ล้วงใจ "หนุ่ม ศรราม" ชีวิตพ่อเลี้ยงเดี่ยว ไม่เคยกีดกัน "ติ๊ก" ให้เจอลูกเดือนละ 2 ครั้ง
พร้อมทำทุกอย่างอย่างเต็มที่เพื่อ น้องวีจิ ลูกสาววัย 1 ขวบครึ่ง คำพูดจากปากของพระเอกรุ่นใหญ่ หนุ่ม-ศรราม เทพพิทักษ์ หลังตัดสินใจจบสถานะชีวิตคู่กับอดีตภรรยานักแสดงสายบู๊ ติ๊ก-กนิษฐรินทร์ พัชรภักดีโชติ หรือ ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ เพราะปัญหาส่วนตัวที่เกิดขึ้นภายในครอบครัว
โดยล่าสุดทางด้านของ หนุ่ม ศรราม ที่เดินทางมาร่วมงานบวงสรวงละคร บังเกิดเกล้า ณ สถานีโทรทัศน์ อมรินทร์ทีวี ช่อง 34 ก็ได้ออกมาเปิดใจถึงบทบาทการทำหน้าที่เป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว รวมถึงใช้โอกาสนี้ชี้แจงประเด็นดราม่ากรณีที่เจ้าตัวถูกชาวเน็ตบางคนมองว่า พยายามกีดกันไม่ให้แม่ลูกได้พบเจอกันในช่วงที่ผ่านมา
ช่วงนี้ดูรับงานเยอะมาก ?
“เรียกว่ารับงานเยอะก็ไม่ได้หรอกครับ คือ ผมทำงานมาตลอดระยะเวลา เพียงแต่ว่าช่วงนี้งานที่ทำได้ออนแอร์พร้อมกัน 2 เรื่อง คือ บังเกิดเกล้า ทางช่องอัมรินทร์ทีวี และเรื่องเพลิงภริยา ทางช่อง 8 และมีงานพิธีกร ผมทำงาน 7 วันมาตลอดชีวิตอยู่แล้ว ในช่วงโควิด-19 เราอาจจะทำงานกันไม่ได้ทุกฝ่าย พอเริ่มทำงานได้ละครก็เริ่มถ่ายได้”
แบ่งเวลาดูแลน้องวีจิยังไงบ้าง ?
“ก็ดูแลปกติทั่วไปถ้าเกิดว่ามีเวลา ตื่นเช้าก็พาไปใส่บาตร แล้วก็พาเขาไปทานข้าวเช้า ถ้าวันไหนเลิกงานเร็ว หรือมีวันหยุด1-2 วัน ก็อาจพาเขาไปเที่ยวทะเล หรือถ้าไปดูสิ่งแวดล้อมอะไรที่เปลี่ยนไป ตามพัฒนาการที่เค้าควรจะเป็น”
เวลาออกมาทำงานคุณย่าเป็นคนเลี้ยงใช่ไหม ?
“มีพี่เลี้ยงจากเนิร์สเซอรี่ดูแลอยู่แล้วครับ และมีพี่เลี้ยงที่ดูแลคุณแม่อยู่แล้ว”
มีกังวลอะไรไหมในช่วงที่เราออกมาทำงาน ?
“ไม่ห่วงครับ”
เป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวบทแบบหนักไหม ?
“ไม่หนักนะครับ ผมคิดว่าอะไรที่เป็นสิ่งที่เราทำแล้วมีผลดีต่อลูก คุณพ่อคุณแม่ทุกคนก็เป็น จะให้เหนื่อยแค่ไหน หนักแค่ไหน สิ่งต่างๆ ที่ทำให้ลูก เราเต็มใจทำให้อยู่แล้ว เหมือนที่เราเคยแต่พระคุณบุพการีคุณพ่อคุณแม่ของเรา วันนี้พอเรามีลูกก็เข้าใจถึงความเป็นพ่อแม่ที่เคยรักเรา เราก็รักลูกและคอยดูแลเขาให้ดีที่สุด”
พาน้องไปกองด้วยบ่อยไหม ?
