สาวเจ้าของบริษัททัวร์ เจอพิษโควิด-19 ต้องขายเรือ-อยู่บ้านเฉยๆ เครียดรมควันฆ่าตัวตาย

สาวเจ้าของบริษัททัวร์กระบี่เจอพิษโควิด-19  ธุรกิจที่เปิดมาเป็นสิบปีล้ม เครียดสะสมมานาน ตัดสินใจรมควันตัวเองดับ

(10 พ.ย.63) ร.ต.อ.พิพัฒน์ วงศ์เดช รองสารวัตรสอบสวนสภ.เขาพนม จ.กระบี่ พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยมูลนิธิประชาสันติสุขเขาพนม เข้าตรวจสอบเหตุคนเสียชีวิตที่บ้าน ม.2 ต.เขาดิน อ.เขาพนม โดยที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว 2 ห้องนอน ภายในห้องนอนพบศพผู้เสียชีวิตทราบชื่อต่อมาคือ นางสาวพิมประภา อายุ 47 ปี นอนเสียชีวิตในสภาพนอนตะแคง สวมผ้าถุง สภาพขึ้นอืด เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 วัน ข้างศพผู้ตายพบเตาถ่านสภาพใหม่ มีร่องรอยการก่อไฟ และมีกลิ่นทางเจ้าหน้าที่จึงจุดธูปดับกลิ่นศพก่อนนำศพไปชันสูตรที่ รพ.เขาพนม เนื่องจากญาติเชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตายเอง และไม่มีร่องรอยการต่อสู้ใดๆ 

จากการสอบถาม นางสาวณัฐนิช อายุ 44 ปี ญาติผู้น้องของผู้ตาย บอกว่า ผู้ตายเดิมเป็นเจ้าของบริษัททัวร์เปิดขายทัวร์ให้นักท่องเที่ยวอยู่ที่เกาะพีพี มาหลายสิบปีแล้ว จนกระทั่งช่วงโควิดระบาดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ไม่มีนักท่องเที่ยวจึงได้กลับมาอยู่บ้านที่บ้านของตนกับแม่ โดยได้ขายเรือหางยาวที่ใช้ทำทัวร์ไป จากนั้นก็กลับมาอยู่โดยไม่มีงานทำ แต่ละวันก็ใช้ชีวิตปกติ แต่เกิดความเครียดบ่อยครั้ง เนื่องจากไม่มีงานจากคนที่เคยมีงานประจำ และประกอบกับสามีที่บ้านอยู่ จ.ชัยนาท ไม่ยอมลงมาอยู่ที่กระบี่ด้วย ก็อาจทำให้เกิดความเครียดจนฆ่าตัวตายด้วยการรมควันดังกล่าว 

ขณะที่ นางนิยม อายุ 70 ปี ป้าของนางสาวพิมประภา เผยว่า ผู้ตายเป็นลูกของน้องสาวตน แต่ได้เสียชีวิตตั้งแต่ผู้ตายยังเล็ก ตนจึงได้นำมาเลี้ยงดูจนโต และไปทำงานที่เกาะพีพีเปิดบริษัททัวร์มานานนับสิบปี จนมีโควิดระบาด ต้องขายเรือ เลิกทำทัวร์ จากคนที่เคยทำงานทุกวัน มีเงินใช้ตลอดมีเงินเป็นบ้านไปเที่ยวต่างประเทศ แต่ต้องมาตกงานก็เกิดความเครียด และผ่านมาหลายเดือนจนเครียดสะสม ที่ผ่านมาก็มีการพูดคุยขอให้อย่าเครียด เพราะที่บ้านก็อยู่สบาย สามารถเลี้ยงดูได้ แต่สุดท้ายก็มาเสียชีวิต 

ขณะที่ชาวบ้านใกล้ที่เกิดเหตุ ซึ่งได้ไปงัดประตูบ้าน เล่าว่า วันนี้ นางนิยม พร้อมกับเพื่อนบ้านได้มาดูที่บ้านหลังดังกล่าวเพื่อเรียกนางสาวพิมประภา แต่ก็ไม่มีการขานรับ เนื่องจากไม่มีใครเห็นมาตั้งแต่ค่ำวันเสาร์  ตนจึงไปงัดประตูและมีกลิ่นออกมาก็เลยแจ้งกู้ภัยร่วมตำรวจมาตรวจสอบก็พบว่า ได้รมควันตัวเองในห้องนอนจนเสียชีวิตแล้ว