"ศรราม" เปิดใจ ชีวิตนี้ทุ่มสุดตัวเพื่อลูก พูดตรงๆ รอฟังเพียงคำว่ารักจาก "น้องวีจิ"

"ศรราม" เปิดใจ ชีวิตนี้ทุ่มสุดตัวเพื่อลูก พูดตรงๆ รอฟังเพียงคำว่ารักจาก "น้องวีจิ"

"ศรราม" เปิดใจ ชีวิตนี้ทุ่มสุดตัวเพื่อลูก พูดตรงๆ รอฟังเพียงคำว่ารักจาก "น้องวีจิ"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พร้อมเป็นทุกสิ่ง พร้อมทำทุกอย่างอย่างเต็มที่เพื่อ วีจิ ลูกสาววัย 1 ขวบครึ่ง สำหรับพระเอกพ่อลูกอ่อนซามูไร หนุ่ม-ศรราม เทพพิทักษ์ หลังตัดสินใจสิ้นสุดสถานะชีวิตคู่กับอดีตภรรยา เจ้าตัวได้มาเปิดใจผ่านรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 ถึงบทบาทการทำหน้าที่พ่อที่เฝ้ารอคำว่า รัก คำนี้จากปากลูกสาวน้องวีจิ คนที่ทำให้รู้ถึงเป้าหมายในชีวิตนี้จะทำอะไรเพื่อใคร เพื่ออนาคตของใคร

ฉายา ซามูไร พ่อลูกอ่อน มาจากไหน ?
“มาจากว่าเราสัมภาษณ์กับพี่ๆ สื่อมวลชนไปครับ เขาบอกเราว่าจะเรียกเราว่าเป็น คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวได้ไหม เราก็ตอบขำๆ ไปคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวฟังดูมีคนใช้เยอะแล้ว เราเลยบอกว่าใช้ ซามูไรพ่อลูกอ่อน ดีกว่าก็เลยใช้คำนี้มาครับ มันมาจากการ์ตูนญี่ปุ่นที่เราดูตอนเด็กๆ ก็จะมีลูกเกาะอยู่ข้างหลังเราเห็นก็น่ารักดี”

แล้วในชีวิตจริงตอนนี้เป็นแบบนั้นไหม ?
“เป็นนะครับ ตอนนี้เราก็ตั้งใจทำงานเลี้ยงดูลูกให้ดีที่สุด”

ตอนนี้ก็รับละคร 7 วันเลย แล้วเอาเวลาที่ไหนอยู่กับลูก แล้วพักผ่อนตัวเอง ?
“ใช่ครับ ตอนนี้รับ 2 เรื่อง คือ ถ้าละครถ่าย 8 – 9 โมง เราจะใส่บาตรพร้อมวีจิ เพราะเราสอนให้ลูกใส่บาตรตั้งแต่อยู่ในท้องอยู่แล้ว ตื่นมาใส่บาตรกัน ผมเป็นคนชอบใส่บาตรถ้าเราขับรถไปทำงานเช้าแล้วเราเจอพระตรงไหนเราก็จะแวะใส่บาตรอยู่เป็นประจำและทำมาตลอด เราจะซื้อของติดไว้ในรถอยู่แล้ว อย่างในช่วงเช้าที่เราบอกว่าพาลูกใส่บาตรพอใส่เสร็จก็จะเล่นกับเขาในช่วงเช้า แล้วก็ทานข้าวกับลูกก่อนไปทำงาน หรือ ถ้าวันไหนเราถ่ายน้อยแค่ 2 – 3 ฉากเราก็จะพาลูกไปกองด้วย พาไปโลเคชั่นที่สบายๆ พอเราถ่ายเสร็จเราก็พาเขากับคุณแม่ไปทานข่าวนอกบ้าน ให้เขาได้เจอสิ่งแวดล้อมอื่นๆ บ้าง บางทีสตูดิโอใหญ่มากมีต้นไม้เยอะเราก็สามารถพาไปโลเคชั่นได้ อีกอย่างคือ วีจิ เลี้ยงง่ายด้วย ตอนนี้ 1 ขวบกับ 6 เดือนครับ”