“ก็บ่อยนะ ถ้าเกิดว่าวันไหนมีโลเคชั่นที่สามารถให้เขาวิ่งเล่นได้ บริเวณพื้นที่หน้าบ้านหรือสนามหญ้า หรือวันไหนผมมีแค่ฉากสองฉาก ก็บอกลูกว่าเดี๋ยวไปดูป๊ะป๊าถ่ายหนังฉากสองฉากเสร็จแล้ว เราไปหาข้าวทานกัน หรือไปเที่ยวเล่นกัน”
พอได้ออกไปเที่ยวไปทำงานกับพ่อแล้วน้องเป็นยังไงบ้าง ?
“ก็ไม่มีอะไรครับเป็นเรื่องปกติ วีจิก็ค่อย ๆ ปรับตัว ผมเองก็ต้องค่อย ๆ ปรับตัวด้วยเพราะว่าวันนี้ ก็ต้องเริ่มตอบแมสเสจที่ติดต่องานวีจิ ให้เขาถ่ายรีวิวผ้าห่มหรือเสื้อผ้า แกต้องอ่านไดเร็กแมสเสจมากขึ้น ขอบคุณที่คนเอ็นดูน้อง”
เลือกงานให้น้องยังไงบ้าง ?
“พอผมมีลูก ก็รู้สึกนะการพยายามให้เด็กคนนึง แข่งอะไรเหมือนที่เราโตแล้วทำ เหมือนละครที่เราเคยเล่น เราต้องแสดงกับเด็ก บางทีต้องปลุกเขามาถ่ายเพราะเป็นเวลานอน วันนี้เราเข้าใจดีเลย เราไม่อยากทำแบบนี้ ดูเหมือนเป็นการบังคับเขาเหมือนกันนะ เพราะฉะนั้นก็จะเลือกในสิ่งที่ยืดหยุ่นกันได้ และอะไรที่วีจิสามารถปรับเข้าหาสิ่งที่เข้ามาได้มากกว่า”
พามากองด้วยไปบ่อยผู้จัดเห็นแววบ้างไหม ?
“ผมว่ายังไม่ถึงไวขนาดนั้น วีจิยังเล็กอยู่ เพิ่งจะขวบครึ่งเอง จริงๆ เกือบได้เล่นรับเชิญกับพ่อแล้วในเรื่องเพลิงภริยา วันนั้นฝนก็พาทาเรียไป ส่วนผมพาวีจิไป แต่วันนั้นไม่ได้ถ่ายฉากจบ ซึ่งไนกี้-นิธิดล กับ ไอซ์-อมีนาต้องมีลูกสองคน ตอนแรกตั้งใจว่าจะอุ้มทาเรียกับวีจิเข้าฉาก ปรากฏว่าวันนั้นฝนตก เลยต้องยกซีนนั้นไป เลยไม่ได้เข้าฉากด้วยกัน”
น้องมีถามถึงคุณแม่บ้างไหม ?
“ตอนนี้วีจิยังพูดเป็นคำไม่ได้ กำลังจะพูดเป็น แต่ในเรื่องรายละเอียดของการพบลูกของติ๊ก คือในระยะที่ผ่านมา เรากำลังหาข้อสรุปกันอยู่ ซึ่งทางคุณติ๊กเอง ก็ไปประสานกับมูลนิธิหนึ่ง แต่ขอไม่เอ่ยชื่อ คราวนี้ผมเองก็ติดงานละคร เลยมอบอำนาจให้ที่ปรึกษาทางกฎหมาย ได้ไปดูสถานที่ ดูความเหมาะสม ว่าโอเคไหม ปลอดภัยไหม ปรากฎว่าไม่โอเค เลยเรียนแจ้งไปกับคุณติ๊ก เขาก็ไปประสานกับอีกหน่วยงานนึง ซึ่งเป็นของภาครัฐ ผมเพิ่งไปดูสถานที่มา คุณติ๊กก็จะได้พบลูก และด้วยความที่ผมงานยุ่งจริง ๆ ในระยะแรกอาจให้เจอแค่เดือนละ 2 ครั้งไปก่อน และขออนุญาตชี้แจงว่าผมไม่ได้กีดกันไม่ให้คุณติ๊กพบลูก ไม่ว่าคุณติ๊กจะเคลียร์หนี้หมดแล้วหรือยังไม่หมด ผมก็ให้พบลูก ผมให้สิทธิ์ในการเจอลูกอยู่แล้ว