โพลโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้งสหรัฐ ชี้ชัด ไบเดน ยังนำ ทรัมป์ ห่างถึง 10 จุด!
โพลสำรวจซึ่งจัดทำโดยสำนักข่าวเอ็นบีซี นิวส์ และวอลล์สตรีท เจอร์นัล ระบุว่า โจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต มีคะแนนนิยมทั่วประเทศนำหน้า โดนัลด์ ทรัมป์ คู่ชิงจากพรรครีพับลิกัน ก่อนที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐจะมีขึ้นในวันที่ 3 พ.ย.นี้
ผลสำรวจดังกล่าว จัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 29-31 ต.ค. ได้ระบุว่า ไบเดนมีคะแนนนิยมทั่วประเทศอยู่ที่ 52% นำหน้าทรัมป์ ซึ่งอยู่ที่ 42% ขณะเดียวกัน ไบเดนยังมีคะแนนนิยมนำหน้าทรัมป์ใน 12 รัฐสมรภูมิ หรือ “Battleground State” อยู่ที่ 51% ต่อ 45% ได้แก่ แอริโซนา ฟลอริดา จอร์เจีย ไอโอวา เมน มิชิแกน มินนิโซตา นอร์ทแคโรไลนา นิวแฮมเชียร์ เพนซิลวาเนีย และวิสคอนซิน
นอกจากนี้ โพลสำรวจยังระบุว่า ไบเดนมีคะแนนนำทรัมป์อย่างมากในหมู่คนผิวสี (87% ต่อ 5%) อีกทั้งมีคะแนนนำในกลุ่มคนที่มีอายุระหว่าง 18-34 ปี (60% ต่อ 32%) และมีคะแนนนำในหมู่สตรี (57% ต่อ 37%) อย่างไรก็ดี ทรัมป์มีคะแนนนำไบเดนในหมู่คนผิวขาว (51% ต่อ 45%)
ผลสำรวจในครั้งนี้พบว่า ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งราว 57% ไม่พอใจกับผลงานของทรัมป์ในการรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะที่มี 55% ยอมรับผลงานด้านเศรษฐกิจของคณะทำงานทรัมป์
ทางด้านโพลสำรวจซึ่งหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทม์ส ทำร่วมกับเซียนา คอลเลจ ระบุว่า ไบเดนมีคะแนนนำทรัมป์ ใน 4 รัฐ Swing State ซึ่งได้แก่ รัฐวิสคอนซิน ฟลอริดา เพนซิลวาเนีย และแอริโซนา โดยโพลสำรวจดังกล่าวจัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 26-31 ต.ค.
ทั้งนี้ รัฐ Swing State ถือเป็นรัฐชี้ชะตาเนื่องจากเป็นรัฐที่ไม่ได้ชี้ชัดว่าเป็นฐานเสียงของพรรคใดพรรคหนึ่งอย่างชัดเจน โดยรัฐเหล่านี้จะเป็นรัฐที่ประชากรมีความคิดทางการเมืองแตกต่างกันในจำนวนที่ใกล้เคียงกัน ทำให้ที่ผ่านมาทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันคว้าคะแนนจากรัฐเหล่านี้ได้มากน้อยสลับกันไปมา จึงถูกมองว่าเป็นรัฐที่มีความสำคัญต่อการชี้วัดผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐมาตลอด