WHO เผยมีผู้ติดโควิด-19 ทั่วโลกเกือบ 3 ล้านคน ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา
องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ระบุว่า มีผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสทั่วโลกเพิ่มอีก 2.8 ล้านคนในช่วง 7 วันที่ผ่านมา คือตั้งแต่วันอังคารที่แล้วจนถึงสิ้นสูดวันอังคารที่ 27 ตุลาคม และมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่มอีก 40,000 รายในช่วงเดียวกัน
WHO เผยว่า ยุโรปมีอัตราส่วนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นมากกว่าภูมิภาคอื่นๆ เป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน ด้วยจำนวนมากกว่า 1.3 ล้านคน เพิ่มขึ้น 33 เปอร์เซ็นต์ จากสัปดาห์ก่อน และคิดเป็นจำนวนเกือบครึ่งหนึ่งของผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วโลก
นอกจากนี้ อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ และอาฟริกา ต่างมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ขณะที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแถบแปซิฟิกตะวันตกมีจำนวนผู้ติดเชื้อลดลง
เมื่อพิจารณาเป็นรายประเทศ WHO ระบุว่า อินเดียมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นมากที่สุดในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ตามด้วยสหรัฐฯ ฝรั่งเศส บราซิล และอังกฤษ ตามลำดับ
ข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอพกินส์ ณ วันพุธที่ 28 ตุลาคม ตามเวลาในสหรัฐฯ ระบุว่าขณะนี้มีผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสทั่วโลก 44.2 ล้านคน เสียชีวิต 1.17 ล้านคน
สำหรับในสหรัฐฯ จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็นมากกว่า 8.8 ล้านคน เสียชีวิตมากกว่า 227,000 คน โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 500,000 คนในช่วง 7 วันที่ผ่านมา หรือมากกว่า 70,000 รายต่อวัน
รัฐที่ต้องจับตาในสถานการณ์โควิดระบาด ได้แก่ อิลลินอยส์ ที่เป็นพิกัดระบาดใหม่ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยยอดติดเชื้อใหม่ 31,000 รายในช่วง 7 วันที่ผ่านมา จนทางผู้ว่าการรัฐอิลลินอยส์ ต้องประกาศมาตรการควบคุมการระบาดในหลายพื้นที่ ทั้งการห้ามรวมกลุ่มเกิน 25 คนตามบาร์และร้านอาหาร เริ่มต้นวันพุธนี้ ขณะที่ในรัฐเท็กซัส วิสคอนซิน และแคลิฟอร์เนีย ก็พบการระบาดใหม่เพิ่มสูงขึ้นเช่นกันในสัปดาห์นี้
ตอนนี้มีหลายรัฐเริ่มพิจารณามาตรการควบคุมการระบาดใหม่ช่วงฤดูหนาวที่จะมาถึง อย่างรัฐนิวยอร์ก นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก บิลล์ เดอ บลาซิโอ ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่งดเดินทางช่วงวันหยุดเทศกาลช่วงสิ้นปีนี้ในสหรัฐฯ แต่หากมีความจำเป็นต้องเดินทาง จะต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 และกลับมากักตัวสังเกตอาการเมื่อกลับจากต่างรัฐ เป็นเวลา 14 วัน ตามมาตรการของรัฐนิวยอร์ก