รท.หญิง เปิดตัวสู้ ชน พล.อ. ผบ.สส.สั่งสอบ

เจ๊เบียบ พาเรือโทหญิงแต่งชุดนายทหารเต็มยศเข้าร้องทุกข์-ยื่นหนังสือถึงกลาโหม -มหาดไทย และทำเนียบฯ ให้เร่งดำเนินการกับ พล.อ. ก่อน เออร์ลี่ในปลายเดือนนี้ จัดการด้านวินัยไล่ออกจากราชการ วอนรมว.กลาโหม ช่วยให้ความเป็นธรรม และจัดทนายฟ้องซ้ำคดีอาญา เผยตั้งแต่เกิดเรื่องอื้อฉาวพล.อ.เก็บตัวเงียบไม่ออกมาชี้แจง แต่มีโทรศัพท์ลึกลับข่มขู่ญาติผู้เสียหาย คิดดีแล้วหรือที่ทำเช่นนี้ ด้านผบ.สส.ตั้งกรรมการสอบสวนทันที มีรองเสนาธิการทหารฝ่ายกำลังพล เป็นประธานฯ

จากเหตุการณ์อื้อฉาวนายทหารยศ "พล.อ." สังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย ถูกกล่าวหาว่าย่ำยี "เรือโทหญิง" มานานกว่า 4 ปี โดยเจ้าทุกข์สงสัยว่าพ.อ.หญิง ภรรยาของพล.อ.รู้เห็นเป็นใจ พยายามออกห่างแต่ก็ถูกรังควานให้ไปร่วมหลับนอนอีก ล่าสุดพล.อ.บังคับให้หย่ากับสามี หรือไปเล่าเรื่องให้ฟัง จนทนไม่ไหว เข้าร้องทุกข์กับนางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช นายกสมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่นและเป็นสุข เพื่อขอความช่วยเหลือด้านกฎหมาย และให้ช่วยพาเข้าร้องเรียนผู้ใหญ่ทั้งระดับรัฐบาล และต้นสังกัดของพล.อ. พร้อมเข้าแจ้งความที่สน.บางเขน ขณะที่ฝ่ายพล.อ.ยังเก็บตัวเงียบ โดยเมียออกมาระบุว่ากำลังดำเนินการเพื่อฟ้องกลับ ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 23 ก.ย. ที่กระทรวงมหาดไทย นางระเบียบรัตน์ กล่าวว่าจะนำเจ้าทุกข์เดินทางไปยื่นหนังสือถึง 3 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร้องขอความเป็นธรรม หนังสือฉบับแรกจะยื่นต่อกระทรวงกลาโหม ผ่าน พ.อ.สิทธิพล นิ่มนวล รองหัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรี ต่อจากนั้นจะเดินทางไปยื่นหนังสือที่ทำเนียบรัฐบาล ผ่านผู้อำนวยการเรื่องราวร้องทุกข์ และหนังสือฉบับสุดท้ายจะยื่นต่อผู้บัญชาการทหารสูงสุด กองบัญชาการกองทัพไทย

" ในส่วนของสมาคมจะดำเนินการในเรื่องการขอความเป็นธรรม ถ้าผู้บังคับบัญชาพิจารณาแล้วว่าเรื่องนี้มีมูลความผิด ก็ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อดำเนินการทางวินัยต่อไป ถ้ากระทำผิดในฐานประพฤติชั่วมีโทษถึงขั้นไล่ออก แต่ถ้าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริงผู้ที่มาร้องทุกข์ต้องเป็นผู้รับผิดชอบตาม กฎหมาย อย่างไรก็ตามอยากให้ผู้หญิงทุกคนที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศลุกขึ้นมาต่อสู้กับ ความไม่เป็นธรรม จึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการออกกฎหมาย ทั้ง ส.ส.และ ส.ว. ได้ออก พ.ร.บ.ป้องกันการกระทำความรุนแรงทางเพศในที่ทำงานด้วย" นางระเบียบรัตน์ กล่าว

ต่อมานางระเบียบรัตน์ พร้อมด้วยเรือโทหญิงเจ้าทุกข์ ซึ่งแต่งเครื่องแบบนายทหารชุดขาวเต็ม ยศ เดินทางมายื่นหนังสือถึงร้องเรียนถึงพล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ให้ติดตามดำเนินการ และให้ความเป็นธรรมแก่ผู้เสียหาย โดยมีพ.อ.สิทธิพล รองหัวหน้าสำนักงานรมว. กลาโหมเป็นผู้รับหนังสือแทน โดยนางระเบียบรัตน์ กล่าวว่า อยากฝากไปยังพล.อ.ประวิตร ช่วยติดตามดำเนินการเรื่องนี้ด้วย เพราะว่าพล.อ.คนดังกล่าว จะเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดในปลายเดือนก.ย.นี้ และขอความเป็นธรรมกับผู้เสียหายและผู้ที่ถูกกล่าวหา นอกจากนี้จะยื่นหนังสือถึง พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.ทหารสูงสุด ให้ดำเนินการเช่นกัน เพราะเป็นต้นสังกัดของทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งมั่นใจว่าเอกสารและหลักฐานที่มายื่นในครั้งนี้ จะสามารถเอาผิดกับพล.อ.คู่กรณีได้

เมื่อถามว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นมาหลายปี เหตุใดจึงเพิ่งมาร้องเรียน นางระเบียบรัตน์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องเสียหาย ผู้หญิงทุกคนไม่อยากเปิดเผย แต่ขณะนี้ผู้เสียหายมีความรู้สึกว่า ถึงที่สุดแล้วจึงออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม นอกจากนี้จะฟ้องดำเนินคดีอาญากับพล.อ.คนดังกล่าวด้วย โดยสมาคมจะจัดทนายอาสาเข้าไปช่วยเหลือด้านคดีเมื่อมีการร้องจากเจ้าทุกข์ ซึ่งหลังจากมีการร้องเรียนจนเป็นข่าว เขาไม่เคยติดต่อมาหาตนหรือผู้เสียหาย แต่มีบุคคลลึกลับโทรศัพท์ไปหาคนใกล้ชิด และเพื่อนๆ ของผู้เสียหาย ข่มขู่ว่าคิดดีแล้วหรือที่ทำเช่นนี้

รายงานข่าวจากกองบัญชาการกองทัพ ไทย เผยว่า ช่วงเช้าวันเดียวกัน พล.อ.ทรงกิตติ ผบ.ทหารสูงสุด ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีร้องเรียนพล.อ. โดยให้พล.อ.อ.อภิสิทธิ์ จุลโมกข์ รองเสนาธิการทหารฝ่ายกำลังพล เป็นประธานคณะกรรมการ และกรรมการอีก 5 คน เพื่อตรวจสอบตามข้อร้องเรียนของร.ท.หญิง ที่ร้องเรียนว่าถูกพล.อ.ในสังกัดบก.กองทัพไทย ข่มขืน โดยผบ.ทหารสูงสุด เน้นย้ำให้ความเป็นธรรมกับ 2 ฝ่าย เพราะถือเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งคู่

รายงานข่าวเผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีการสอบสวนใครเพราะกรรมการต้องรอคำร้องจากตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริง หากผลการตรวจสอบออกมาอย่างไรก็ต้องว่าไปตามข้อเท็จจริง เบื้องต้นคนที่ถูกร้องอาจมีความผิดทางวินัยฐานมีความสัมพันธ์กับผู้ใต้ บังคับบัญชา ส่วนจะระงับหนังสือการลาออกจากราชการก่อนเกษียณของพล.อ.คนดังกล่าวหรือไม่ ยังไม่ถึงขั้นตอนดังกล่าว เพราะผลการตรวจสอบยังไม่ปรากฏ เพราะขั้นตอนนี้ไม่มีกรรมการระงับการเออร์ลี่รีไทร์ แต่อย่างใด