ยายใฮกลัวเบี้ยวอ้อนอภิสิทธิ์นำเงินมามอบเอง

ยายใฮกลัวเบี้ยวอ้อนอภิสิทธิ์นำเงินมามอบเอง

ยายใฮกลัวเบี้ยวอ้อนอภิสิทธิ์นำเงินมามอบเอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ยายใฮ เปิดแถลงข่าวขอบคุณรัฐบาล อภิสิทธิ์ อนุมัติเงินชดเชย 4.9 ล้านบาท เยียวยาผลกระทบจากการขุดเขื่อนห้วยละห้า อ้อนนายกฯ นำเงินมามอบด้วยตนเอง หวั่นซ้ำรอยเขื่อนสิรินธร พร้อมเตรียมทำพิธีบายศรีสู่ขวัญให้อย่างสมเกียรติ

เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (24 ก.ย.52 ) ที่ห้องดอกจาน ชั้น 4 คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี นางใฮ ขันจันทา หรือยายใฮ พร้อมด้วย นางเพชร ขันจันทา บุตรสาว นายยงยุทธ นวะนิยม บุตรเขย นายสมเกียรติ พันไพ แกนนำสมัชชาคนจน พร้อมสมาชิกสมัชชาคนจนจำนวนหนึ่ง เปิดแถลงข่าวจาอสื่อมวลชนกรณี ครม.รัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้อนุมัติเงินชดเชยเพื่อเยียวยาผลกระทบจากการสร้างเขื่อนห้วยละห้า อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี ให้แก่ นางใฮ ขันจันทา นายฟอง ขันจันทา และนายเสือ ขันจันทา รวมเป็นเงิน 4.9 ล้านบาท ภายหลังจากที่ต่อสู้เรียกร้องมายาวนานร่วม 32 ปี

โดยยายใฮ และคณะ ได้กล่าวชื่นชมรัฐบาลของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่มีความกล้าหาญในการจ่ายค่าชดเชยจากความเดือดร้อนในการสร้างเขื่อนห้วยละ ห้า แต่ขณะเดียวกันก็ยังไม่เชื่อว่าเงินจำนวนดังกล่าวจะได้จริง เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นเหมือนกรณีผู้ได้รับความเดือดร้อนจากการสร้างเขื่อน สิรินธร ซึ่งหลัง ครม. มีมติอนุมัติเงินชดเชยแล้ว กลับมีการนำเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.อีกหลายครั้งรวมแล้วนับ 20 รอบ

ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาล โดย นายอภิสิทธิ์ เร่งจ่ายเงินชดเชยดังกล่าวโดยเร็ว โดยอยากให้รัฐบาลนำเงินมาจ่ายให้ด้วยตนเองที่ ศูนย์ปัญญาชาวบ้าน จ.อุบลราชธานี ซึ่งจะทำการต้อนรับพร้อมทำพิธีบายศรีสู่ขวัญให้กับนายกรัฐมนตรีอย่างสมเกียรติ

ขณะเดียวกันยังระบุว่า นอกจากกรณีเขื่อนห้วยละห้าแล้ว ยังอยากให้รัฐบาลมองถึงกรณีปัญหาความเดือดร้อนอื่นๆ ที่ยังคงคาราคาซังอีกด้วย นอกจากนี้ยังได้เรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาให้รอบคอบก่อนทำโครงการอื่นๆ เพื่อลดปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในทุกพื้นที่

สำหรับเงินชดเชยที่ ครม.อนุมัติ ให้ในครั้งนี้ ยายใฮ ระบุว่า เงินจำนวน 4.9 ล้านบาทนี้ หากเทียบกับการล่มสลายของครอบครัวขันจันทาที่ได้รับมาตลอด 32 ปีนั้น คงจะไม่เพียงพอ โดยเฉพาะการสูญเสียโอกาสในการเล่าเรียนของลูกๆ ของตนหลายคน ส่วนจากนี้เมื่อรัฐบาลนำเงินมามอบให้แล้วก็จะมอบให้กับลูกๆ ได้บริหารจัดการกันต่อไป และจะถือว่าเรื่องราวการต่อสู้ที่ยืดเยื้อมายาวนานได้จบแล้วด้วยดี

ด้านนายยงยุทธ บุตรเขยของยายใฮ กล่าวว่า หลังจากทราบข่าวการอนุมัติเงินชดเชยของ ครม.เมื่อวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา ก็รู้สึกดีใจและขอบคุณรัฐบาลที่กล้าหาญในการจ่ายเงินชดเชยในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ทั้งตัวยายใฮ และลูกหลานได้คุยกันแล้วว่าหากนายกรัฐมนตรีนำเงินมาจ่ายให้กับมือที่ จ.อุบลราชธานี เรื่องทั้งหมดจึงจะเป็นความจริง และหากนายกรัฐมนตรีเดินทางมาด้วยตัวเองก็จะทำพิธีสู่ขวัญอย่างยิ่งใหญ่ให้ แต่ทั้งนี้ยังไม่ทราบว่ารัฐบาลจะจ่ายเงินชดเชยดังกล่าวมาให้ในรูปแบบใด

"ถ้าได้เงินมาแล้วทางลูกหลานร่วมร้อยชีวิตก็จะมาหารือกันว่าจะทำอย่างไร ต่อไปกับเงินที่ได้รับมา เช่น อาจจะซื้อที่นาใหม่ หรืออื่นๆ ตามฉันทามติของลูกหลาน และให้ถือว่ากรณีการเรียกร้องได้จบลง ส่วนบทเรียนที่ได้จากการเรียกร้องอย่างยาวนานกรณีเขื่อนห้วยละห้านี้ น่าจะเป็นอุทธาหรณ์ว่าการจัดการตามระบอบประชาธิปไตยที่ดีจะต้องให้ประชาชนมี ส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจด้านการพัฒนา เนื่องจากการพัฒนาทุกรูปแบบผู้ที่จะได้รับผลกระทบคือคนในพื้นที่"

ส่วนกรณีในสมัชชาคนจนซึ่งมีอยู่ 7 เครือข่ายของผู้เดือดร้อนรัฐบาลก็ควรจะต้องดูแลต่อไปโดยให้กรณีเขื่อนห้วยละ ห้าเป็นตัวอย่าง สุดท้ายตนต้องขอขอบคุณรัฐบาลอย่างมากที่กล้าหาญในการรับผิดชอบต่อกรณีปัญหา ของเขื่อนห้วยละห้าในครั้งนี้

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook