สธ.เปิดไทม์ไลน์แหม่มฝรั่งเศสป่วยโควิด-19 ยังไม่ยืนยันเป็นผู้ติดเชื้อในไทย
(23 ต.ค.) นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค แถลงข่าวกรณีพบหญิงชาวฝรั่งเศส อายุ 57 ปี ซึ่งได้เข้ารับการกักตัว 14 วันแล้ว แต่พบติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด-19 ในภายหลังจากเดินทางไปที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
โดยมีการเปิดไทม์ไลน์ของหญิงฝรั่งเศส อายุ 57 ปี ซึ่งเดินทางมาถึงประเทศไทยพร้อมสามีและลูกชาย รวม 3 คน ดังนี้
หลังจากนั้น ทีมสอบสวนโรค สคร.11 และทีม สสจ. สุราษฎร์ธานี สอบสวนโรค ระหว่างวันที่ 22-23 ต.ค. 63
พบ กลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 15 ราย ดังนี้
- สามีและลูกชาย ไม่มีอาการ ทำ swab ส่ง PCR และ Admitted ห้องแยก ที่ รพ.เกาะสมุย 22 ต.ค.63 ผลตรวจไม่พบเชื้อ
- ผู้เดินทางสายการบินบางกอกแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ PG 167 (กรุงเทพ-สมุย) 15 ตค. 63 เป็นผู้โดยสาร 10 คน และลูกเรือ 2 คน รวม 12 คน ได้ประสานมาเก็บตัวอย่าง
- เพื่อนใกล้ชิดที่มารับโดยรถยนต์ส่วนตัว 1 ราย กำลังรอผลตรวจ
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 21 ราย เป็นเจ้าหน้าที่รพ.ที่มาดูแลซึ่งใส่ชุดป้องกัน อยู่ระหว่างดูแลและสังเกตอาการ
ส่วน สถานกักกันโรคแห่งรัฐทางเลือก (Alternative State Quarantine) จ.สมุทรปราการ ที่ผู้ป่วยและครอบครัวใช้เป็นสถานที่กักตัว ทีมสอบสวนโรคกองระบาดวิทยา และทีม สสจ. สมุทรปราการ ได้ลงพื้นที่สอบสวนโรคและเก็บตัวอย่างบุคลากร 40 คน เพื่อตรวจหาเชื้อเรียบร้อยแล้ว
ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค ยอมรับว่า ผู้ติดเชื้อรายนี้มีโอกาสเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศไทย เนื่องจากมีการตรวจพบเชื้อหลังจากเข้ามาในประเทศไทยแล้ว 17 วัน และระหว่างกักตัวมีการตรวจหาเชื้อ 2 ครั้ง แต่ไม่พบเชื้อ อีกทั้งผู้ป่วยและครอบครัวยังเดินทางมาจากเมืองที่ไม่มีการระบาดรุนแรง และไม่เคยพบปะกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 เมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทยก็เข้าสู่สถานกักตัวทันที แต่เมื่อครบ 14 วัน ออกมา ก็พบว่าติดเชื้อโควิด-19
ทั้งนี้ ทีมสอบสวนโรคจะประเมินที่สมุทรปราการและเกาะสมุย รวมทั้งผลการตรวจคนที่เกี่ยวข้อง เพื่อจะได้ทราบข้อมูลที่ครบถ้วนชัดเจนต่อไป
ขณะที่ นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เสริมว่า กรณีดังกล่าวยังต้องสอบสวนโรค เพื่อนำมาประมวลและวิเคราะห์อีกครั้งว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ซึ่งจะแถลงข่าวให้ทราบต่อไป ขอย้ำว่า ผู้ป่วยรายดังกล่าวยังไม่สรุปว่าติดเชื้อจากไหน ขอดูข้อมูลจากการสอบสวนโรคให้ละเอียดและมาวิเคราะห์กันอีกครั้ง