จ่อหมายเรียก "เอิร์ธ วิศววิท" นักแสดงบุพเพสันนิวาส เอี่ยวซุกรถหรูแก๊งเว็บพนันออนไลน์

จ่อหมายเรียก "เอิร์ธ วิศววิท" นักแสดงบุพเพสันนิวาส เอี่ยวซุกรถหรูแก๊งเว็บพนันออนไลน์

จ่อหมายเรียก "เอิร์ธ วิศววิท" นักแสดงบุพเพสันนิวาส เอี่ยวซุกรถหรูแก๊งเว็บพนันออนไลน์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจเตรียมออกหมายเรียก "เอิร์ท วิศววิท" หรือหลวงศรียศ บุพเพสันนิวาส เอี่ยวเคลื่อนย้ายรถหรูช่วยเหลือแก๊งเว็บพนันออนไลน์  

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในฐานะหัวหน้าศูนย์อาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศปอส.ตร. เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนตำรวจนครบาลพญาไท เตรียมออกหมายเรียก นายวิศววิท วงษ์วรรณลภย์ หรือ เอิร์ธ นักแสดงหนุ่มช่อง 3 ที่เคยรับบท หลวงศรียศ ในละครเรื่องบุพเพสันนิวาส มาให้ข้อมูลในเร็วๆนี้ หลังมีพยานหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิด ว่าเป็นผู้ขับรถหรูคันสีน้ำเงินจากบ้านพัก นายแทนไท ผู้ต้องหาเปิดเว็บไซต์พนันออนไลน์ ภายในซอยประเสริฐมนูกิจ 29 เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ไปเก็บไว้โกดังย่านบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรีจริง

จึงต้องเรียกมาสอบสวนก่อนว่าเกี่ยวข้องขนาดไหน ซึ่งตามกฎหมายพนันออนไลน์ ถือเป็นความผิดมูลฐาน หากนำเงินไปใช้หรือแปลงสภาพอย่างอื่น ก็จะเข้าข่ายความผิดตาม พรบ.ฟอกเงินฯ ซึ่งความผิดดังกล่าวใครที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือโยกย้ายถ่ายเท ถือว่ามีความผิดเท่ากัน มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 1 – 10ปี ปรับตั้งแต่ 2 หมื่นถึง 2 แสนบาท

พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ กล่าวว่าจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเบื้องต้น พบว่า นายเอิร์ธ เกี่ยวข้องเรื่องการช่วยเหลือทรัพย์สินของนายแทนไท ส่วนความผิดเรื่องการพนันออนไลน์ยังไม่พบและเชื่อว่ามีความสัมพันธ์กันกับนายแทนไทแน่นอนเพราะสามารถเข้าไปในบ้านและนำรถออกมาได้ หากสอบปากคำพบความเกี่ยวข้องประกอบพยานหลักฐานครบก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนดารานักแสดง ไฮโซคนอื่นๆ เบื้องต้นยังไม่พบกระทำผิดเพิ่มเติม

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนและจะเรียกคนผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบทั้งหมดรวมทั้งเจ้าของโกดังที่ให้เช่าด้วย ส่วนรถหรูทั้ง 4 คัน จากการตรวจสอบยังไม่พบความผิดปกติ ซึ่งตำรวจจะประสานกับกรมศุลากรตรวจสอบที่มาอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมประสานกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบการฟอกเงินหรือ ปปง. ตรวจสอบเส้นทางการเงิน เบื้องต้นได้ทำการยึดอายัดทรัพย์สินต่างๆรวมมูลค่าร่วม 200 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าจากการสืบสวนยังพบว่ามีอีกหลายกลุ่มที่มีพฤติการณ์กระทำผิดในลักษณะเดียวกันกับเครือข่ายนายแทนไท ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook