"ปู-นิว"โหมบทรัก จูบท่วมจอ"ดอกบัวฯ"

"ปู-นิว"โหมบทรัก จูบท่วมจอ"ดอกบัวฯ"

"ปู-นิว"โหมบทรัก จูบท่วมจอ"ดอกบัวฯ"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ออก อากาศเรียกน้ำย่อยกันมาได้พักหนึ่งแล้ว สำหรับละครเรื่อง "ดอกบัวขาว" ทางช่อง 7 ฝีมือการกำกับฯ ของ "อ๊อด"ธีระศักดิ์ พรหมเงิน ลูกหม้อค่ายละครกันตนา

ที่ได้นางเอกสาว "ปู"ไปรยา ลุนด์เบิร์ก มาแสดงแทนหนู "พิ้งกี้"สาวิกา ไชยเดช โดยประกบคู่หนุ่ม "นิว"วงศกร ปรมัตถากร พร้อม "ฝ้าย" ณิชานันท์ ฝั้นแก้ว, "เชน"ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์, "พล"พูลภัทร อัตถปัญญาพล ฯลฯ ร่วมแสดง

โดย "อ๊อด-ธีระศักดิ์" เล่าถึงละครว่า ละครเรื่องนี้เป็นเรื่องของผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเกิดมาเป็นลูกเมียน้อย โดยยึดมั่นกับสิ่งที่แม่เคยสอนว่าอย่าทำความลำบากให้พี่สาวที่เป็นลูกเมีย หลวง ฉะนั้นนางเอกจึงเสียสละทุกอย่าง แม้แต่คนรักให้กับพี่สาว ทั้งที่ตัวเองท้องกับพระเอก

ถามถึงฝีมือแสดงของนางเอกสาว "ปู-ไปรยา" ที่รับบทของคนที่ถูกกระทำ ผู้กำกับฯ กล่าวว่า "ตัวจริงปูจะเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองสูง เราต้องปรับให้ดูเป็นคนอ่อน ยอมเสียสละทุกอย่าง แต่ไม่ใช่คนโง่ ไม่ใช่ว่ายอมเพราะไม่รู้ ในเรื่องนี้คนจะคิดว่า ในโลกนี้จะมีคนยอมถึงขนาดนี้เลยเหรอ"

การ เปลี่ยนสาวมั่นอย่างปู ให้มารับบทแบบนี้ยากไหม "ไม่ยาก หลังๆ ปูทำอารมณ์ได้เก่ง ทำไว ไม่ต้องเฟ้นเยอะ เขาทำหน้าเศร้าได้เลย แรกๆ ต้องอธิบายให้เขาเข้าใจนานหน่อย เพราะเขาเพิ่งกลับจากต่างประเทศ"

นอก จากจะเศร้าน้ำตาท่วมจอแล้ว ละครเรื่อง "ดอกบัวขาว" ยังเกลื่อนไปด้วยฉากเลิฟซีน พระนางประกบปากจูบกันอย่างดูดดื่ม ซึ่งเรื่องนี้อ๊อดแจงว่า

"ละครเรื่องนี้ไม่ใช่แนวตบจูบ เพียงแต่นางเอกจะยอมพระเอก เพราะคู่นี้เขารักกันมาตั้งแต่เด็ก ตัวพระเอกจะรู้สึกว่าคนนี้เป็นของเขา เพราะพระเอกเป็นคนที่มั่นใจตัวเองสูง คิดว่าคนนี้คือคนที่ตัวเองรัก และเขารักเราแค่นั้นก็จบอย่างอื่นไม่มีปัญหา จะคิดอย่างนี้ตลอดเวลา"

 

" พอเรียนจบก็ขอหมั้นเลย พอขอหมั้นจึงเกิดปัญหา เพราะพี่สาวนางเอกที่เดินควงมากับพระเอกตลอดตั้งแต่เด็ก ก็คิดว่าพระเอกคือแฟนเขา นางเอกก็ต้องไม่ยอมหมั้น เพราะคิดว่าคนนี้ต้องเป็นของพี่"

