คนเจ็บเหยื่อท่อส่งก๊าซระเบิด เล่านาทีวิ่งหนีแสงเพลิงพุ่งล้อมบ้าน สะเก็ดไฟลวกพุพองทั้งตัว
.jpg?ip/crop/w1200h700/q80/webp)
หนึ่งในผู้บาดเจ็บเล่านาทีชีวิต มองเห็นระเบิดข้างบ้าน อีกไม่กี่วินาทีต้องวิ่งหนีแสงเพลิงที่พุ่งมาล้อมบ้านตัวเอง ทรัพย์สินไม่มีอะไรเหลือ
(23 ต.ค.63) บรรยากาศช่วงเช้าของวันนี้ บริเวณที่เกิดเหตุท่อส่งก๊าซธรรมชาติของบริษัท ปตท. เกิดการระเบิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 22 ตุลาคม 63 จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บถึง 62 คน และมีผู้เสียชีวิต 3 ราย นอกจากนั้นยังมีทั้งบ้าน โรงเรียน สถานีตำรวจ ร้านค้า รถยนต์รถ รถจักยานยนต์ อีกจำนวนมากได้รับความเสียหาย โดยแรงระเบิดและแสงเพลิงได้ทำลายล้างในรัศมีกว่า 200 เมตรโดยรอบ
ความคืบหน้าล่าสุดเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องของทางบริษัทปตท.ยังคงเร่งซ่อมแซมท่อส่งก๊าซในจุดเกิดเหตุ โดยนำรถแบคโฮเข้ามาทำการรื้อท่อเดิมและขุดเจาะเพื่อวางแนวท่อส่งก๊าซใหม่ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลด้านความปลอดภัยอย่างใกล้ชิดและปิดกั้นเป็นพื้นที่อันตราย ห้ามผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปยังจุดเกิดเหตุโดยเด็ดขาด โดยคาดว่าจะซ่อมแล้วเสร็จช่วงเย็นวันนี้
ขณะที่ความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่พักอาศัยใกล้กับจุดเกิดเหตุและได้รับผลกระทบ อย่างเช่น ครอบครัวเกตุศิริ เช้านี้ต่างพากันเข้ามาหาและเก็บเอกสารและทรัพย์สินที่อาจหลงเหลือพอใช้งานได้ในบ้านพักแต่ก็พบว่าไม่มีอะไรหลงเหลือที่พอจะใช้งานได้แม้แต่อย่างเดียว พบเพียงซากปรักหักพังทั้งหลัง
นางจิราพร เกตุศิริ ผู้บาดเจ็บและเป็นเจ้าของบ้านเลขที่ 38/5 ที่ได้รับความเสียหายออกมาเปิดเผยนาทีชีวิตพร้อมทั้งให้ดูบาดแผลจากการถูกสะเก็ดเพลิงและแสงเพลิงตามร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ มีแผลผุพองหลายแห่ง เล่าให้กับทีมข่าวฟังว่า ตนเองนั่งเย็บผ้าอยู่ภายในบ้านช่วงเวลาเกิดเหตุได้ยินเสียงระเบิดสนั่นหวั่นไหวจนบ้านสะเทือน เมื่อหันมองออกไปพบว่าข้างๆ บ้าน เกิดการระเบิดจากนั้นไม่กี่วินาทีแรงระเบิดก็มาถึงในบ้านตนเองต้องวิ่งหาที่กำบังหนีตายในบ้านพัก
แต่สุดท้ายแสงเพลิงขนาดใหญ่ก็เข้ามาบริเวณรอบบ้านจนต้องวิ่งหนีตายออกมาจากบ้าน ซึ่งเป็นนาทีชีวิตเพราะมีสะเก็ดเพลิงจำนวนมากลอยมาตกใส่ร่างกายของตนเอง ขณะที่รถยนต์รถจักรยานยนต์ที่จอดหน้าบ้านถูกไฟไหม้โหมอย่างรุนแรงตนเองจึงตัดสินใจวิ่งหนีออกไปข้างนอกโดยพบว่าที่พื้นมีแต่สะเก็ดระเบิดและความร้อนจำนวนมากประกอบกับจังหวะนั้นมีแสงเพลิงพุ่งตามหลังจนทำให้ถูกไฟลวกตามร่างกาย
ด้าน นายชาญณรงค์ เกตุศิริ หนึ่งในสมาชิกครอบครัวนี้ ต่างพากันเข้ามาหาทรัพย์สินของตนเอง ที่ในปัจจุบันกลายเป็นเถ้าถ่านเสียหายทั้งหมด โดยบ้านพักหลังนี้เพื่อก่อสร้างแล้วเสร็จและตกแต่งฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านทั้งหมดเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ยังไม่ทันได้ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ก็มาถูกเพลิงเผาทำลาย
ส่วนทางด้าน พนักงานสอบสวน สภ.เปร็ง ออกสำรวจและลงบันทึกประจำวันความเสียหายต่อทรัพย์สินทั้งของประชาชนและของทางราชการในสถานีตำรวจสภ.เปร็ง พร้อมกับเปิดเผยว่ามีผู้เสียหายที่เจข้าแจ้งความแล้วกว่า 20 ราย คาดว่าจะมีมากกว่านี้จึงฝากประชาสัมพันธ์ถึงผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบทั้งในชีวิตและทรัพย์สินให้เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์เพื่อรวบรวมหลักฐานทำสำนวนทางคดี
ขณะที่ช่วงสายของวันนี้มีรายงานว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พลเอกกัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญสิ่งของพระราชทานมอบแก่ประชาชนผู้ประสบภัย
สนับสนุนเนื้อหา
