เปิดนโยบาย “ทรัมป์” และ “ไบเดน” ในการเลือกตั้ง ปธน. สหรัฐฯ 2020
อีก 1 วันเท่านั้น ทั่วโลกก็จะได้รู้กันแล้วว่าใครจะขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีคนล่าสุดของสหรัฐอเมริกา ระหว่าง “ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์” จากพรรครีพับลิกัน หรือ “โจ ไบเดน” ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต
ในขณะนี้ ทั้ง 2 พรรคต่างเร่งเครื่องเดินหน้าหาเสียงเพื่อชัยชนะ แต่ก่อนที่เราจะได้รู้ผลในวันที่ 3 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ Sanook ได้รวบรวมนโยบายใน 8 ประเด็นหลักของ 2 ผู้ลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มาฝากกัน
ไวรัสโคโรนา
โดนัลด์ ทรัมป์
ทรัมป์จัดตั้งกองกำลังไวรัสโคโรนาขึ้น ในช่วงปลายเดือนมกราคม 2563 ซึ่งเขาระบุว่า ได้เปลี่ยนแปลงเป้าหมายการทำงานไปสู่ “ความปลอดภัยและการเปิดประเทศของเรา” ทรัมป์ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาการรักษาและวัคซีนเพื่อป้องกันโรคไวรัสโคโรนา โดยทุ่มเงินมากกว่าหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กับโครงการนี้
โจ ไบเดน
ไบเดนต้องการจัดตั้งโครงการตรวจสอบหาการติดเชื้อแห่งชาติขึ้น โดยตั้งศูนย์ตรวจหาเชื้อโรคอย่างน้อย 10 จุดในทุกรัฐของสหรัฐฯ และให้บริการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาแก่ประชาชนทุกคนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ เขายังสนับสนุนการสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะอีกด้วย
สิ่งแวดล้อม
โดนัลด์ ทรัมป์
ทรัมป์มีความกังขาเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ และต้องการขยายการใช้พลังงานสิ้นเปลือง โดยตั้งเป้าที่จะเพิ่มอัตราการเจาะหาน้ำมันและก๊าซ พร้อมกันนี้ยังลดนโยบายการปกป้องสภาพแวดล้อมลง นอกจากนี้ ทรัมป์ยังถอนตัวออกจากความตกลงปารีส (Paris Agreement) ซึ่งเป็นข้อตกลงนานาชาติด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยสหรัฐฯ จะออกจากการเป็นประเทศสมาชิกอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปีนี้
โจ ไบเดน
ไบเดนระบุว่า ทันทีที่เขาได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดี เขาจะเข้าร่วมในความตกลงปารีสอีกครั้ง โดยเขาต้องการให้สหรัฐฯ มุ่งสู่การเป็นประเทศปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2050 พร้อมประกาศยกเลิกสัญญาการเจาะหาน้ำมันและก๊าซในที่ดินสาธารณะ และทุ่มเงินมากกว่าสองพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไปกับการใช้พลังงงานสีเขียว
เศรษฐกิจ
โดนัลด์ ทรัมป์
ทรัมป์ปฏิญาณว่าจะสร้างงานมากกว่า 10 ล้านตำแหน่ง ภายใน 10 เดือน และสร้างธุรกิจขนาดเล็กหน้าใหม่มากกว่าหนึ่งล้านธุรกิจ เขายังต้องการลดภาษีเงินได้ รวมทั้งลดหย่อนภาษีให้กับบริษัทต่าง ๆ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้พวกเขารักษาตำแหน่งงานในสหรัฐฯ เอาไว้
โจ ไบเดน
ไบเดนต้องการเพิ่มภาษีจากผู้ที่มีรายได้สูง เพื่อใช้ในบริการสาธารณะ แต่ก็ระบุว่า การเพิ่มภาษีนี้จะส่งผลต่อบุคคลที่ทำเงินได้มากกว่า 400,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปีเท่านั้น ทั้งนี้ ไบเดนยังสนับสนุนให้เพิ่มอัตราค่าแรงขั้นต่ำ จาก 7.25 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อชั่วโมง เป็น 15 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อชั่วโมงอีกด้วย
สาธารณสุข
โดนัลด์ ทรัมป์
ทรัมป์ต้องการยกเลิกกฎหมายประกันสุขภาพ (Affordable Care Act) หรือที่รู้จักกันในชื่อ โอบามาแคร์ (Obamacare) ที่ถูกนำมาใช้ในสมัยของ “บารัค โอบามา” ซึ่งเพิ่มระเบียบของรัฐบาลกลางเข้าไปในระบบประกันสุขภาพของเอกชน รวมทั้งประกาศให้การปฏิเสธไม่ให้การดูแลประชาชนที่มีโรคมาก่อนเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย โดยทรัมป์ระบุว่าเขาต้องการเปลี่ยนแปลงเพื่อทำให้ระบบนี้ดีขึ้น แต่ก็ยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจนเปิดเผลออกมา
โจ ไบเดน
ไบเดนต้องการปกป้องและขยายการใช้กฎหมายประกันสุขภาพ เขายังต้องการที่จะลดอายุของผู้ที่มีสิทธิ์เข้าถึงเมดิแคร์ (Medicare) ซึ่งเป็นนโยบายที่สนับสนุนโดยรัฐบาลกลางสหรัฐฯ โดยไบเดนต้องการลดอายุของผู้สูงอายุ จากตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป มาเป็น 60 ปีขึ้นไป และเขายังต้องการให้ชาวอเมริกันทุกคนมีทางเลือกในการสมัครแผนประกันสุขภาพที่มีความคล้ายคลึงกับเมดิแคร์ด้วย
ต่างประเทศ
โดนัลด์ ทรัมป์
ทรัมป์ยังเน้นย้ำคำสัญญาที่จะลดระดับกองกำลังของสหรัฐฯ ที่ประจำการอยู่ในประเทศต่าง ๆ ลง แต่ขณะเดียวกันก็ทุ่มเงินให้กับกองทัพด้วย นอกจากนี้ ทรัมป์ยังกล่าวว่า จะยังคงท้าทายประเทศพันธมิตรต่อไป รวมทั้งใช้นโยบายภาษีการค้ากับประเทศจีนต่อไป
โจ ไบเดน
ไบเดนให้สัญญาว่าเขาจะทำการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับประเทศพันธมิตรของสหรัฐฯ นอกจากนี้ ไบเดนยังระบุว่า เขาจะยกเลิกภาษีแต่ฝ่ายเดียวกับประเทศจีน และจะทำให้ประเทศจีนกลายมาเป็นแนวร่วมระหว่างประเทศ
เชื้อชาติและระบบตำรวจ
โดนัลด์ ทรัมป์
ทรัมป์กล่าวว่า เขาไม่เชื่อว่าการเหยียดเชื้อชาติเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่อยู่ในกองกำลังตำรวจสหรัฐฯ เขายังแสดงจุดยืนว่าตัวเขาเป็นผู้สนับสนุนการบังคับใช้กฎหมาย แต่ไม่เห็นด้วยกับการล็อกคอ และเสนอที่จะทุ่มงบประมาณเพื่อการฝึกฝนให้ดีขึ้น
โจ ไบเดน
ไบเดนชี้ว่าการเหยียดเชื้อชาติเป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง และนโยบายของตำรวจก็แสดงให้เห็นถึงความไม่เสมอภาคทางเชื้อชาติที่อยู่ในระบบยุติธรรม แต่ไบเดนก็ปฏิเสธที่จะตัดงบหรือยุบหน่วยงานตำรวจ
อาวุธปืน
โดนัลด์ ทรัมป์
ทรัมป์ตีความอย่างกว้าง ๆ สำหรับรัฐธรรมนูญเรื่องสิทธิอันชอบธรรมในการครอบครองอาวุธ แต่เขาก็เสนอการตรวจสอบประวัติย้อนหลังที่เข้มข้นสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อปืน หลังจากการกราดยิงที่เกิดขึ้นในปี 2019 แต่ก็ยังไม่มีข้อชัดเจน
โจ ไบเดน
ไบเดนเสนอจะประกาศห้ามอาวุธจู่โจม ต้องมีการตรวจสอบประวัติบุคคล จำกัดจำนวนการครอบครองอาวุธ และแก้ไขกฎหมายให้มีขั้นตอนการฟ้องร้องผู้ผลิตหรือจำหน่ายปืนที่ละเลยกฎหมายที่ง่ายขึ้น นอกจากนี้ เขายังจะให้การสนับสนุนการทำวิจัยเพื่อป้องกันความรุนแรงจากการใช้ปืน
ศาลสูง
โดนัลด์ ทรัมป์
ทรัมป์ชี้ว่า เขามีสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่จะแต่งตั้งผู้พิพากษาที่เป็นตำแหน่งว่าง ในระหว่างการเป็นประธานาธิบดีสมัยแรกของเขา และได้เสนอชื่อเอมี บาร์เรตต์ ผู้พิพากษาฝั่งอนุรักษ์นิยมเป็นผู้พิพากษาศาลสูงคนใหม่ ปัญหาหนึ่งที่ศาลสูงจะต้องเจอหลังจากนี้ คือ สิทธิในการทำแท้งในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นสิ่งที่ทรัมป์และผู้พิพากษาบาร์เรตต์ไม่เห็นด้วย
โจ ไบเดน
ไบเดนต้องการให้การเสนอชื่อผู้พากษาศาลสูงคนใหม่ เกิดขึ้นหลังจากการเลือกตั้ง โดยเขาระบุว่า หากเขาได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี เขาจะทำงานเพื่อผ่านร่างกฎหมายที่รับรองสิทธิของผู้หญิงในการทำแท้ง