แล้วทำไมถึงมีฉากจูบเยอะ "บทมาอย่างนั้น เราก็ต้องทำไปอย่างนั้น จริงๆ เดี๋ยวนี้ค่อนข้างดี คนเข้าใจ นักแสดงบางคนเข้าใจว่าเป็นการแสดง ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่แตะกันไม่ได้เลย ใช้มุมกล้องอย่างเดียว อันนั้นภาพจะไม่สวย คนดูรู้หมดแล้ว เดี๋ยวนี้ขอนิดหนึ่งที่ว่าปากแตะกันภาพที่ออกมาจะได้สวย"

ความแปลกตา ของละครอีกอย่างก็คือการจับดาราแต่ละคนมาพลิกบทบาท อย่างหนุ่ม "นิว-วงศกร" พระเอกของเรื่อง จากหนุ่มเรียบร้อยกลายมาเป็นหนุ่มเอาแต่ใจ "ฝ้าย-ณิชานันท์" จากสาวหวาน น่าสงสาร พลิกมาร้ายเต็มตัว

"อย่าง ตัวพระเอกบุคลิกในเรื่องไม่ค่อยแคร์คนอื่น เพราะเขาคิดว่าฉันทำถูกแล้ว ฉะนั้นเรื่องนี้บทเขาจะแข็งกว่าที่เคยเล่น ซึ่งเราต้องอธิบายให้เขาเข้าใจ เพราะปกตินิวจะเล่นเป็นคนนิ่มๆ แต่เรื่องนี้ต้องเล่นเป็นคนที่มั่นใจตัวเองสูง"

"ส่วนฝ้ายก็ต้องปรับ เยอะเหมือนกัน เพราะเสียงเขานิ่มมาก แรกที่มาเล่น เราก็บอกว่าฝ้ายไม่ได้นะ ต้องเอาพลังเข้าไปเยอะๆ อย่างฉากตอนโกรธ ต้องขุดพลังออกมาให้ได้เลย เพราะไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นว่านางเอกเสียงแข็งกว่า เพราะตัวปูเขาเสียงแข็งอยู่แล้ว ก็ต้องปรับสองคนนี้ให้ตรงกันข้ามกับชีวิตจริงขึ้นมา"

 

ทำงานยากไหม เพราะตัวหลักทั้ง 3 คนต้องพลิกคาแร็กเตอร์หมด "ยากบ้าง เพราะบางที คาแร็กเตอร์จะมีหลุดๆ กันบ้าง ก็ต้องคอยเตือน"

ต่อข้อถามถึงแก่นของเรื่องว่าสิ่งที่ต้องการนำเสนอคืออะไร ผู้กำกับฯหนุ่มใหญ่กล่าวว่า

" แก่นเรื่องนี้คือการเสียสละ ในเรื่องไม่ได้ชี้อย่างอื่นว่าเป็นดราม่าที่มีเหตุผลอะไรนัก เพราะในเรื่องยึดถืออย่างเดียวคือเรื่องการเสียสละ ด้วยก่อนตายแม่สอนไว้ว่าต้องเสียสละทำให้พี่เพราะแม่ไปแย่งสามีเขามา ทำให้เขาเป็นทุกข์ จึงต้องชดใช้ด้วยการเสียสละ ตัวนางเอกจึงยึดถือเรื่องนี้เรื่อยมา ไม่ว่าจะเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ต้องให้อย่างเดียว"

ส่วนความคาดหวังนั้น อ๊อดแง้มว่า "คงเป็นเรื่องของผู้ชมว่าจะชอบดูละครแบบนี้มั้ย แบบที่นางเอกถูกกลั่นแกล้ง โดนรังแกชีวิตรันทด"

อย่างนี้ก็เข้าสูตรสำเร็จ ละครโกยเรตติ้งชัวร์

อนงค์ จันทร เรื่อง

 

