รท.หญิงร้องกลาโหม-จี้ฟันพล.อ.คดีกาม
ระเบียบรัตน์ นำ เรือโทหญิง คดี พล.อ.ข่มขืน เข้าร้องนายกฯ รมว.กลาโหม และผบ.สส. จี้เอาผิดทางวินัย ให้ทันก่อน 30 ก.ย. หลังฝ่ายพล.อ.ยื่นขอเออร์ลี่รีไทร์ ด้านมูลนิธิเพื่อนหญิงเสนอผู้บังคับบัญชาให้ออกจากราชการ หรือพักราชการไว้ก่อนระหว่างสอบสวน ระบุคดีทำนองนี้ผู้ถูกกล่าวหามักไม่ค่อยได้รับโทษ ชี้ยึดกฎหมายอย่างเดียวไม่ได้ ต้องดูความเหมาะสมเจ้านายกับลูกน้องด้วย ขณะที่พล.อ.เตรียมรวบรวมหลักฐานฟ้องกลับ
จากกรณีข้าราชการทหารหญิง ยศเรือโท เข้าร้องเรียนต่อนางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช นายกสมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่นและเป็นสุข เพื่อขอความช่วยเหลือด้านกฎหมาย โดยระบุว่าถูกผู้บังคับบัญชาระดับสูง ยศพล.อ. นายหนึ่ง สังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย ข่มขืนกระทำชำเรา มานานถึง 4 ปี อีกทั้งยังบังคับให้หย่ากับสามี และภรรยาของพล.อ. มียศเป็นพ.อ.(พิเศษ)หญิง ก็ยังร่วมรู้เห็นเป็นใจด้วย จนระยะหลังพยายามออกห่าง แต่ก็ยังถูกรังควานให้ไปร่วมหลับนอนอีก จนทนไม่ไหว ล่าสุดเข้าแจ้งความสน.บางเขน ให้ดำเนินคดีแล้ว และทางสมาคม จะร้องเรียนให้ทางผู้บังคับบัญชาตั้งกรรมการสอบวินัยด้วย ตามที่เสนอข่าวแล้วไปนั้น
ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 22 ก.ย. นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช นายกสมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่นและเป็นสุข กล่าวว่า ในวันที่ 23 ก.ย. จะไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม และ พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.สส. เพื่อให้ดำเนินการทางวินัยแก่พล.อ.ที่ถูกกล่าวหาด้วย เพราะทราบว่ากำลังขอเออร์ลี่รีไทร์ ดังนั้น การลงโทษทางวินัยควรจะดำเนินการให้เสร็จสิ้นก่อนวันที่ 30 ก.ย.ที่จะถึง กรณีนี้หลายฝ่ายเป็นห่วงว่าคดีอาจจะล่ม เพราะผู้กระทำเป็นถึง พล.อ. ที่ผ่านมามีหลายคดีที่ผู้กระทำมีอำนาจและอิทธิพล เป็นข้าราชการระดับสูง สุดท้ายแล้วคดีก็จะเงียบไป
นางระเบียบรัตน์ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน สามีของเรือโทหญิงพอทราบเรื่องที่เกิดขึ้น เคยนัดพบขอคุยกับ พล.อ. แต่ พล.อ.ปฏิเสธอย่างเดียว โดยสามีของผู้เสียหายบอกว่าจะเดินเรื่องนี้ทำทุกวิถีทาง แต่ถ้ามาขอขมาภายใน 7 วัน และเลิกยุ่งเกี่ยวกับภรรยาก็จะไม่เอาเรื่อง แต่ทางพล.อ.ก็ไม่สนใจ จากนั้นสามีผู้เสียหายโทรศัพท์ไปหาภรรยาของพล.อ. แต่ก็นิ่งเฉยไม่ตอบรับ จนเมื่อวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา ภรรยาของพล.อ. โทร.มาบอกสามีผู้เสียหาย ว่าให้คิดดูให้ดีจะมาดำเนินการอะไร จากนั้นยื่นโทรศัพท์ให้ไปคุยกับผู้ชายคนหนึ่งนาน 2 ชั่วโมง ล้วนแล้วแต่พูดถึงผู้เสียหายในทางไม่ดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า ภายหลังที่เรือโทหญิงร้องเรียนแล้ว ได้รับผลกระทบหรือถูกข่มขู่คุกคามหรือไม่ นายกสมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่นฯ กล่าวว่า ขณะนี้เรือโทหญิงพยายามหลีกเลี่ยงไม่เจอกับผู้กระทำมากที่สุด ทราบว่า พล.อ.ไม่ได้อยู่ประจำการในหน่วยงานหลักแล้ว แต่อยู่กองบัญชาการกองทัพไทย อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของพล.อ.ทรงกิตติ โดยตรง ดังนั้น จะไปยื่นหนังสือถึงมือ พล.อ.ทรงกิตติ ในวันที่ 23 ก.ย.
