เสี่ยบิ๊กไบค์โพสต์เตือนภัย ขับชนกองข้าวตากบนถนน เจอหลานสาวชาวนาคอมเมนต์ด่า
เสี่ยร้านยางขับบิ๊กไบค์ชนกองข้าวเปลือกตากบนถนน รถพังและบาดเจ็บ ตอนแรกไม่คิดเอาเรื่องแต่เปลี่ยนใจเพราะหลานชาวนาเข้ามาคอมเมนต์ด่า
(17 พ.ย.63) กลายเป็นกระแสดราม่าอีกแล้วกับการตากข้าวเปลือกบนถนนหลวง ล่าสุด นายคณากร อภัยจิตต์ หรือ เสี่ยเต้ย อายุ 27 ปี เจ้าของร้านยางแห่งหนึ่งใน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ได้ขับรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ยี่ห้อ Ducati Multistrada Enduro มาจากตัวอำเภอนางรอง จะกลับบ้านที่บ้านหนองสะแก ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ แต่พอขับมาถึงบริเวณบ้านหนองจอก ต.เจริญสุข ช่วงประมาณ 20.00 น. ซึ่งมีชาวนานำข้าวเปลือกมาตากบนถนน 1 ช่องจราจรเป็นทางยาว ซึ่งบางช่วงมีกรวยยางตั้งเป็นสัญลักษณ์ไว้ก็จะหักหลบ
แต่บางจุดมีเพียงกิ่งไม้กั้นเอาไว้ ทำให้มองไม่เห็นเพราะค่อนข้างมืด จึงขับพุ่งชนกองข้าวเปลือกที่ตากไว้บนถนนจนทำให้รถเสียหลักล้มจนรถพังเสียหาย และได้รับบาดเจ็บมีแผลบริเวณเข่า เท้า และระบมตามตัว พอประคองตัวขึ้นได้จึงใช้มือถือถ่ายรูปจุดที่เกิดเหตุและบาดแผลไว้ แล้วได้โพสต์เตือนภัยข้อความว่า “ไม่คิดว่าอุบัติเหตุแบบนี้จะเกิดขึ้นกับผมเป็นครั้งที่ 2 ปีที่แล้วก็ขับชนเข้ากับกองข้าวแต่เป็นอะไร มาปีนี้หนักหน่อย #ฝากถึงชาวนาในฤดูการเก็บเกี่ยวควรมีกรวยที่สะท้อนแสงหรืออุปกรณ์ที่มองเห็นชัดเจนในยามกลางคืน ไม่ใช่แบบนี้เพราะอุบัติเหตุจากการตากข้าวบนท้องถนนเกิดขึ้นทุกๆปี ทั้งบาดเจ็บเสียชีวิต อย่าเอาความสะดวกเพียงตัวเอง จนทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกต่อไปเลยครับ”
โดยเสี่ยเต้ย บอกว่า ตอนแรกที่ประสบอุบัติเหตุเจ้าของข้าวก็มาขอโทษ ซึ่งตนก็เห็นใจชาวนาเพราะรู้ว่าทำนาแต่ละปีก็แทบไม่มีกำไรอยู่แล้ว จึงไม่ได้ติดใจจะเอาเรื่องอะไร แต่ที่โพสต์ก็แค่อยากเตือนผู้ขับขี่ให้ระมัดระวัง และฝากชาวนาให้ช่วยทำสัญลักษณ์ให้ชัดเจนเท่านั้น จะได้ไม่ต้องเกิดอุบัติเหตุอีก แต่กลับมีหลานของเจ้าของข้าวเข้ามาคอมเมนท์ในเฟซบุ๊กของตัวเอง ในลักษณะต่อว่าคือ “ขอโทษนะค่ะ คนที่บ้านกลับบ้านเพื่อไปกินข้าวแล้วจะเอากรวยมาตั้ง ก่อนที่จะเอากรวยตั้ง เขาก็เอากิ่งไม้กันไว้อยู่ ขับรถเร็วก็มองไม่เห็นสิ อย่างโพสให้ตัวเองดูดีเลย เอาความจริงมาพูดซิค่ะ”
พอตนเห็นข้อความดังกล่าว ก็เสียความรู้สึกเพราะเหมือนจะหาว่าที่เกิดอุบัติเหตุไม่ได้เป็นเพราะการตากข้าวบนถนน แต่เป็นเพราะตนเองขับรถเร็ว รุ่งเช้าจึงตัดสินใจนำภาพถ่ายตอนที่เกิดอุบัติเหตุไปแจ้งความที่ สภ.เฉลิมพระเกียรติ เพื่อเอาผิดกับเจ้าของข้าวตามกฎหมาย ที่นำข้าวมาตากกีดขวางการจราจร จนทำให้เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งจากการประมาณการณ์ค่าซ่อมรถเบื้องต้นก็หลายหมื่นบาท ส่วนอาการบาดเจ็บก็จะไปตรวจเอกซเรย์ที่ รพ.อย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งจริงๆ ตนเองก็ไม่ได้อยากจะเอาเรื่องแต่ในเมื่อเจอแบบนี้ก็ว่ากันไปตามกระบวนการทางกฎหมาย
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบริวณจุดเกิดเหตุ ยังมีชาวนานำข้าวเปลือกตากบนถนนสายดังกล่าวเป็นทางยาวไม่น้อยกว่า 1 กิโลเมตร บางจุดก็มีกรวยตั้งแต่บางจุดมีเพียงกิ่งไม้เท่านั้น โดยส่วนใหญ่ต่างอ้างว่าไม่มีสถานที่ตาก และตากบนถนนจะแห้งเร็ว
ขณะที่ นายสมชาย อายุ 67 ปี เจ้าของข้าว บอกว่า ก็รู้ว่าการตากข้าวบนถนนผิดกฎหมายแต่ด้วยความจำเป็นไม่มีสถานที่จึงนำมาตากบนถนน ส่วนกรณีที่เกิดอุบัติเหตุนั้น เนื่องจากเมื่อวานเกี่ยวข้าวเสร็จก็ค่ำมืด หลังจากเอาข้าวเทกองไว้บนถนนเพื่อเตรียมเกลี่ยตาก ก็เอากิ่งไม้ไปวางกั้นไว้ก่อน แล้วเข้าบ้านไปกินข้าว และก็จะหากรวยยางไปวางเป็นสัญลักษณ์จุดที่ตากข้าว แต่พอกินข้าวที่บ้านก็มีคนมาบอกว่าเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกองข้าว ก็พากันออกไปดูตอนแรกก็พูดกันเข้าใจแล้ว และผู้เสียหายก็บอกไม่เอาเรื่อง
ส่วนที่หลานไปคอมเม้นจนผู้เสียหายเปลี่ยนใจเข้าแจ้งความนั้น อันนี้ตนไม่ทราบแต่ก็ตั้งใจจะไปขอโทษผู้เสียหายอยู่ ส่วนที่จะเรียกร้องค่าซ่อมรถที่พังเสียหายนั้น ตนคงไม่ปัญญาจะจ่ายเพราะฐานะยากจน ก็คงปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมาย แต่ความจริงแล้วอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นก็น่าจะเกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่เองด้วย ที่อาจจะขับมาเร็วหากไม่เร็วคงจะไม่ชน ก็อยากให้เห็นใจด้วย