เลิฟซีนด้วยหน้าที่-ยอมเปลืองตัว

ดู จะเปลืองตัวที่สุดเท่าที่เล่นละครมา สำหรับหนู "ปู-ไปรยา" ที่แสดงบท "นุช" เด็กสาวผู้เสียสละทุกอย่าง แม้ แต่คนรัก ในละครเรื่อง "ดอกบัวขาว" ทางช่อง 7

โดยเรื่องนี้จะมีฉากเลิฟซีนกับหนุ่ม "นิว-วงศกร" ที่เป็นการจูบปากกันจริง ซึ่งเจ้าตัวว่า "เราเป็นนักแสดงเราก็ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ไม่ได้คิดอะไรมาก"

แย็บ แซว แต่ก็เยอะอยู่นะกับฉากจูบกันเนี่ย ปูพยักหน้า "เยอะค่ะ เรื่องนี้ทั้งโดนตบ โดนจูบ เรื่องนี้เปลืองตัวนิดหนึ่งค่ะ คือในเรื่องพระเอกนางเอกเป็นคนที่รักกันมาก มันก็ต้องมีฉากพวกนี้จึงมีเยอะนิดหนึ่ง"

เคยนั่งนับไหมว่าต้องเข้าฉากเลิฟซีนกี่ฉาก "ประมาณ 20 กว่าฉากมั้ง"

เกร็ง ไหมกับที่ต้องมาเข้าฉากเลิฟซีน "มันเป็นงาน เราทั้งคู่เข้าใจ ผู้กำกับฯสั่งคัตปุ๊บ เราทั้งคู่ต่างก็แยกย้ายกันมานั่งคุยโทรศัพท์ไม่มีอะไร แต่จริงๆ ก็แอบเกร็งนิดหนึ่ง เขิน แต่หลังๆ ไม่ค่อยแล้ว เพราะมันเป็นหน้าที่"

ส่วนตัวรู้สึกอย่างไรบ้างที่ฉากเลิฟซีนมีเกร่อ "ตอนแรกก็ช็อกเหมือนกันนะว่าทำไมมีเยอะอย่างนี้ แต่จริงๆ มันไม่มีอะไร มันคืองาน เราก็ทำ ปูเป็นห่วงเรื่องที่จะพูดชัดมั้ย จะเล่นได้ดีมั้ย ห่วงเรื่องนี้มากกว่าบทจูบ เราต้องห่วงทักษะการแสดงของเรามากกว่า"

แต่ทำไมถึงยอมเล่นล่ะ มันเยอะนะ "ก็มันเป็นการแสดง คนอื่นเขาเล่นกัน เราก็ต้องเล่นได้"

ฉาก ไหนยากที่สุด ฉากจูบนี่หรือเปล่า "ฉากจูบปูว่าไม่ใช่ฉากยาก" แหม...ก็แหงล่ะสิ คนกำลังอยู่ในช่วงอินเลิฟ เจ้าตัวค้อนขวับกับคำแซว ก่อนบอกถึงฉากที่ยากจริงๆ ว่า "ฉากที่ยากคือฉากที่ต้องร้องไห้วันละ 26 ซีน ถ่ายวันละ 30 ซีน เฉลี่ยจันทร์ถึงพุธ ถ่ายวันละ 30 ซีน และต้องร้องไห้วันละ 26 ซีนทุกวันที่มีถ่าย"

"เรื่องนี้เป็นเรื่อง ที่ปูภาคภูมิใจและอยากให้คนดูที่สุด ปูไม่เคยขอเรื่องละครหรือว่าฝากขนาดนี้ แต่เรื่องนี้ปูขอพิสูจน์ฝีมือนิดหนึ่ง ติดตามชมกันด้วย เรื่องนี้ยากที่สุดเท่าที่ปูเคยเล่นมา ฝากดูกันด้วยนะคะ"

คราวนี้จะได้รู้กันว่า ที่ดังน่ะ เพราะกระแสหรือฝีมือกันแน่!!

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook