"นุ๊ก สุทธิดา" เคลียร์หมดเปลือก ข่าวเลิกสามีสะพัด แอบหวั่นลึกๆ กลัวเขาจะไม่กลับมา
ออกมาเคลียร์ใจต่อหน้าสื่อมวลชนให้ฟังกันชัดๆ ไปเลย สำหรับนักแสดงสาว นุ๊ก สุทธิดา เพราะหลังจากที่มีอาการป่วยเป็นมะเร็งไทรอยด์ ต้องเข้ารับการรักษาตัวอยู่นาน ก็มีข่าวลือสะพัดถาโถมว่าเธอได้เลิกรากับสามีหนุ่ม ฮากีม เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
งานนี้ นุ๊ก สุทธิดา ได้ยืนยันว่า ยังรักกับสามีดี ไม่ได้เลิกรากันอย่างที่มีข่างเกิดขึ้น แต่ยอมรับต้องแยกกันอยู่ เนื่องจากฝ่ายชายพาสปอร์ตหมดอายุ ทำให้ต้องบินกลับบ้านเกิดที่ประเทศมาเลเซีย บวกกับอยู่ในช่วงล็อกดาวน์บ้านเขา จึงทำให้บินกลับมาที่ไทยไม่ได้ในช่วงนี้
อัปเดตเรื่องสุภาพ อาการป่วยเป็นยังไงบ้าง ?
"รออีก 2 เดือนนะคะ จะได้ไปตรวจว่ายังเหลือเซลล์มะเร็งอยู่หรือเปล่า ถ้ายังหลงเหลืออยู่ก็ต้องกลืนแร่เป็นครั้งที่ 2 ค่ะ แต่ตอนนี้ก็ปกติดีค่ะ มีเหนื่อยง่ายนิดหน่อย อันนั้นน่าจะเป็นผลพวงจากที่เราไม่มีไทรอยด์แล้ว"
"ตอนนั้นที่ผ่าตัดไม่ค่อยเท่าไหร่ค่ะ แต่ตอนที่ต้องกลืนแร่มันคล้ายๆ กับการที่ให้คีโม เพราะฉะนั้นมันก็ค่อนข้างที่จะเหนื่อยมาก ต้องอยู่คนเดียว เพราะเรามีแร่กัมมันตภาพรังสีอยู่ในตัวใช่ไหมคะ ก็ไม่สามารถที่จะเจอใครได้ แม้กระทั่งหมอหรือพยาบาล คือต้องดูแลตัวเอง มันค่อนข้างที่จะต้องใช้ร่างกายพอสมควรค่ะ"
"อาการตอนนั้นจะอาเจียนมากกว่าค่ะ อยากจะอาเจียน ทานอะไรไม่ได้ เหมือนคนเมารถตลอดเวลาค่ะ เป็นประมาณ 4 วัน"
เห็นว่าต้องกินยาไปตลอดชีวิตเลย ?
"คือคนที่ตัดไทรอยด์ไปแล้ว เราไม่มีต่อมไร้ท่อ ไม่มีฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่ต่อมไร้ท่อผลิต เพราะฉะนั้นก็คือจะต้องกินยาไปตลอดชีวิตอยู่แล้วค่ะ เป็นยาทดแทนฮอร์โมนไทรอยด์ที่หายไป"
"ส่วนมะเร็ง ตอนที่เรากลืนแร่คือครั้งหนึ่งแล้วต้องเว้นไปอีก 6 เดือน ถึงจะกลืนได้อีกครั้ง คุณหมอเลยยังไม่ได้ตรวจว่ายังมีมะเร็งหลงเหลืออยู่อีกไหม ก็รอตอนที่กลืนได้แล้วก็ตรวจเลย"
เปอร์เซ็นต์สูงไหมที่มะเร็งจะไม่มีอีกแล้ว ?
"ตอนผ่าตัดคุณหมอก็พูดแบบนั้นว่าพยายามจะเอาออกไปให้หมดค่ะ แต่ด้วยความที่เซลล์มะเร็งมันก็อยู่ในต่อมไร้ท่อ ซึ่งมันจะปล่อยทั้งเลือดและฮอร์โมนต่างๆ เข้าไปสู่ร่างกาย เพราะฉะนั้นก็ต้องรอตรวจทั้งผลเลือดและตรวจอะไรหลายๆ อย่างอีกทีหนึ่ง"
สภาพจิตใจตอนนี้เราเป็นยังไงบ้าง ยังแอบมีกังวลใจอะไรอยู่ไหม ?
"ไม่ค่อยกังวลค่ะ ก็ถือว่าคุณหมอบอกว่าหายก็หาย และถึงจะตรวจแล้วเป็นใหม่ก็ค่อยเป็นอีกทีหนึ่ง (หัวเราะ)"
พอทราบไหมว่าสาเหตุที่เป็นโรคนี้เกิดจากอะไร ?
"อาหาร ความผิดปกติของเซลล์เรา เพราะสมัยนี้อาหารมันมีทั้งสารเร่งโต สารเคมีหลายอย่าง ยาฆ่าแมลง หรือแม้แต่พืชก็มีการตัดแต่งพันธุ์กรรมมากขึ้น มันก็น่าจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งค่ะ"
จากสุขภาพต่างๆ มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้อีกไหม ?
"อันนี้ก็ยังไม่รู้เลยค่ะว่ามันจะเป็นยังไงต่อไป แต่ตอนนี้ก็ดีใจที่รอดชีวิตมาได้เล่นโลกทั้งใบฯ เวอร์ชั่น 2 (หัวเราะ)"
แล้วเราดูแลเรื่องอาหารการกินยังไง ?
"ก็รับประทานอาหารได้ปกตินะคะ พอเราไม่มีฮอร์โมนไทรอยด์ เราก็ต้องพยายามทำร่างกายของเราให้แข็งแรง ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ อาจจะมีออกกำลังกาย ทำกิจกรรมบ้าง แต่ไม่ถึงกับต้องทานอาหารออแกนิคอะไรขนาดนั้นค่ะ อาศัยที่ว่าเรามีความสุข มีความสบายใจในการใช้ชีวิต ก็ทำให้ชีวิตมันง่ายขึ้นค่ะ"
ช่วงแรกๆ มีนอยด์บ้างไหม ?
"ไม่นอยด์เลยค่ะ เหมือนเราทำใจตั้งแต่วันที่รู้ครั้งแรก เราก็คิดว่าจะทำยังไงต่อไป คือนุ๊กก็มีลูกด้วย ทำให้รู้ว่าจะต้องอยู่เพื่อใคร และจะต้องอยู่ยังไง เลยทำให้รู้สึกว่าไม่ได้นอยด์หรือกลัวกับการใช้ชีวิตมากนัก"
ผ่านจุดนั้นมาได้ยังไง ?
"น่าจะเป็นลูกที่ทำให้ทุกอย่างมันดีขึ้นค่ะ ด้วยความที่ลูกเราเป็นผู้ชายหมดเลย เขาก็ไม่ได้มาให้กำลังใจอะไร แต่รู้ว่าทุกคนก็พยายามที่จะรับผิดชอบหน้าที่ คือโตขึ้น อะไรที่แม่สั่งก็พยายามจะทำมากขึ้น แล้วก็ดื้อน้อยลงค่ะ เห็นพัฒนาการได้อย่างชัดเจน ก็ขอบคุณมากๆ ที่เป็นมะเร็งนะคะ ทำให้ลูกดื้อน้อยลง (ยิ้ม) อันนี้ถือว่าคุ้มแล้วค่ะ เขาเปลี่ยนแปลงตัวเองแบบใหญ่หลวงมาก อาจจะด้วยวัยเขาด้วย บางทีพอเราบ่น เราว่ามากๆ เขาก็จะหยุด ไม่ค่อยเถียง"
ถามถึงเรื่องสามี ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ?
