สื่อตีข่าว บราวน์ ถูก โอบาม่า ฉีกหน้าหลายครั้ง

สื่ออังกฤษตีข่าว กอร์ดอน บราวน์ ถูกบารัค โอบาม่า ฉีกหน้านับครั้งไม่ถ้วน คาดความสัมพันธ์ดิ่งลงต่ำถึงขีดสุด

(24ก.ย.) เว็บไซท์หนังสือพิมพ์ เทเลกราฟ ของอังกฤษ รายงานว่า นายกรัฐมนตรีกอร์ดอน บราวน์ ของอังกฤษ ได้รับการเมินเฉยจากประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า ของสหรัฐหลายครั้ง ในระหว่างการเยือนสหรัฐอเมริกา ขณะเดียวกัน การปล่อยตัวมือระเบิดล็อคเคอร์บี้ ก็ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์อันสนิทสนมระหว่างสองชาติมหาอำนาจลดลงไปอยู่ในระดับต่ำที่สุดในรอบเกือบ20 ปี

รายงานอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวทางการทูตว่า เจ้าหน้าที่ทางการอังกฤษต้องใช้ความพยายามถึง 5 ครั้ง เพื่อทำให้บราวน์ได้มีโอกาสหารืออย่างเป็นทางการกับโอบาม่า และยอมแม้กระทั่งเปลี่ยนแปลงนโยบาย เพื่อให้บราวน์กับโอบาม่า ได้ปรากฎตัวร่วมกัน แต่ทำเนียบขาวกลับปฏิเสธข้อเสนอ ส่วนบราวน์ซึ่งคาดหวังว่าจะเพิ่มคะแนนนิยมให้กับตัวเอง ด้วยการปรากฎตัวร่วมกับโอบาม่านั้น ต้องฉวยโอกาสพูดคุยกับผู้นำสหรัฐ ที่ห้องครัวในนิวยอร์คแทน

ความล้มเหลวในครั้งนี้ นำไปสู่ความวิตกว่าความสัมพันธ์ระหว่างทำเนียบนายกรัฐมนตรีแห่งถนนดาวนิ่ง กับทำเนียบขาว จะร่วงลงไปอยู่ในจุดที่ต่ำสุด นับตั้งแต่สมัยที่อดีตนายกรัฐมนตรีจอห์น เมเจอร์ มีความสัมพันธ์ที่เย็นชากับอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน

มีการเปิดเผยเมื่อต้นสัปดาห์ว่า บราวน์ ไม่มีโอกาสได้เจรจาระดับทวิภาคีกับโอบาม่า แม้ว่าโอบาม่าจะเป็นเจ้าภาพพบปะกับเหล่าผู้นำชาติต่าง ๆ แบบรายบุคคล ตั้งแต่ประธานาธิบดีหู จิ่นเทา ของจีน, ประธานาธิบดีดมิทรี่ เมดเวเดฟ ของรัสเซีย และนายกรัฐมนตรี ยูคิโอะ ฮาโตยามะ ของญี่ปุ่น

แม้ทางอังกฤษพยายามแก้ต่างว่าเป็นเรื่องปกติ แต่นักการทูตอังกฤษคนหนึ่ง กล่าวแสดงความคิดเห็นต่อ เทเลกราฟ ว่า การที่ทำเนียบขาวบอกปัดการพบกับบราวน์ เป็นเรื่องที่ทำให้บราวน์เสียหน้าอย่างร้ายแรง

นักการทูตคนเดิม ได้ยกตัวอย่างความพยายามอย่างที่สุดของฝ่ายดาวนิ่ง สตรีท ที่จะทำให้บราวน์พบกับโอบาม่า ซึ่งถึงกับยอมเปลี่ยนนโยบายว่าด้วยการจัดหาวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สาย พันธุ์ใหม่ 2009 ให้กับแอฟริกา เพื่อให้เทียบเคียงกับของอเมริกา และได้ประกาศไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ด้วยความหวังว่า โอบาม่าจะยอมแถลงข่าวด้วย แต่ปรากฎว่าล้มเหลว

ทำเนียบขาว อ้างว่า บราวน์กับโอบาม่า จะประชุมร่วมกันในประเด็นปากีสถานในคืนนี้และจะใช้เวลาทั้งวันของวันศุกร์ หารือกัน แต่เป็นที่ทราบกันดีว่า ในวันศุกร์นี้ จะเป็นการประชุมสุดยอดของบรรดาผู้นำโลก กลุ่ม จี 20 ที่พิทส์เบิร์ก

