ยาวข้ามปี! มติ ศบค. ต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ครั้งที่ 8 ไปจนถึง 15 ม.ค. 64

ยาวข้ามปี! มติ ศบค. ต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ครั้งที่ 8 ไปจนถึง 15 ม.ค. 64

ยาวข้ามปี! มติ ศบค. ต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ครั้งที่ 8 ไปจนถึง 15 ม.ค. 64
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 หรือ ศบค. กล่าวภายหลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ว่า มติ ศบค. อนุมัติการขยายระยะเวลาขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร คราวที่ 8 เพื่อใช้ควบคุมโรคเป็นสำคัญ โดยการต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินครั้งนี้จะครอบคลุมตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.63-15 ม.ค.64 เนื่องจากอยู่ในช่วงเทศกาลปีใหม่ และจะมีการจัดการแข่งขันกีฬาแบดมินตันโลก

ศบค. มอบ สธ.พิจารณารายละเอียดลดเวลากักตัวเหลือ 10 วัน

นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 หรือ ศบค. กล่าวภายหลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ว่าที่ประชุม ศบค. พิจารณาถึงการลดระยะเวลาการกักตัวจาก 14 วันเหลือ 10 วัน ว่า มีความเสี่ยงไม่ต่างกัน ที่ประชุมจึงให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปลงรายละเอียดและนำกับมาพิจารณาอีกครั้งในการประชุม ศบค.ครั้งถัดไป

ทั้งนี้ ในที่ประชุมยังมีมติผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวบริเวณชายแดนเข้ารับการกักตัวใน Organizational Quarantine หรือ OQ ที่ส่วนราชการกำหนดหรือจัดตั้งขึ้น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค เนื่องจากแรงงานต่างด้าวบริเวณชายแดนไม่สามารถเข้ารับการกักตัวใน Local Quarantine หรือ LQ เพราะไม่มีระเบียบทางราชการกำหนดให้แรงงานต่างด้าวเข้ารับการกักตัวใน Alternative Stste Quarantine หรือ ASQ ได้เนื่องจากมีข้อจำกัดเรื่องค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้ชื่นชมการบริหารจัดการโควิด-19 ที่ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับประเทศที่มีการฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 เป็นอันดับที่ 1 ของโลก ซึ่งไทยได้รับการประเมินมีคะแนนดีที่สุดในมิติของการฟื้นตัว และมิติของความรุนแรงด้านการระบาด ขณะที่มหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์ของสหรัฐอเมริกาได้รายงานดัชนีความมั่นคงด้านสุขภาพ ประเทศไทยถูกจัดอยู่ในลำดับที่ 6 จาก 195 ประเทศในช่วงปลายปี 2562 และลำดับ 1 ของภูมิภาคเอเชีย โดยได้รับการยกย่องว่ามีความพร้อมในการรับมือของโรคระบาดได้มากที่สุด นอกจากนี้ u.s. news and world report ยังได้จัดอันดับให้ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 1 เป็นประเทศที่เหมาะสมในการเริ่มต้นธุรกิจประจำปี 2563 ซึ่งทั้งหมดถือเป็นสัญญาณที่ดีที่จะเรียกความเชื่อมั่น พร้อมสะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยมีผลงานในด้านการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คนไทยสามารถเดินทางในประเทศได้อย่างมีอิสระและเสรี ขณะที่ทั่วโลกยังคงจำกัดพื้นที่และยังมีการล็อคดาวน์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook