"นนท์ ธนนท์" เปิดใจ เกิดอุบัติเหตุเพราะตกเครื่องเล่น ทำให้ต้องใส่เฝือกทั้งขาและแขน

"นนท์ ธนนท์" เปิดใจ เกิดอุบัติเหตุเพราะตกเครื่องเล่น ทำให้ต้องใส่เฝือกทั้งขาและแขน

"นนท์ ธนนท์" เปิดใจ เกิดอุบัติเหตุเพราะตกเครื่องเล่น ทำให้ต้องใส่เฝือกทั้งขาและแขน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ทำเอาแฟนๆ ใจหายไปตามๆ กัน เมื่อเห็นนักร้องหนุ่มเสียงเอกลักษณ์ นนท์-ธนนท์ จำเริญ เข้าเฝือกที่ขาและบริเวณมือ ขณะเดินทางมาถ่ายทำ MV คำถามจากคนเก่า ที่ขับร้องด้วยตัวเอง

โดยงานนี้ นนท์ ธนนท์ ได้เปิดใจกับสื่อมวลชนว่า เกิดอุบัติเหตุจากการเล่นสกู๊ตเตอร์กับเพื่อน แต่อาจเพราะไม่คุ้นเคยกับเครื่อง และมีจังหวะที่เครื่องดับไป จึงทำให้ตนตกลงมา แต่ยังอุ่นใจที่เซฟตัวเองไว้ดีในระดับหนึ่งจึงไม่เป็นอะไรมาก

เกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้น ?
"เป็นอุบัติเหตุ เราไปเล่นสกู๊ตเตอร์กับเพื่อนๆ อยู่แล้ว น่าจะไม่คุ้นกับเครื่อง เราเล่นผ่านฝนตกหนักๆ จู่ๆ เครื่องมันก็ปิดไป เลยตกเครื่องลงมา จังหวะนั้นตกใจ แต่ก็อุ่นใจเพราะเราใส่เซฟตี้อยู่แล้ว หลักๆ เป็นด้านในมีนิ้วโป้งหัก และต้องบล็อกขาไว้ไม่ให้งอและมีปัญหาเรื่องเอ็นนิดหนึ่ง แต่ขาเดี๋ยวอีก 4-5 วันก็ถอดเฝือกแล้ว แต่ล็อกขาไว้ก่อน"

"ตัวผมก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร ก็ต้องขอบคุณผู้จัดคอนเสิร์ต ไม่ว่าจะ Hall Of Fan และงานจ้างอื่นๆ ไม่มีใครแคนเซิลเลย ทุกคนพร้อมที่จะเข้าใจและเลื่อน คืออุบัติเหตุหน้าที่ของผมคือเซฟตี้ตัวเองให้ดีที่สุด เราก็ไม่รู้มันจะเกิดอะไรขึ้น ก็ดีใจที่เราได้ใช้เวลารักษาอย่างเต็มที่"

ไม่ส่งผลระยะยาวใช่ไหม ?
"ไม่ส่งผลครับ นนท์ใส่เซฟตี้อยู่แล้วระดับหนึ่ง และตัวเราก็ไม่ได้วิ่งเร็วด้วย ไม่ได้ประมาท แต่เป็นเรื่องของตัวเครื่องกับเราเองที่ไม่ชินมากกว่า"

เข็ดไหม ?
"เล่นอีก ผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ต้องเข็ด ผมมองว่าเรื่องอุบัติเหตุ เราเดินเฉยๆ รถก็มาชนเราได้ แต่ครั้งนี้เรามีเซฟตี้ มีเพื่อนๆ บริเวณที่เล่นไม่ได้มีรถวิ่ง"

นิ้วโป้งโดนด้วย ?
"โดนด้วย เพราะเราเผลอเอามือลง เราตัวสูงแรงเหวี่ยงของมันจะมากกว่า เราไม่ได้ล้มแบบตั้งตัว"

เพราะเบญจเพสด้วยไหม ?
"จริงๆ ไม่เคยเชื่อเลย แต่ตอนนี้ก็แอบคิดนิดหนึ่ง เพราะไม่กี่เดือนก็มีเรื่องศอก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราไม่โทษใคร เราโทษตัวเองที่ไม่ชินกับมัน อาจจะต้องเล่นช้ากว่านี้"

1 เดือนที่ผ่านมา คือนอนอยู่บ้านเฉยๆ ?
"ไม่ครับ ก็มีขยับตลอดเพราะอยากให้ถอดเฝือกแล้วทำงานได้เลย อันนี้ก็ยิ่งต้องขอบคุณ ทันทีที่เข้าโรงพยาบาล งานก็เข้ามาหนักกว่าเดิม ตอนแรกเรายังคุยกับผู้จัดการว่าเอาแล้ว เราไม่ได้เล่นอินสตาแกรมแน่นอน เพราะเราต้องพักผ่อน แต่เดือนที่เล่นเราก็ดูตารางงานตัวเองแล้วว่าไม่ได้มีงานเยอะแยะ มีแค่งานเหล่านี้ที่ยืดหยุ่นได้ ไม่ใช่ว่าเราเตรียมใจจะล้มนะ แต่หมายถึงเราสามารถไปใช้ชีวิตของเราได้ เราเพิ่ง 24 เลย"

