ 20 ปีของจ.ชัยภูมิอีกครั้ง

เขื่อนกิ่วลมลำปางระบายน้ำออกจากเขื่อน

นายศักดา ศิวาภรณ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำ และบำรุงรักษาแม่วังกิ่วลม จังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า หลังจากเกิดตกลงมาอย่างหนัก ทำให้น้ำไหลเข้าท่วมในพื้นที่ อ.เมืองปาน จ.ลำปาง เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2552 ที่ผ่านมา แต่จะไม่ไหลลงมาสู่เขื่อนกิ่วลม แต่จะไหลลงลำน้ำแม่ตุ๋ย และไหลสู่แม่น้ำวังในเขตพื้นที่ อ.เมือง แต่ถึงแม้จะไม่ไหลลงมาสู่เขื่อนกิ่วลม แต่ปริมาณน้ำ จากพื้นที่ อ.แจ้ห่ม และวังเหนือ ไหลลงเขื่อนกิ่วลมวันละกว่า 3 ล้านลูกบาศ์เมตร ทำให้ขณะนี้เขื่อนกิ่วลมมีน้ำกักเก็บ 83 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 75 % ของความจุทั้งหมด 120 ล้านลูกบาศก์เมตร

จากสภาพอากาศที่ยังมีฝนตก อยู่อย่างต่อเนื่อง ทำให้ทางเขื่อนมีความจำเป็นต้องเปิดประตูระบายน้ำ 1 บาน ในการปล่อยน้ำออกลงสู่แม่น้ำวัง วันละกว่า 3 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อเตรียมรับน้ำใหม่ ที่เข้าสู่เขื่อน และมีการดำเนินการมาแล้ว 2 วัน จากนั้นก็จะติดตามสภาพอากาศ หากฝนในพื้นที่เหนือเขื่อน และบริเวณเขื่อนหยุดตก ก็จะลดระดับการปล่อยน้ำออกลงสู่แม่น้ำวังลง หากฝนยังตกหนักต่อเนื่อง ทางเขื่อนก็จะมีการระบายน้ำตามสถานการณ์จากฝนที่ตกลงมาในพื้นที่ ส่วนเขื่อนกิ่วคอหมา ซึ่งเป็นเขื่อนขนาดใหญ่ความจุ 170 ล้านลูกบาศกเมตร ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง ขณะนี้มีปริมาณน้ำกักเก็บ 70 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยถือว่าเป็นปริมาณน้ำที่น้อยมาก และทางเขื่อนกิ่วคอหมา ยังสามารถรองรับน้ำที่ไหลลงสู่เขื่อนได้อีกเป็นจำนวนมาก

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook