"ช่อ" ลั่นม็อบสะท้อนความโกรธของปชช. คิดรัฐประหาร เจอม็อบดาวกระจายทั่วประเทศแน่
พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์หลังเข้าร่วมชุมนุมคณะราษฎร 2563 บริเวณแยกราชประสงค์ ว่า การชุมนุมของมวลชนวันที่ 15 ต.ค.สะท้อนให้เห็นถึงความโกรธของประชาชน ที่ได้ร่วมกันออกมาแสดงพลังว่าพวกเขาไม่ทนกับการกดขี่แบบนี้อีกต่อไป และทำให้เห็นว่าประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินไม่ได้ทำให้มวลชนเกรงกลัว สิ่งที่รัฐบาลทำไม่มีความชอบธรรม เพราะเหตุการณ์ชุมนุมเมื่อวันที่ 14 ต.ค. ไม่ได้เข้าเงื่อนไขที่รัฐบาลอ้างว่าผู้ชุมนุมขัดขวางเสด็จหรือการบุกเข้าไปทำร้าย มีเพียงการชูสามนิ้ว แต่มีการปั้นข่าวเท็จใส่ร้ายประชาชน ดังนั้นจึงต้องมีการตั้งกรรมการตรวจสอบว่าข้อหาที่รัฐบาลกล่าวหาประชาชนอยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริงหรือไม่
เมื่อถามถึงการจับกุมแกนนำจะส่งผลกระทบต่อกระบวนการเคลื่อนไหวหรือไม่ แกนนำคณะก้าวหน้า ระบุว่า การชุมนุม 15 ต.ค. ชัดจนแล้วว่าแกนนำไม่ใช่หัวใจสำคัญของการชุมนุมอีกต่อไป แต่มวลชนจะไม่ยอมหยุดเดินหน้า เพราะประชาชนเป็นแกนนำตัวเอง วันนี้ไม่สำคัญอีกแล้วว่าใครนำ แต่คือจำนวนคนที่เป็นสิ่งที่กดดันรัฐบาล
เมื่อถามถึงกระแสข่าวรัฐประหาร พรรณิการ์ เห็นว่า เป็นสิ่งทีผู้มีอำนาจพยายามจะสร้างเงื่อนไขให้เกิดขึ้น การจัดมวลชนเผชิญหน้ากัน รวมถึงการเอารัฐประหารเข้าไปในรัฐสภา ตนตั้งคำถามว่ามีความจำเป็นอะไร ถ้าไม่ต้องการยึดอำนาจ วันนี้หลายคนที่ได้สอบถาม เขาบอกว่าจับเป็นจับยิงเป็นยิง ประวัติศาสตร์เดือน ต.ค. บอกกับคนไทยแล้วว่ากาาปราบปรามด้วยความรุนแรงไม่ได้ทำให้ประเทศกลับไปสู่ความสงบสุข
"ลองดูแล้วกันว่าถ้าทำรัฐประหาร เจอการชุมนุมแบบดาวกระจายทั่วประเทศแน่ อย่าคิดว่าพวกเขาไม่กล้า วันนี้ประชาชนตื่นแล้ว และจะไม่หลับตาอีกต่อไป"