ด้านน.ส.สุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิสตรี มูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวว่า น่าเป็นห่วงสภาพจิตใจผู้เสียหาย การออกมาให้ข่าวแสดงว่าต้องถูกบังคับมาพอสมควร สังคมที่ฟังข่าวต้องมีเหตุมีผล ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำระหว่างผู้มีอำนาจเหนือกว่าผู้หญิง ก็มองได้ว่าผู้มีบุญคุณให้ทำอะไรก็ต้องทำ เมื่อภรรยานายพลให้มาดูแลในบ้าน มีความไว้วางใจ ผู้เสียหายไม่ทันระมัดระวัง จนเกิดการละเมิดทางเพศ แม้นายพลจะอายุมาก แต่เป็นความอายของผู้หญิงยากที่จะอธิบาย ยิ่งผู้กระทำมียศสูง ความหวาดกลัวก็มากเป็นธรรมดา นอกจากนี้ ต้นสังกัดของ พล.อ. ต้องตั้งคณะกรรมการสอบวินัย พร้อมทั้งเปิดให้ทั้ง 2 ฝ่ายชี้แจงรายละเอียด และเชิญผู้ทรงคุณวุฒิด้านจิตวิทยามาให้ความเห็นด้วย
" การดำเนินการกับข้าราชการที่เป็นผู้ต้องหา มีวิธีปฏิบัติ 2 ทาง คือผู้บังคับบัญชาสามารถให้ออกจากราชการ หรือพักราชการไว้ก่อนได้ระหว่างการสอบสวน หรือหากเห็นว่าผลยังไม่สิ้นสุด แล้วตั้งคณะกรรมการสอบสวน โดยปล่อยให้ทำหน้าที่ปกติต่อไป ก็ขึ้นกับหน่วยงานนั้นจะไวต่อปัญหาแค่ไหน แต่สังคมไทยเป็นที่กังขามาตลอดว่า คนกระทำผิดที่เป็นข้าราชการระดับสูง มักไม่ค่อยได้รับโทษทางกฎหมาย ดังนั้นต้องช่วยกันตรวจสอบ" น.ส. สุเพ็ญศรีกล่าว
หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิสตรี มูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ทางเราทราบว่า พล.อ.นายนี้มีเพื่อนใกล้ชิด และเพื่อนร่วมรุ่นเป็นผบ.มีชื่อเสียง ดังนั้น นายกฯ รมว.กลาโหม ต้องคุยข้อเท็จจริงอย่างละเอียด รับฟัง 2 ฝ่าย การแก้ปัญหายึดกฎหมายอย่างเดียวไม่ได้ เพราะมีเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างผู้บังคับบัญชากับผู้ใต้บังคับบัญชา ต้องดูความเหมาะสม และภาวะจิตใจผู้เสียหาย ที่ผ่านมาคดีประเภทนี้ ถ้าไม่ดูแลเอาใจใส่ ที่ผ่านมา มูลนิธิเพื่อนหญิงมีประสบการณ์ กรณีผู้ตกเป็นเหยื่อจากการกระทำของข้าราชการการเมือง ข้าราชการระดับสูง ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ผู้มีอิทธิพล และผ่านการต่อสู้คดีจำนวนมาก หากเรือโทหญิงสนใจติดต่อมาได้โดยตรง เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ช่วยเหลือกัน การทำงานจะคำนึงถึงผู้เสียหายเป็นศูนย์กลาง เพราะกฎหมายจะคุ้มครองผู้เสียหายไม่ให้ถูกกระทำอีก
ส่วนนางนวลพรรณ ล่ำซำ ผู้ช่วยรมต. พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า ต้องชื่นชมเรือโทหญิงที่กล้าหาญกระทำในสิ่งที่ถูกต้อง ที่ออกมาแจ้งความดำเนินคดี และเปิดเผยข้อมูลให้สังคมได้รับรู้ ดีกว่าต้องทนปิดบังให้ผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่ามากระทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ที่ดีให้ผู้หญิง ทั้งที่อยู่ในภาคราชการ หรือเอกชน พึงระวังอย่าให้ผู้มีอำนาจใช้ตำแหน่งมาล่วงละเมิดทางเพศ เป็นสิ่งที่ต้องตระหนักให้สังคมรับรู้ หากเรือโทหญิงต้องการความช่วยเหลือใดๆ จากกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ สามารถติดต่อมาที่ตนได้โดยตรง หรือติดต่อที่สำนักงานกิจการสตรีและ สถาบันครอบครัวได้ตลอดเวลา
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อทางโทรศัพท์ไปยัง พล.อ.ที่ถูกเรือโทหญิงกล่าวหา ปรากฏว่ามีเสียงผู้หญิงรับสาย และแจ้งว่าไม่ใช่ของพล.อ. อีกทั้งใช้หมายเลขโทรศัพท์นี้มา 10 กว่าปีแล้ว อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบไปยังกองบัญชาการกองทัพไทย ยืนยันว่าเป็นหมายเลขของพล.อ.ที่ถูกกล่าวหา
ต่อมาผู้สื่อข่าว โทรศัพท์ติดต่อไปยังบ้านพักภรรยาของพล.อ. เป็นนายทหารยศพ.อ. (พิเศษ) หญิง สังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย ปรากฏว่าตอบปฏิเสธที่จะกล่าวถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่บอกสั้นๆ ว่าให้ผู้สื่อข่าวติดตามในชั้นศาล ขณะนี้สามีกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อฟ้องร้องเรือโทหญิงคนที่กล่าวหาแล้ว และเมื่อผู้สื่อข่าวบอกว่าจะขอสัมภาษณ์สามีได้ไหม ภรรยาตอบกลับมาว่ายังไม่พร้อม