เจ้าของหอเครียดหนัก แจงดราม่าค่าปรับโหด วอนโซเชียลฟังความสองด้าน
เคีลยร์ดราม่าค่าปรับก่อนย้ายกว่า 5 พันบาท เจ้าของหอเครียดหนัก วอนโซเชียลฟังความทั้งสองด้าน ด้าน ผู้โพสต์ระบุแค่อยากเตือนให้อ่านสัญญาดีๆ
จากกรณีหญิงสาวคนหนึ่งโพสต์เฟซบุ๊กเป็นอุทาหรณ์ หลังย้ายหอพักและถูกเรียกค่าทำห้องและเฟอร์นิเจอร์เสียหายหลายจุด เป็นเงินกว่า 5,640 บาท แต่ยังดีที่ยังมีค่ามัดจำหอด้วย จึงจ่ายค่าส่วนต่างไป 3,400 บาท ไม่อย่างนั้นก็คงจะไม่ได้ย้ายหอ
ล่าสุด วานนี้ (26 ต.ค.) นางสาวอร (นามสมมุติ) อายุ 55 ปี เจ้าของหอพัก เปิดเผยว่า การที่ผู้เช่านำมาโพสต์ก่อให้เกิดความเสียหาย ทั้งที่ตอนเข้ามาอยู่ได้ให้มีการอ่านสัญญาอย่างถี่ถ้วน โดยห้องนี้เป็นห้องใหม่ ไม่เคยมีใครมาอยู่ ซึ่งผู้เช่าก็รู้ตั้งแต่แรก ในเมื่อเสียหายก็ต้องมีการชดใช้
โดยที่มีเงินมัดจำไว้ตั้งแต่ตอนแรก จำนวน 6,000 บาท เดือนสุดท้ายที่ย้ายออกทางผู้เช่าไม่ต้องจ่ายค่าเช่า จำนวน 2,900 บาท รวมค่าน้ำค่าไฟหักลบแล้ว และได้เรียกค่าที่ทำห้องและเฟอร์นิเจอร์เสียหาย เพียง 5,000 บาทเท่านั้น โดยมีเงินที่ต้องจ่ายจากค่าส่วนต่างจำนวน 3,400 บาท
เจ้าของหอพัก ยังระบุอีกว่า ตอนจ่ายผู้เช่าก็ไม่มีท่าทีไม่พอใจ จนมาเห็นอีกทีมีการคอมเม้นท์ต่อว่าอย่างเสียหาย จนทำให้ตนเองรู้สึกเครียดมาก เพราะหมายถึงผลกระทบที่ต้องตามมาในเรื่องของชื่อเสียงของหอพัก อยากให้ทางโซเชียลให้ความเห็นใจ ฟังความทั้งสองด้าน ซึ่งในเรื่องของคดีตนเองจะพิจารณาผู้โพสต์และผู้คอมเม้นท์เป็นรายๆ ไป
ต่อมาเมื่อ เวลา 17.00 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปภายในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ หมู่ที่ 1 ตำบลพานทอง อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี เพื่อพบกับทาง นางสาววิ (นามสมมุติ) อายุ 26 ปี พนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง เจ้าของโพสต์ เล่าว่า หลังจากที่ตนเองได้ทำการแจ้งเรื่องล่วงหน้ากับทางหอพักว่า จะมีการย้ายออกที่อาศัยอยู่มาปีกว่า เนื่องจากต้องการมาอยู่ใกล้ที่ทำงาน ซึ่งพนักงานได้เข้าไปสำรวจห้อง
ในตอนแรกตนเองก็ยอมรับในเรื่องของที่นอน มีคราบเลอะประจำเดือนซักไม่ออก แต่ก็ได้มีการคิดหลายจุดตามที่โพสต์ดังกล่าว ทำให้เงินที่จ่ายมัดจำตั้งแต่เข้าอยู่จำนวน 6,000 บาท ไม่พอ จึงได้มีการขอต่อรอง เพราะต้องนำเงินที่มีอยู่ไปจ่ายค่ามัดจำที่ใหม่ ซึ่งก็ไม่ได้รับความยินยอมและไม่ให้มีการขนของออกจากห้อง จึงได้มีการนำเงินไปจ่ายเมื่อวานและขนของมาไว้หอพักใหม่ จึงได้มีการโพสต์เพื่อเตือนก่อนเข้าหอควรมีการอ่านสัญญาให้ดี ไม่คิดว่าจะเป็นที่สนใจจากโลกโซเชียล