เปิดศึกแย่งลูก แม่พากลุ่มญาติบุกอุ้มลูกหน้ารร.ดัง ปู่สวมวิญญาณนักบู๊กระโดดเกาะรถ

แม่พาชายฉกรรจ์นับสิบบุกอุ้มลูกหน้าโรงเรียนดังกลางเมืองอ่างทอง ขึ้นรถเตรียมหนี ขณะที่ปู่กระโดดเกาะรถ สุดท้ายตำรวจนำตัวส่งโรงพักไกล่เกลี่ย ขณะที่เด็กยืนกรานจะอยู่กับปู่ย่า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (6 พ.ย.) มีชายฉกรรจ์นับสิบคนพร้อมด้วยหญิงสาวอายุประมาณ 30 ปี บุกอุ้มตัวของ น้องบี (นามสมมุติ) วัย 6 ปี นักเรียนชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนเอกชนกลางเมืองอ่างทองและพยาบาลหลบหนีขึ้นรถกระบะที่จอดเตรียมไว้ด้านข้างวัดสนามชัย ต.ตลาดหลวง อ.เมือง จ.อ่างทอง

ก่อนที่ นายสานิตย์ อายุ 57 ปี ปู่ของน้องบี ซึ่งวิ่งตามไปทันจะกระโดดเกาะประตูรถไว้ และชาวบ้านเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งที่อยู่บริเวณดังกล่าวช่วยกันหยุดรถไว้ไม่ให้หลบหนี จนกระทั่งญาติๆ ของน้องบีตามมาทันและเกิดการแย่งน้องบีลงจากรถอีกครั้ง จนหวิดจะมีเรื่องราวบานปลาย ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอ่างทอง ซึ่งเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุและแยกทั้งสองฝ่ายออกจากกันเพื่อพุดคุยเจรจาไกล่เกลี่ย

จากการสอบถาม นายกิติชัย อายุ 59 ปี อาจารย์ฝ่ายปกครองโรงเรียนดังกล่าว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา น.ส.นุสรา อาย 32 ปี มารดาของน้องบี เดินทางมาที่โรงเรียนพร้อมญาติๆ จำนวนมากเพื่อที่จะมาอรับตัวน้องบีไป โดยนำหนังสือบันทึกประจำวันของ สภ.เมืองอ่างทอง มาให้ตนดู ซึ่งตนก็เห็นว่ายังไม่สามารถนำเด็กไปได้ ก็เลยโทรเรียกผู้ปกครองของน้องบีมาที่โรงเรียนเพื่อพูดคุยกัน

โดยระหว่างที่กำลังพูดคุย จู่ๆ มารดาของน้องบีก็อุ้มน้องบีวิ่งหนีออกจากโรงเรียน โดยมีญาติๆ ที่เป็นชายฉกรรจ์นับสิบคนคอยวิ่งประคองไปขึ้นรถที่จอดไว้ด้านนอก ซึ่งตนเองและผู้ปกครองของน้องบีก็วิ่งตามออกมาจนทันที่ด้านหน้าวัด จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาช่วยเจรจาไกล่เกลี่ย

ด้าน น.ส.นุสรา แม่ของน้องบี บอกว่า เมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนเองจะพาลูกกลับบ้านที่ จ.สกลนคร เนื่องจากเลิกกับสามีแล้ว แต่ทางญาติของสามีไม่ยอม โดยบอกว่าต้องรอให้เด็กโตกว่านี้ก่อน และบอกว่าตนเองไม่ค่อยได้ดูแลเด็กจึงไม่ยอมให้ไปกับตน พอมาวันนี้จึงเข้ามารับน้องบีเพื่อไปอยู่ด้วยที่ จ.สกลนคร

ขณะที่ น้องบี วัย 6 ปี ซึ่งยังอยู่ในอาการตกใจ เมื่อถามว่าอยากไปอยู่กับแม่หรือไม่ น้องบีกลับบอกว่าไม่อยากไปอยู่ อยากอยู่กับย่าและปู่ ทำให้ทางญาติของพ่อน้องบีเข้าไปแย่งน้องบีออกมาอีกครั้ง และเกือบเหตุชุลมุนกัน จนทางเจ้าหน้าที่ต้องนำตัวทั้งหมดไปที่ สภ.เมืองอ่างทอง

เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ได้อธิบายทำความเข้าใจกับทาง น.ส.นุสรา ว่ากรณีนี้ต้องเป็นการร้องศาลเพื่อขอสิทธิในการเลี้ยงดูบุตร แต่ไม่สามารถมากระทำเช่นนี้ได้ และเด็กก็อยู่ในความปกครองของปู่และย่า ก่อนที่จะให้ทาง น.ส.นุสรา กลับไปปรึกษากับทนายเพื่อดำเนินการในเรื่องการร้องศาลต่อไป