จากวันที่รุ่งเรืองถึงวันล้มละลาย ชีวิตพลิกผันที่อาจเกิดกับใครก็ได้ หากคุณยังไม่รู้ความจริงของบุหรี่
“ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ต่อให้ใครเอามีดมาจ่อคอก็จะไม่ยอมสูบบุหรี่เด็ดขาด”
“ผมเคยทำงานรับเหมา จนเข้ามาทำงานกรุงเทพ ก็ได้ดิบได้ดี มีเงินใช้ แต่ต้องมาล้มละลาย เพราะเป็นโรคถุงลมโป่งพอง ทำงานไม่ได้ พยายามทู่ซี้ทำงานต่ออีก 3 ปี แต่มันทำไม่ไหว จนเริ่มท้อ สุดท้ายทรัพย์สินต่าง ๆ โดนยึด จากเคยมีครอบครัวสมบูรณ์ มีเงินใช้ หาเงินได้วันละเป็นหมื่น ตอนนี้ 10 บาทยังหาไม่ได้ ทุกอย่างตกต่ำลงกว่าศูนย์เพราะบุหรี่”
“บุหรี่ทำให้ล่มจม”
“ผม อายุ 69 ปี มีลูก 3 คน เสียชีวิตไปแล้ว 1 คน เริ่มสูบบุหรี่ตั้งแต่อายุ 18 ปี และสูบต่อเนื่องมากว่า 30 ปี เริ่มสูบบุหรี่ตั้งแต่ตอนเป็นวัยรุ่น เพราะคิดว่าเท่ ตอนนั้นอยู่ต่างจังหวัดก็เริ่มจากสูบใบยา จนมาเป็นบุหรี่พระจันทร์ รวงทอง รวงข้าว รวงทิพย์ กรุงทองลองมาหมด ลองจนติด ตื่นมาต้องสูบ กินข้าว กินกาแฟต้องสูบ แม้แต่ตอนเข้าห้องน้ำก็ต้องสูบ”
“สมัยก่อนไม่รู้เลยว่า มันอันตราย มีโทษ มีภัยมหันต์ ไม่มีใครบอก ไม่มีใครให้ความรู้เหมือนเดี๋ยวนี้ เคยพยายามเลิก แต่ไม่สำเร็จ ขนาดเมียว่ายังไงก็ไม่เชื่อ เค้าแอบเอาไปซ่อน ผมก็ไปหาจนเจอ”
“ตอนนี้รู้แล้ว บุหรี่ทำให้ผมล่มจม”
“เลิกได้ เพราะโรคถุงลมโป่งพอง”
“ตอนอายุย่าง 50 เริ่มมีอาการเหนื่อยผิดปกติ มีเสมหะ หายใจไม่ค่อยได้ อะไรที่เคยทำได้สบาย กลายเป็นเหนื่อยมาก แค่กินข้าว ขยับตัวก็เหนื่อย นอนก็ไม่ค่อยหลับ”
“ช่วงแรกก็ซื้อยามากินเอง ไม่คิดว่าเป็นอะไรมาก จนมาช่วงน้ำท่วมใหญ่ ต้องนอนเฝ้าของ เครียดมาก พอยิ่งเครียดก็ยิ่งสูบเยอะ จนน้ำเริ่มลด ก็น็อกเลย ลูกน้องพาส่งโรงพยาบาล เข้าห้องไอซียู ลูกน้องบอกว่า ตอนนั้นคิดว่า ผมตายแล้ว เพราะตัวเหลวไปหมด หมอบอกว่า เป็นโรคถุงลมโป่งพอง ทั้งตกใจทั้งเสียใจ ไม่คิดว่าเกิดจากบุหรี่ เลยเลิกเด็ดขาด นับถึงวันนี้ทรมานมา 9 ปีแล้ว เดือน ๆ นึงต้องมาหาหมอ 3-4 ครั้ง บางทีต้องเรียกรถฉุกเฉินให้พามา”
“ตอนนี้แค่เห็นคนสูบบุหรี่ก็แทบอยากจะหนี”
“กว่า 90% เป็นเพราะสูบบุหรี่”
รศ.ดร.พญ.เบญจมาศ ช่วยชู แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านทางเดินหายใจและปอด ได้เล่าถึงกรณีของคุณลุงปรีชาว่า
“ช่วงแรกผู้ป่วยไม่ได้มาหาหมอ เพราะคิดว่าเป็นอาการตามวัย จนอาการกำเริบ เกือบเสียชีวิต ถึงได้มาหาหมอ และวินิจฉัยจนพบว่า เป็นโรคถุงลมโป่งพอง อาการค่อนข้างหนักแล้ว เพราะปอดถูกทำลายไปพอสมควร”
“โรคถุงลมโป่งพองเกิดจากอนุภาคในสิ่งแวดล้อม โดยคนไข้ที่นี่กว่า 90 % เป็นผลมาจากอนุภาคของบุหรี่ เพราะสารในบุหรี่ทำให้ปอดอักเสบ รวมทั้งทำลายหลอดลม ถุงลม หลอดเลือด ส่งผลให้เกิดโรคอันตรายสารพัด เช่น มะเร็งปอดที่อาจเสียชีวิตภายในไม่กี่ปีถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ขณะที่โรคถุงลมโป่งพอง จะค่อยเป็นค่อยไป มักแสดงผลหลังอายุ 40 แต่พอเป็นแล้ว จะทรมานไปจนกว่าผู้ป่วยจะเสียชีวิต”
“อาการของโรคถุงลมโป่งพอง คือ ไอเรื้อรัง และเหนื่อยมากกว่าคนวัยเดียวกัน แต่ถ้าให้แน่ใจก็ต้องมาตรวจสมรรถภาพปอด แต่ถึงแม้ว่าตรวจแล้ว วันนี้ผลออกมาปกติ ก็ไม่ได้หมายความว่า วันข้างหน้าจะไม่เป็น ตราบใดที่ยังสูบบุหรี่ ปอดก็จะถูกทำลายต่อไป”
“การเลิกบุหรี่จึงเป็นเรื่องที่ดีต่อตัวเอง ยิ่งเลิกเร็ว ยิ่งลดความเสี่ยงต่าง ๆ ได้”
ถ้าไม่อยากให้บุหรี่มาทำลายชีวิต และอยากเลิกสูบบุหรี่ สามารถปรึกษาฟรีได้ที่สายด่วน 1600
[Advertorial]