"ตอนนี้สามีก็ไปอยู่มาเลเซียนะคะ คือช่วงโควิดพาสปอร์ตของสามีก็หมดอายุค่ะ แต่ยังไม่สามารถเดินทางได้ จนประมาณเดือนที่ผ่านมารัฐบาลมีกำหนดว่า ใครก็ตามที่เป็นชาวต่างด้าวเข้ามาอยู่ในประเทศไทยโดยพาสปอร์ตวีซ่าหมดอายุแล้ว กำหนดการสุดท้ายคือต้องเดินทางออกภายในเดือนเก้าถ้าจำไม่ผิด ซึ่งสามีก็เดินทางออกไปแล้วในวันนั้น"
แล้วที่มีข่าวว่าเรามีปัญหากันในครอบครัวจริงไหม ?
"ไม่มีค่ะ คือก็มีข่าวเลิกกันทุกช่วงเลย ทุก 3 เดือนเลย แต่อันนี้ยังไม่ได้เลิกกันนะคะ"
งงไหมว่าข่าวมาได้ยังไง ทั้งๆ ที่เราก็รักกันดี ?
"อาจจะฟังผิดหรือเปล่า หรืออาจจะจั่วหัวไปก่อน เพราะตอนนี้เราก็แยกกันอยู่ ยังไม่มีกำหนดการว่าจะกลับมาได้เจอกันอีกเมื่อไหร่ใช่ไหมคะ เพราะเขาเองก็ยังกลับมาไม่ได้ พอพาสปอร์ตหมดอายุ เขาก็ต้องรอทำพาสปอร์ต ซึ่งตอนนี้กัวลาลัมเปอร์ก็ล็อกดาวน์อยู่ ยังไม่สามารถจะเข้าไปทำพาสปอร์ตได้"
ระหว่างที่ห่างกัน ยังพูดคุยติดต่อกันตลอดเวลาไหม ?
"คุยค่ะ"
ข่าวมีผลกระทบอะไรต่อเราไหม เพราะเราก็ป่วยยังมีข่าวออกมาว่าเลิกสามีอีก ?
"ยังไม่เลิกกันนะคะ (หัวเราะ) แต่ไม่ต้องกลัวค่ะ ถ้าเลิกกันแล้วจะรีบบอกเลย เพราะคิวใหม่จะได้เข้ามาเร็วๆ (หัวเราะ)"
แล้วกับกระแสที่ทางสามีถูกโจมตีว่าเราป่วย แต่เขาก็ยังทิ้งเราไป เขามีเครียดบ้างไหม ?
"เขาไม่รู้ค่ะ เลยไม่ค่อยมีปัญหาอะไร ถือว่าโชคดีด้วยค่ะ คือก่อนหน้านี้เกือบจะเช่าที่เปิดยิมอีกรอบหนึ่งแล้ว พอดีว่าเขาต้องเดินทางกลับไปก่อน"
เหมือนก่อนหน้านี้เราแอบกังวลกลัวว่าเขาจะไม่กลับมา ?
"ลึกๆ ก็กลัวนะคะ เพราะตอนนั้นเขาต้องเลี้ยงลูก เหมือนเป็นพ่อบ้านเลยค่ะ อย่างอดัมคือนุ๊กไม่เคยได้อาบน้ำ ไม่เคยได้เช็ดอะไรเลย คือเขาทำหมดทุกอย่าง ถ้าเขาไม่อยู่ก็ไม่รู้ว่าใครจะดูลูก ตอนนั้นก็แอบกังวล นอยด์ๆ เหมือนกันว่าจะกลับมาไหม"
"ด้วยความที่เขาเป็นที่ติดบ้าน และเป็นเด็กน้อยมากๆ เลยนะคะ เขาไม่เคยห่างพ่อห่างแม่ วันที่เขามาเขาจะบ่นเสมอมาว่าเขาคิดถึงบ้าง คิดถึงอาหาร อยากกลับบ้านทุกเดือน แต่เพราะเราทำธุรกิจ เขาเลยกลับบ้านได้ไม่บ่อย บางครั้งก็ปีละครั้ง เราก็กลัวเขากลับไปแล้วจะไม่ร่าเริง แต่กลายเป็นว่าตอนนี้เขาอ้วนมากจากที่ผอมๆ เขาคงจะเอ็นจอยกับอาหารค่ะ และก็ปาร์ตี้ทุกวันเลยช่วงนี้ (หัวเราะ)"
เราได้คุยกับเขาไหม ว่าจะกลับมาไหม หรือจะกลับมาเมื่อไหร่ ?
"ยังไม่ได้คุยกันเรื่องนี้ว่าจะกลับมาเมื่อไหร่ เพราะเราก็รู้ว่าทางโน้นล็อกดาวน์ เราประเมินไว้ว่าต้องปีหน้าแน่นอน แต่จะปีหน้าเมื่อไหร่ด้วยซ้ำที่เราจะได้เจอกัน แต่จริงๆ คนที่น่าสงสารไม่ใช่นุ๊ก น่าจะเป็นอดัม เพราะเขานอนกับพ่อ อยู่กับพ่อตลอด แม่จะเป็นคนออกไปทำงานนอกบ้าน เขาจะมีคำพูดทิ่มแทง อย่างเช่น บ๊ายบายสิ บ๊ายบายแด๊ดดี้เร็ว เขาก็จะฮัลโหลสวนขึ้นมาเลย I don't want to say byebye หรือเวลาเขาถามว่าพ่อกำลังทำอะไรอยู่ แล้วพ่อเขาบอกว่ากำลังจะกลับบ้าน เขาก็จะบอก อ้าวแล้วแด๊ดดี้ไม่อยากกลับมาบ้านนี้แล้วเหรอ คือน้องยังเล็กมากและยังไม่รู้"
แล้วเราคุยกับลูกยังไง ?
"คือเราก็ไม่ได้อธิบาย เพราะน้องยังไม่เข้าใจ แต่ก็พยายามให้เขารู้สึกว่า พ่อเขาอยู่ทุกครั้งที่โทรหา จะมีงอนกันบ้างนะเวลาที่โทรหาแล้วเขาไม่รับสาย เพราะเราอยากให้ลูกได้เจอพ่อทุกครั้งที่อยากจะเจอ"
ยืนยันว่าตอนนี้ยังติดต่อกันเหมือนเดิม ?
"ยังติดต่อกันเหมือนเดิมค่ะ ยังรักกันเหมือนเดิมค่ะ ห่างแค่ระยะทาง แต่จริงๆ ไม่อยากพูดว่ารักกันเหมือนเดิมเลย เพราะพอมีข่าวว่ารักกันจะทะเลาะกันทุกที แต่ช่วงที่มีข่าวว่าเลิกกันจะรักกัน (หัวเราะ)"
ได้ให้คำมั่นสัญญาอะไรกันไว้ไหม ?
"เขาไปไหนไม่รอดหรอกค่ะ (ยิ้ม)"
- "นุ๊ก สุทธิดา" ควงลูกชายเปิดใจในวันเผชิญมรสุมชีวิต พร้อมเผยคำสัญญาต่อหน้าสามี
- มรสุมชีวิต"นุ๊ก สุทธิดา" รับแยกอยู่กับสามี เจ็บปวดหัวใจ ต้องบอกลูก 3 ขวบจะไม่ได้เจอพ่อ
- เกิดอะไรขึ้น? "นุ๊ก สุทธิดา" โพสต์ถึงความรัก กำลังทรงตัวบนเส้นบางๆ คนแห่ให้กำลังใจล้น
อัลบั้มภาพ 12 ภาพ