ยงยุทธฟังคำติดสินคดีแจงทรัพย์สินเท็จพรุ่งนี้

ยงยุทธฟังคำติดสินคดีแจงทรัพย์สินเท็จพรุ่งนี้

ยงยุทธฟังคำติดสินคดีแจงทรัพย์สินเท็จพรุ่งนี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ลุ้นศาลฎีกาฯตัดสิน "ยงยุทธ" ยื่นบัญชีทรัพย์สินเท็จ พรุ่งนี้(28ก.ย.) เจ้าตัวยันไม่เครียด-พร้อมรับคำพิพากษา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 28 กันยายน เวลา 13.30 น. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นายศิริชัย จิระบุณศรี ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา เจ้าของสำนวน พร้อมองค์คณะผู้พิพากษารวม 9 คน นัดฟังคำพิพากษาคดี หมายเลขดำ อม.2/2552 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยกรณีที่นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จต่อ ป.ป.ช. หลังจากพ้นจากตำแหน่ง ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 263

คดีนี้ ป.ป.ช.ยื่นคำร้องสรุปว่า ผู้ถูกร้องอ้างว่า ขายหุ้น บริษัท มิติ ฟู้ด โปรดักส์ จำนวน 2.45 หมื่นหุ้น ให้แก่ พ.ต.ท.นัฎฐวุฒิ ยุววรรณ ซึ่งเป็นน้องภรรยา เป็นเงิน 2.45 ล้านบาท แต่ พ.ต.ท.นัฎฐวุฒิ ชำระเป็นเงินสดจำนวน 8.5 แสนบาท ส่วนที่ค้างชำระอีก 1.6 ล้านบาท ได้ทำสัญญารับสภาพหนี้ไว้ แต่จากการที่ผู้ร้องได้ตรวจสอบกลับพบว่า นับตั้งแต่วันจดทะเบียนจนถึงปัจจุบันรวม 18 ปีเศษ บริษัทดังกล่าวไม่ได้ประกอบกิจการค้าแต่อย่างใด และ พ.ต.ท.นัฎฐวุฒิ ไม่มีฐานะการเงินเพียงพอที่จะชำระเงินค่าหุ้นเป็นเงินสดได้ถึง 8.5 แสนบาท จึงมีเหตุอันควรเชื่อว่าไม่มีการซื้อขายหุ้นกันจริง และไม่มีเงินให้กู้ยืมตามที่ได้แสดงบัญชีไว้

ขณะที่ในชั้นไต่สวน นายยงยุทธเบิกความยืนยันว่า บริษัท มิติ ฟู้ด โปรดักส์ จำกัด มีการประกอบกิจการและมีเครื่องจักรอุปกรณ์จริง ซึ่งการขายหุ้นบริษัทดังกล่าวให้น้องของภรรยานั้น มีการยื่นเอกสารต่างๆ ต่อกระทรวงพาณิชย์อย่างถูกต้อง ซึ่ง ป.ป.ช.ไม่เคยเข้าไปตรวจสอบที่บริษัทว่ามีทรัพย์สินจริงหรือไม่ พร้อมยืนยันว่า ไม่เคยถูกกล่าวหาว่าร่ำรวยผิดปกติ หรือคดีการกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่แต่อย่างใด

คดีนี้ศาลฎีกาฯ ได้รับคำร้องไว้เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2552 และนัดสอบคำให้การผู้คัดค้านครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2552 โดย ป.ป.ช.ผู้ร้อง ยื่นบัญชีพยานเข้าไต่สวนเพียงปากเดียว ขณะที่ทนายความนายยงยุทธ ผู้คัดค้าน ได้ยื่นบัญชีพยานเข้าไต่สวนรวมทั้งสิ้น 7 ปาก

อย่างไรก็ตาม คดีนี้หากศาลฎีกาฯ พิพากษาว่า นายยงยุทธจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 263 ก็จะถูกเว้นวรรคทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี นับแต่วันที่ศาลวินิจฉัย

ด้านแหล่งข่าวคนสนิทของนายยงยุทธ เปิดเผยว่า วันจันทร์ที่ 28 กันยายนนี้ นายยงยุทธจะเดินทางไปฟังคำพิพากษาด้วยตัวเอง และพร้อมน้อมรับคำพิพากษา หากพ้นผิดทุกคดีก็จะใช้ความรู้ที่มีอยู่กลับไปช่วยเหลือประชาชนที่บ้านเกิด จ.เชียงราย ยืนยันว่า นายยงยุทธตอนนี้ไม่ได้มีอาการเครียด หรือวิตกกังวลแต่อย่างใด

นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช.ในฐานะโฆษก ป.ป.ช. กล่าวว่า ถ้าจะถามว่าเรามั่นใจแค่ไหน เราไม่รู้ เพราะทุกอย่างอยู่ที่ศาลฎีกาฯ จะเป็นผู้ตัดสิน เราไม่เข้าไปก้าวล่วงอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาอย่างคดีของนายสมบัติ อุทัยสาง อดีต รมช.มหาดไทย ที่ปกปิดบัญชีทรัพย์สิน เราก็ชนะ เนื่องจากเราเห็นว่าผิดจริง และศาลก็วินิจฉัยว่ามีความผิดตามนั้น

"ครั้งนี้เราไม่วิตกหรอก ใครจะไปวิพากษ์วิจารณ์ว่าจะไปซ้ำรอยกับคดีกล้ายาง หรืออะไรก็ตาม ก็ช่างเขา เพราะในความเป็นจริงนั้น ทุกคดีต้องชนะหมดมันก็ไม่ใช่ มันก็ต้องแล้วแต่ศาลเป็นผู้ตัดสิน แต่ครั้งนี้ที่เราส่งคำร้องคดีคุณยงยุทธ เพราะเราเห็นว่ามีการยื่นบัญชีที่ไม่ถูกต้องจริงๆ" นายกล้านรงค์ กล่าว

ด้านนายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช.กล่าวเสริมว่า ใครจะวิจารณ์อะไรไว้ล่วงหน้าก็ไม่เป็นไร เราพร้อมจะน้อมรับคำตัดสินของศาลอยู่แล้ว ขอย้ำว่า ทุกอย่างเป็นไปตามดุลพินิจของศาล เพราะเราถือว่าทำตามหน้าที่ของเราดีที่สุดแล้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook