เปิดรายชื่อ 135 หมู่บ้าน-ชุมชน นำร่อง พื้นที่เสพพืชกระท่อม โดยไม่ผิดกฎหมาย
ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ส. พิจารณาเห็นชอบให้พื้นที่นำร่อง เปิดรายชื่อ 135 หมู่บ้าน/ชุมชน เป็นท้องที่ที่ให้เสพพืชกระท่อมได้โดยไม่เป็นความผิด
วันนี้ (15 พ.ย.) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 63 ที่ผ่านมา โดยมีนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และนายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. ในฐานะกรรมการและเลขานุการฯ เข้าร่วมประชุม
รายงานข่าวระบุว่า สำหรับการประชุมครั้งนี้มีวาระสำคัญคือ เพื่อติดตามความคืบหน้าในการดำเนินงานการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยสำนักงาน ป.ป.ส. ได้รายงานถึง ร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมาธิการของรัฐสภา การปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับพืชกระท่อมซึ่งมีความคืบหน้าไปมาก
โดยขณะนี้ร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่มีหลักการสำคัญคือการถอดพืชกระท่อมออกจากยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 อยู่ระหว่างเสนอบรรจุในวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ขณะที่ร่างพระราชบัญญัติพืชกระท่อม พ.ศ. .... ที่มีหลักการสำคัญคือการกำหนดมาตรการควบคุมพืชกระท่อมเพื่อป้องกันมิให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงพืชกระท่อม และป้องกันไม่ให้มีการนำพืชกระท่อมไปใช้ในทางที่ผิด โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติหลักการแล้ว และอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทั้งนี้ได้มีวาระพิจารณาที่สำคัญคือ พิจารณาเห็นชอบให้พื้นที่นำร่อง 135 หมู่บ้าน/ชุมชน เป็นท้องที่ที่ให้เสพพืชกระท่อมได้โดยไม่เป็นความผิด ตามมาตรา 58/2 แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 หลังจากที่สำนักงาน ป.ป.ส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการเตรียมการรองรับเป็นที่พื้นที่นำร่องครบทุกขั้นตอนแล้ว โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบต่อวาระพิจารณาดังกล่าว และมอบหมายให้ กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องก่อนลงนามในประกาศต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับพื้นที่นำร่อง 135 หมู่บ้าน/ชุมชน ประกอบด้วย 10 จังหวัด 10 อำเภอ 19 ตำบล 1 เทศบาล 110 หมู่บ้าน 25 ชุมชน เช็คได้ ที่นี่ ดังนี้
จังหวัดนนทบุรี บ้านคลองหนึ่ง หมู่ 10 ในตําบลไทรใหญ่ อําเภอไทรน้อย
จังหวัดปทุมธานี หมู่ที่ 12 ในตําบลคลองสาม อําเภอคลองหลวง
จังหวัดนครศรีธรมราช 8 หมู่บ้าน ในตําบลคลองเส อําเภอถ้ำพรรณราย
จังหวัดกระบี 9 หมู่บ้าน ในตําบลเขาดิน อําเภอเขาพนม
จังหวัดพังงา 7 หมู่บ้าน ในตําบลลําภู อําเภอท้ายเหมือง
จังหวัดสุราษฎร์ธานี 65 หมู่บ้าน 1 เทศบาล 25 ชุมนุม ในตําบลเพิ่มพูนทรัพย์, ทุ่งเตาใหม่, น้ำพุ คลองปราบ, ควนสุบรรณ, ควรศรี, ท่าชี, ลําพูน, ทุ่งเตา, พรุพี, และนาสาร อําเภอบ้านนาสาร
จังหวัดระนอง 5 หมู่บ้าน ในตําบลละอุ่นเหนือ อําเภอละอุ่น
จังหวัดชุมพร 1 หมู่บ้าน ในตําบลบางหมาก อําเภอเมืองชุมพร
จังหวัดตรัง 4 หมู่บ้าน ในตําบลในเตา อําเภอห้วยยอด
จังหวัดพัทลุง 9 หมู่บ้าน ในตําบลลําสิทธ์ อําเภอศรีนครินทร์
สำหรับ การจัดทำพื้นที่นำร่องเพื่อการศึกษา และการควบคุม กระท่อม มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นพื้นที่ต้นแบบในการศึกษารองรับนโยบายการปรับสถานะพืชกระท่อมออกจากสารเสพติด โดยต้องทำอย่างรัดกุมและเป็นขั้นตอน เพื่อให้เกิดปัญหาน้อยที่สุด
โดยการคัดเลือกพื้นที่นำร่องของ ป.ป.ส. มีหลักสำคัญคือ ต้องคำนึงถึงความพร้อมของชุมชนเป็นสำคัญ นอกจากนี้ ต้องเป็นพื้นที่ที่มีประวัติการใช้พืชกระท่อม ตามวิธีชุมชนดั้งเดิมมาอย่างยาวนาน
ที่สำคัญ คนในพื้นที่ต้องมีความพร้อมในการดูแล ควบคุมเพื่อไม่ให้ใช้ผิดวัตถุประสงค์ และให้ความร่วมมือช่วยเหลือในการอำนวยความสะดวกในการสำรวจต้นกระท่อมเพื่อจัดทำฐานข้อมูล กำกับ รวมทั้งการติดตามการใช้พืชกระท่อม ดังนั้น ขั้นแรกชุมชนต้องเห็นด้วย และพร้อมที่จะเป็นกลไกการดูแลอย่างจริงจังในระยะยาว
โดยตั้งแต่ปี 2560 สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ดำเนินโครงการ และให้ตำบลน้ำพุ อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นพื้นที่ต้นแบบในการศึกษาวิจัย ซึ่งมีผลตอบรับที่ดี คือ พบการใช้ผิดวัตถุประสงค์น้อย เนื่องจากการที่ชาวบ้านช่วยกันจัดตั้งธรรมนูญชุมชนเพื่อควบคุมดูแลโดยใช้ชุมชนเป็นกลไกสำคัญ จึงเป็นต้นแบบในการเตรียมพื้นที่ 135 หมู่บ้านชุมชน เพื่อใช้ในการศึกษา และควบคุมดูแลการใช้พืชกระท่อม