#Save12HKYouths ขึ้นอันดับ 1 เทรนด์ร้อน ชาวเน็ตไทยจี้จีนปล่อยเยาวชนฮ่องกง

แฮชแท็ก #Save12HKYouths ถูกพูดถึงอย่างมากในหมู่ผู้ใช้งานเว็บไซต์ทวิตเตอร์ในไทย จนติดอันดับ 1 เทรนด์ร้อนอีกครั้งช่วงบ่ายวันนี้ (19 ต.ค.) เพื่อเรียกร้องร้องให้จีนปล่อยตัวเยาวชนที่เป็นนักเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยชาวฮ่องกง 12 คน

แฮชแท็ก #Save12HKYouths ขึ้นสู่อันดับ 1 เทรนด์ร้อนในทวิตเตอร์วันนี้ (19 ต.ค.)

ย้อนกลับไปเมื่อปลายเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา เยาวชน 12 คน กำลังขึ้นเรือสปีดโบ๊ตออกจากท่าเรือโปต่อยโอ ทางใต้ของฮ่องกง เพื่อหนีไปยังไต้หวัน ที่อยู่ห่างออกไปราว 600 กิโลเมตร แต่ขณะเรือแล่นอยู่ในน่านน้ำจีน ที่ห่างจากฮ่องกงไปเพียง 78 กิโลเมตร ก็ถูกเจ้าหน้าที่จีนจับกุม และนำตัวไปควบคุมยังสถานที่แห่งหนึ่งในมณฑลกวางตุ้ง โดยตั้งข้อหาเข้าเมืองผิดกฎหมาย

หนึ่งในเยาวชน 12 คนนี้ มีนักเคลื่อนไหวรายหนึ่งที่ถูกตำรวจฮ่องกงตั้งข้อหาละเมิดกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ ที่จีนเพิ่งประกาศใช้กับฮ่องกงเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งกฎหมายดังกล่าวได้รับเสียงวิจารณ์จากหลายชาติว่าละเมิดสนธิสัญญาที่จีนให้ไว้กับสหราชอาณาจักรก่อนการคืนฮ่องกงสู่จีน ว่าจะรักษาเสรีภาพของฮ่องกงนาน 50 ปีหลังจากฮ่องกงกลายเป็นส่วนหนึ่งของจีน ซึ่งก็คือปี 2590

หลังจากนั้นชาวฮ่องกงจำนวนหนึ่งก็ออกมาเรียกร้องให้ทางการจีนปล่อยตัวเยาวชนทั้ง 12 คน แต่ก็ไม่เป็นผล

ส่วนญาติของผู้ที่ถูกจับกุมทั้ง 12 คนนี้ ก็เรียกร้องให้จีนอนุญาตให้ตั้งทนายความเพื่อสู้คดี แต่ทางการจีนก็ไม่ได้ตอบรับเรื่องนี้แต่อย่างใด

ชาวเน็ตไทย-ฮ่องกง กระชับสัมพันธ์

แฮชแท็ก #Save12HKYouths ไม่ได้ขึ้นเทรนด์ครั้งนี้เป็นครั้งแรก แต่เมื่อคืนวานนี้ (18 ต.ค.) ก็ขึ้นสู่อันดับ 1 เทรนด์ร้อนในไทยของทวิตเตอร์แล้วเช่นกัน จากการรณรงค์ผ่านโซเชียลมีเดียให้ช่วยส่งเสียงช่วยเหลือชาวเน็ตฮ่องกงที่เรียกร้องเรื่องดังกล่าว ตอบแทนการที่ชาวเน็ตฮ่องกงส่งกำลังใจและสนับสนุนการเคลื่อนไหวของเยาวชนไทยตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา

ไม่ใช่แค่นั้น คืนวานนี้ (18 ต.ค.) ที่การชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ บริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ก็มีการส่งเสียงพร้อมกันของผู้ชุมนุมเรียกร้องไปยังจีนว่าให้คืนเสรีภาพให้ฮ่องกง ด้วย

แฮชแท็กนี้ยังทำให้แฮชแท็ก #MilkTeaAlliance ที่เกิดขึ้นหลังการร่วมใจของชาวเน็ตไทยที่แสดงจุดยืนสนับสนุนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในไต้หวันและฮ่องกง ตอบโต้กับผู้ใช้อินเทอร์เน็ตชาวจีน ได้รับความนิยมอีกครั้ง