เหนื่อยไหมที่ต้องเลี้ยงลูกคนเดียว ?
“ไม่เหนื่อยเลยครับ เพราะเราก็มีพี่เลี้ยงอยู่แล้วครับ ทั้งคุณแม่ และ วีจิ”

ความเป็นส่วนตัวของเราเหลือไหม ?
“ก็ยังมีนะครับ เพราะผมรู้สึกว่ามนุษย์เราต้องมีพลังบวกก่อน ถ้าตัวเราเองไม่มีพลังบวกคนรอบข้าง คนใกล้ชิดเราก็จะไม่มีพลังบวก ไม่ใช่กลับบ้านแล้วเราจะดูแลค่อยลูกกับคุณแม่ ไม่ใช่ครับ ผมเป็นปกติ ปุถุชน คนธรรมดาคนหนึ่งถ้าวันนี้ผมเลิกงานเร็วผมอยากจะแวะกินลาบเป็ดข้างทางทำให้ผมมีความสุขผมก็แวะ เราก็ต้องมีเวลาให้กับตัวเองด้วย”

“อย่างล่าสุดเราก็พา วีจิ ไปเที่ยวเพราะวันนั้นไม่ได้มีคิวถ่าย บังเกิดเกล้า เลยตัดสินใจว่าพา วีจิ ไปทะเลดีกว่าให้ไปเดินดูทรายดูปลาบ้าง พาเขาไปเล่นน้ำ”

เวลาลงไอจีจะมีคอมเมนต์ต่างๆ ทั้งดีและไม่ดีเรามีวิธีการจัดการยังไง ?
“ผมเชื่อว่าบางครั้งคนที่เข้ามาดูไม่ว่าจะเป็นใครบางครั้งเขาก็อยากช่วยเลี้ยงลูกเรา อารมณ์น้องน่ารัก คือเขาอยากจะแนะนำ แต่ความเป็นจริงแล้วแต่ละบ้านมีวิธีการเลี้ยงลูกไม่เหมือนกัน แล้วก็มีคุณหมอที่ปรึกษาที่ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นในความปลอดภัยที่เราเป็นพ่อเป็นแม่ ย่อมจะนำในสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกเราอยู่แล้ว ส่วนคอมเมนต์อะไรที่มันไม่ดีบางทีก็ละไว้ในฐานที่เข้าใจ หรือ ว่าบ้างครั้งมันกวนใจมากมีอวตารมาตอบโต้ต้องมาทะเลาะกันในรูปของเราน่ารักๆ อยู่แบบนี้ผมก็ลบแล้วก็บล็อกครับ”

มีผลกระทบกระเทือนต่อจิตใจเราบ้างไหม ?
“ไม่มีเลยครับ แต่ว่ารูปลูกของเราเขาน่ารักแต่เราไม่ต้องการให้ใครมาทะเลาะกันในรูปนั้นของเขา ทุกวันนี้เรายังนั่งกดหัวใจให้คนที่เขาชมลูกเราเลยทั้งๆ ที่เราไม่เคยทำ เพราะเราแบบโลเทคโนยีมาก (หัวเราะ) เรายังมาจิ้มหัวใจขอบคุณพี่ๆ ที่เขาเอ็นดูวีจิ เพราะฉะนั้นเราไม่อยากให้เพจเราเป็นที่ที่ทะเลาะกันด้วยอวตารด้วยคอมเมนต์ต่างๆ ที่มันไม่ดี”

เรียกว่าเป็นคุณพ่อที่สมบูรณ์แบบอีกคนเลยก็ว่าได้เพราะนอกจากจะทำงานหนักแล้ว ยังแบ่งเวลาให้กับลูกสาวได้เป็นอย่างดี ตอนนี้พัฒนาการของ น้องวีจิ เป็นยังไงบ้าง ?
“พัฒนาการดีมากครับ เพราะเราได้พี่เลี้ยงมาจากเนอสเซอรี่ของเพื่อนที่เคยเรียนด้วยกันเขาเลี้ยงเด็กมา 20 – 30 ปี ตอนนี้เดินได้แล้วครับ กำลังจะพูด ป๊ะป๋า เริ่มหลุดมาคำสองคำ ไป ไป หม่ำ หม่ำ เริ่มมีตารางเวลา เช่น อ่านนิทาน เวลานี้อาบน้ำ ตอนนี้ออกไปเดินเล่นบ้าง”