อะไรที่เป็นดีต่อวีจิ ผมทำให้ ส่วนเรื่องเคลียร์หนี้ เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณติ๊กผมไม่ก้าวก่าย ในส่วนของเรื่องโรงเรียนที่มีการพูดถึงว่าจะต้องมีการส่งเข้าโรงเรียน ตอนนี้วีจิเพิ่งขวบครึ่ง กว่าจะเข้าก็อีกปีนึง ผมขออนุญาตเรียนแบบนี้ว่า เรื่องค่าเล่าเรียนในอนาคตของวีจิ ค่าเลี้ยงดู ค่าดูแลทุกอย่าง อยู่ในความรับผิดชอบของผมแต่เพียงผู้เดียว ไม่เกี่ยวกับคุณติ๊ก เพราะฉะนั้นการที่ผมจะสนับสนุนการศึกษาของวีจิในอนาคต ผมจะทำตามกำลังของผม ผมมีปัญญาเท่าไหนที่จะส่งลูกเรียน ผมก็จะทำในสิ่งที่เท่าที่ผมจะสามารถทำได้ เพราะฉะนั้นสิ่งไหนที่เป็นจินตนาการ อันนี้ไม่ใช่ ขอให้เข้าใจว่าสำหรับผมกับคุณติ๊ก ความสัมพันธ์ของเราจบแล้ว ไม่มีทางจะย้อนกลับไปเหมือนเดิมได้ เราทำหน้าที่พ่อแม่ให้ดีที่สุด ผมขออนุญาตตอบคอมเม้นท์ที่เข้ามาผ่านตรงนี้ละกัน”
สถานที่ในการเจอลูก มีการตกลงกันว่ายังไง ?
“พูดคุยกันครับ เป็นสถานที่ของหน่วยงานภาครัฐ ผมไปดูแล้ว เห็นว่าปลอดภัย เลยมีความเห็นว่าไปพบที่นี่ก็ได้ แต่ยังคงเป็นแบบไปเช้าเย็นกลับ หรืออาจอยู่ในเวลาที่เราตกลงกันว่าใครไม่ติดงาน สะดวกอะไรยังไง แต่ยังไม่ให้ค้างคืน”
น้องเจอแม่ครั้งแรกเป็นยังไงบ้าง เพราะคนปลาบปลื้มกับภาพที่เห็น ?
“อันนี้ผมขออนุญาตไม่ตอบ เพราะผมไม่ได้ติดตามแล้ว”
มีการตกลงกับติ๊กเรียบร้อยแล้ว ?
“ในบันทึกหลังใบหย่า ผมมีสิทธิ์ในการรับผิดชอบลูกแต่เพียงผู้เดียวอยู่แล้ว แต่ในหน้าที่ของพ่อและแม่ อะไรที่คุณติ๊กประสานมา แล้วเป็นผลดีต่อลูก และผลดีต่อตัวเขาด้วย ผมทำ ผมไม่ได้ละลาย ฉะนั้นในสิ่งที่คุณติ๊กเสนอมา ถ้าไม่ว่างผมให้ที่ปรึกษาด้านกฏหมายไปประมาณ ถ้าว่างผมไปทำเอง เพื่อทุกสิ่งทุกอย่างจะได้เกิดผลดีกับวีจิที่สุด”
เราเสียใจไหมที่คนหาว่ากีดกัน ทั้งที่กำลังหาทางออกร่วมกัน ?
“ไม่เสียใจเลย แค่ชี้แจงไปเพราะไม่อยากให้คนเข้าใจผิด"
- "ติ๊ก กนิษฐรินทร์" โพสต์ถึงน้องวีจิ บันทึกของแม่จ๋า แฟนๆ แห่ส่งกำลังใจ
- "ติ๊ก กนิษฐรินทร์" ไม่ท้อ จ่ายเงินปิดหนี้แล้ว 3 ราย ขอบคุณทุกคนที่ให้โอกาส
- ส่องคอนโด "ติ๊ก กนิษฐรินทร์" ตกแต่งสวยสบายตาน่าอยู่ โชว์ไลฟ์สไตล์
- "ติ๊ก" สุดดีใจได้เจอ "น้องวีจิ" ในคลิปเห็น "ศรราม" แทบไม่ละสายตา
อัลบั้มภาพ 12 ภาพ