การปล่อยตัวนายอับเดลบาเซ็ท อาลี โมห์เหม็ด อัล เมกราฮี มือระเบิดล็อคเคอร์บี้ ได้กลายเป็นเรื่องที่สร้างความร้าวฉานบนความสัมพันธ์ระหว่างอังกฤษกับ สหรัฐล่าสุด โอบาม่าได้ย้ำความผิดหวังเรื่องนี้ ในระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์กับบราวน์ เมื่อช่วงต้นเดือน แต่ทางทำเนียบดาวน์นิ่ง สตรีท ไม่ได้บอกถึงความไม่พอใจของโอบาม่า และบราวน์พยายามยืนยันว่า การปล่อยตัวมือระเบิดที่เป็นชาวลิเบีย เป็นการตัดสินใจของคณะผู้บริหารสก็อตแลนด์

ทั้งนี้ ชาวอเมริกันเกือบ 200 คน ต้องสังเวยชีวิต เพราะเครื่องบินของสายการบินแพน แอม เที่ยวบินที่ 103 ระเบิดเหนือเมืองล็อคเคอร์บี้ ของสก็อตแลนด์ เมื่อปี 2531 ครอบครัวของเหยื่อ ได้ไปรวมตัวประท้วงที่สำนักงานงานใหญ่ของสหประชาชาติ ที่ทั้งบราวน์ และผู้นำลิเบีย พันเอกโมอัมมาร์ กัดดาฟี่ ได้ขึ้นกล่าวบนเวทีด้วย

เมื่อคืนที่ผ่านมา ทางทำเนียบดาวนิ่ง สตรีท ได้พยายามเบี่ยงเบนข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับความแตกแยกกับทำเนียบขาว ด้วยการระบุว่า มีการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างบราวน์กับโอบาม่า หลังจากรับประทานอาหารค่ำที่สำนักงานใหญ่ของสหประชาชาติ ที่เมืองแมนฮัตตันเมื่อคืนวันอังคาร แต่คนวงในชี้ว่า เป็นเพียงการเดินไปคุยไปในเวลาแค่ 15 นาที ภายในห้องครัวของสหประชาชาติ ขณะที่ผู้นำทั้งสองกำลังออกจากอาคาร

มีสัญญาณที่บ่งชี้ว่า ผู้นำสหรัฐต้องการหันไปพัฒนาความสัมพันธ์กับประเทศอื่น ๆ ในวงที่กว้างขึ้น มากกว่าการพึ่งพาพันธมิตรเก่า ๆ ความสัมพันธ์ที่ย้ำแย่กับทำเนียบขาวในยุคของบราวน์ ได้ตรงกันข้ามอย่างรุนแรงกับสมัยของอดีตนายกรัฐมนตรีโทนี่ แบลร์ ที่มีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นทั้งกับคลินตัน และจอร์จ ดับเบิลยู บุช

อดีตนายกรัฐมนตรีจอห์น เมเจอร์ แห่งพรรคอนุรักษ์นิยม เคยมีความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่กับคลินตันมาก่อน แต่เป็นเพราะเมเจอร์พยายามลุ้นให้อดีตประธานาธิบดีจอร์จ บุช ชนะการเลือกตั้ง ในระหว่างการรณรงค์หาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดี เมื่อปี 2535 ด้วยการยอมให้นักวิจัยเข้าไปขุดคุ้ยภูมิหลังของคลินตัน สมัยเป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด แต่เมเจอร์ปฏิเสธเรื่องนี้มาตลอด

มีรายงานด้วยว่า กำหนดจะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ที่สหประชาชาติของบราวน์ ในช่วงเที่ยงวันไม่สามารถเป็นไปตามตารางเวลาที่กำหนดได้ เพราะพันเอกกัดดาฟี่ พูดนานถึง 96 นาที นอกจากนี้ บราวน์ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่เขาไม่ยอมอยู่ร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ ที่เขาได้รับการยกย่องให้เป็นรัฐบุรุษแห่งปี ที่แขกเข้าร่วมงานต้องจ่ายเงินคนละ 1,000 ดอลล่าร์หรือราว 3 หมื่น 5 พันบาท ซึ่งงานนี้มีแขกผู้มีเกียรติคนอื่น ๆ เช่น เฮนรี่ คิสซิงเจอร์ และโบโน่