ช่วงนี้ก็ 3 งานวันหนึ่งไม่ได้แล้ว ?
"จริงๆ เราก็ไม่ได้มีแพลน 3 งานวันหนึ่ง ตั้งแต่เข้าวงการ ก็ต้องขอบคุณทางงานที่คิดว่าเราไหว พอเราไหวทำได้ก็คิดว่า เออ สนุกดี เราก็ไม่ได้ไปฟรี เราก็ไปทำงาน ทำเต็มที่ ดีใจที่ลูกค้ามองว่ามันคุ้มค่ากับการจ้าง ท้ายที่สุดมันไม่ใช่แค่เรื่องรายได้ที่เราได้ดูแลครอบครัวเรา แต่ว่าเป็นเรื่องของแฟนๆ ด้วย ยิ่งพอเราอยู่โรงพยาบาลก็เห็นฟีดแบ็กของแฟนๆ เยอะมาก ยิ่งตอนนี้แฟนๆ ก็ผลักดันเราเข้าสู่วงการติ๊กตอก โดยที่เราก็ไม่ได้เล่นมันจริงจัง แต่ได้เห็นฐานแฟนๆ เด็กๆ เต็มเลย ฟอลโลเวอร์เพิ่มขึ้นทั้งที่ไม่ได้อัพไอจี"

"ก็ขอบคุณแฟนๆ มากๆ และทุกๆ กำลังใจ อยากบอกว่าไม่ต้องกังวลอะไรมาก มันไม่ได้เป็นอะไรเยอะ แต่เราเล่นใหญ่ไว้ก่อน เพราะเราอยากให้มัน 100 เปอร์เซ็นต์ เราล็อกขาไว้ อย่างเรื่องการนอนไม่อยากให้มันขยับ"

พ่อแม่ปรามไหม ?
"หลักๆ พ่อแม่ก็ไม่ได้ห้ามหรือสนับสนุนอะไร พ่อแม่เข้าใจมากกว่า พ่อแม่ก็พูดว่าลูกทำงานเร็ว ลูกอย่าลืมใช้ชีวิตของลูกด้วย ซึ่งเราก็รู้สึกถึงตรงนั้นมาตลอด เพราะท้ายที่สุดพอเราลงมาจากเวทีเราก็คือคนทั่วไป เราก็ต้องใช้ชีวิตของเราด้วย"

เรื่องเบญจเพสเราต้องมีไปทำบุญอะไรหรือระมัดระวังอะไรไหม ?
"จริงๆ ก็ทำบุญเรื่อยๆ อยู่แล้ว ทำบุญกับแฟนๆ ทุกปี ผมมองว่าเรื่องเบญจเพสอาจจะมีส่วนบ้าง ต้องตามใจคุณแม่มากขึ้น เชื่อๆ ไว้ พอล้มวันแรกแม่ก็บอกว่าเบญจเพสไหมลูก ผมก็บอกว่าไม่หรอกแม่ แต่ก็มานั่งนึกว่า หรือใช่วะ คงมีส่วน แต่หลักๆ อุบัติเหตุมันเกิดขึ้นได้อยู่แล้วกับคนทุกเพศทุกวัยทุกวันเวลา แต่ผมใส่เซฟตี้นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุด เพราะเราไม่รู้ว่าเครื่องมันจะทิ้งเราตอนไหน เราเล่นได้ไม่กี่รุ่น"

"หลายคนเข้าใจว่าเราเล่นผาดโผนรึเปล่าที่เห็นในคลิป ต้องบอกว่าเวลาเราเล่นกับเพื่อนข้างนอก เราจะไม่เล่นอย่างนั้น เราเล่นปกติและมีเซฟตี้ครบ ถ้าเราไม่ใส่หน้าผมแหกแน่นอน ซึ่งโดยรวมๆ งานตอนนี้เป็นงานอัดเสียง เบื้องหลัง ซึ่งตอนนี้ผมไม่ได้ทำแค่งานเบื้องหน้า ทำเบื้องหลังด้วย ตัวผมเลยไม่ได้มีปัญหาในส่วนของงานเท่าไหร่"

หลังถอดเฝือกคือร้องเพลงได้ ?
"หลังถอดเฝือกขาก็คงลุยงานได้เลย มันก็จะมีเส้นยึดบ้าง ส่วนที่มืออาจจะใช้เวลานานกว่าขาแต่ไม่น่าจะนานมาก ซึ่งไม่มีปัญหาเพราะเราถือไมค์ได้ทั้งซ้ายขวา ส่วนครั้งที่แล้วเป็นศอกขวา พูดเหมือนผมวีรกรรมเยอะ แค่สองครั้งเองแต่แค่มันติดๆ กัน"

หมอสั่งห้ามอะไรไหม ?
"ไม่เลยเพราะคุณหมอเข้าใจ ต้องชื่นชมคุณหมอทุกๆ ท่านที่ดูแล และพูดพร้อมกันว่ามันคืออุบัติเหตุ คุณหมอดูแลดีมากๆ ตัวผมแทบไม่ต้องกังวลอะไรเลย"

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ ของ "นนท์ ธนนท์" เปิดใจ เกิดอุบัติเหตุเพราะตกเครื่องเล่น ทำให้ต้องใส่เฝือกทั้งขาและแขน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook