ไมค์ลั่น! “ขอเป็นหมาจนตรอก สู้จนตัวตาย” หลังตำรวจขีดเส้น 18.00 น. ต้องเลิกชุมนุม
บรรยากาศบริเวณสี่แยกราชประสงค์ ถนนราชดำริ เริ่มมีกลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มเข้ามาร่วมชุมนุมแล้วโดยใช้การเดินเท้า มาบนถนนพระราม 1 เพื่อมุ่งหน้าไปยังแยกราชประสงค์ หลัง จากที่กลุ่มคณะราษฎรออกแถลงการณ์นัดหมายกลุ่มผู้ชุมนุมให้มาชุมนุมในเวลา 16.00 น. โดยมีกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดูแลอยู่ ประกอบด้วย ฝั่งบิ๊กซีราชดำริ ตลอดจนห้างเอราวัณ, ฝั่งเซ็นทรัลเวิลด์สยามพารากอน ไปถึงแยกเฉลิมเผ่า และบนทางเดินสกายวอร์คแนวรถไฟฟ้าทั้งหมด ห้ามกลุ่มผู้ชุมนุมขึ้นมาด้านบน ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัย
ขณะที่ กลุ่มผู้ชุมนุมได้ลงมาพื้นผิวการจราจรบริเวณสี่แยกราชประสงค์ และมีการผลักดันแนวของเจ้าหน้าที่ ที่พยายามกระชับพื้นที่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมขึ้นไปบนฟุตบาท แต่ไม่เป็นผล เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมฝ่าแนวกั้นของเจ้าหน้าที่ พร้อมตะโกนขับไล่ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ออกจากนายกรัฐมนตรี และเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวแทนแกนนำ แต่ยังไม่มีเหตุการณ์กระทบกระทั่งกันเกิดขึ้น
ต่อมาเวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำรถติดเครื่องเสียงมาประกาศว่า การกระทำของประชาชนถือเป็นการกระทำผิดประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง และขอให้ประชาชนสลายการชุมนุมออกจากพื้นที่
ด้าน นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง ปราศรัยว่า วันนี้ตนมาสานฝันและอุดมการณ์ให้กับแกนนำทุกคน ถ้าวันนี้ยังจะสลายการชุมนุมอีกเจอกันแน่ วันนี้เรายึดราชประสงค์ ที่ที่เคยมีคนตายได้แล้ว ขอเรียกร้องให้ปล่อยเพื่อนของเรา ทั้งนี้ ตนได้รับรายงานว่ามีทหารไปประจำที่อาคารรัฐสภา นี่คือกลิ่นไอของเผด็จการ อาจมีการรัฐประหารอีกครั้ง ซึ่งถ้าหากครั้งนี้มีการรัฐประหารอีกเจอประชาชนแน่ พวกเราจะสู้ไปด้วยกัน ถ้าเพื่อนเราติดคุกแล้วเขาไม่ปล่อยเพื่อนเรา เราก็จะติดคุกไปด้วย "วันนี้เราเป็นหมาจนตรอก สู้จนตัวตาย ไม่มีที่ให้เราถอยแล้ว ถ้ากล้าทำกับประชาชนก็ให้รู้ไว้ว่านรกรอรับอยู่"
นายภาณุพงศ์ กล่าวอีกว่า หากเวลา 18.00 น. แล้วเรายังไม่เลิกชุมนุม เขาจะสลายการชุมนุม เพราะฉะนั้นเราจะไม่เลิก มันหมดเวลาที่จะถอยแล้ว ยิ่งถอยยิ่งเสียกำลังพล วันนี้คนที่เขาจ้องจะจับก็คือตน ถ้าใครจะจับตนก็มาให้เต็มเครื่องแบบ ให้สมเกียรติของตนด้วย แต่ตนเชื่อมั่นว่าทุกคนในนี้คือแกนนำ ขอบคุณทุกคนที่ปกป้องซึ่งกันและกัน