คำแรกที่เขาบอกว่า ป๊ะป๋า หัวใจเราเป็นยังไงบ้าง ?
“ผมพูดตรงๆ นะ ผมรอคำว่า ‘รัก’ จากผู้หญิงที่ชื่อวีจิ เพียงแค่คำเดียวจากผู้หญิงคนนี้จะได้มีแรงเยอะๆ”

การที่เรามีลูกเป้าหมายในชีวิตของเราเปลี่ยนไปไหมจากที่เราเคยมองไว้ เพราะในช่วงชีวิตที่ผ่านมาชีวิตของเราเจอความเปลี่ยนในชีวิตเยอะมาก ?
“เปลี่ยนครับ พี่มอส พูดกับผมว่าตอนหนุ่มยังไม่ได้แต่งงานเหมือนขับรถออกไปทุกวันแต่ไม่รู้ว่าไปไหน แต่พอมีวีจิ หนุ่มมันรู้เลยว่ามันขับรถแล้วมันไปไหน คือชัดเจนมาขึ้นว่าเรารู้ว่าเราจะทำอะไรเพื่อใคร เพื่ออนาคตใคร”

วางแผนยังไงให้กับลูกสาว ?
“วางแผนให้เขาใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย เพิ่งพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีตามกำลัง มีน้อยก็ใช้น้อย มีมากก็ใช้ให้พอดี ไม่มีก็อดเอาอย่าไปยุ่งของคนอื่นเขา”

ถามถึงเรื่องผลงานกันบ้าง เห็นว่าตอนนี้ใกล้เข้ามาแล้วสำหรับละคร บังเกิดเกล้า ?
“ประมาณต้น พฤศจิกายน ได้ดูแน่นอนครับ บังเกิดเกล้า เป็นการพบกันครั้งแรกของผมกับป๊อก ปิยธิดา ซึ่งเวอร์ชั่นเก่าเป็น พี่แซม กับ พี่นก สินจัย สำหรับละครเรื่องนี้ บังเกิดเกล้า คือ พ่อแม่คือผู้บังเกิดเกล้า สอนลูกให้มาเป็นยังไง ลูกก็จะโตมาตามแบบที่พ่อแม่สอน คือ ต้องบอกว่าเป็นการพลิกบทบาทครั้งยิ่งใหญ่ไม่เคยรับบทแบบนี้มาก่อนเลย ในเรื่องคือ ผมสามารถถีบภรรยาได้ เวลาที่เรียกภรรยาคือเราสรรพนามว่า กู มึง เลยเพราะเรื่องมันเป็นอย่างนั้นครับ แต่พอถึงเวลาที่ทุกคนได้ดูจะได้ครบทุกรสจริงๆ มันตอบโจทย์จริงๆ ทัวร์ก็ลง กฐินก็ลงผมแน่นอน พี่อ้วน ก็เล่นเรื่องนี้ร้ายไม่แพ้เราเพราะเขาจะคอยเสี่ยมเราตลอดในเรื่อง”

ในเวอร์ชั่นก่อน บังเกิดเกล้า เป็นละครเครียด ดราม่าจัดมากๆ ?
“ถามว่าความเครียดมีไหมมี แต่ก็จะมีความสนุกที่พี่ฉอด พี่กู่ เบรกไว้ไม่ให้เครียดมาก จะเป็นสีสันและรสชาติที่แตกต่างจากเวอร์ชั่นเก่าโดยที่ไม่ได้ตั้งใจให้เป็นคอมเมดี้ คอมเมดี้จะเป็นเพียงแค่กลิ่นที่เข้ามาอยู่ให้ครบรสเท่านั้น เหมือน ต้มยำอมรินทร์ ที่มีครบทุกรส”

สามารถรับชมรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 ย้อนหลังได้ทางยูทูป: https://youtu.be/1D0gN8rkgs0

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ ของ "ศรราม" เปิดใจ ชีวิตนี้ทุ่มสุดตัวเพื่อลูก พูดตรงๆ รอฟังเพียงคำว่ารักจาก "น้องวีจิ"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook