กำนันดงเค็งลั่น ตากข้าวบนถนนผิด แต่คนโพสต์ก็ไม่ควรลงโซเชียล เชื่อทำเพราะไม่ชอบตน

กำนันดงเค็งลั่น ตากข้าวบนถนนผิด แต่คนโพสต์ก็ไม่ควรลงโซเชียล เชื่อทำเพราะไม่ชอบตน

กำนันดงเค็งลั่น ตากข้าวบนถนนผิด แต่คนโพสต์ก็ไม่ควรลงโซเชียล เชื่อทำเพราะไม่ชอบตน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายวรวุฒิ นาบำรุง กำนัน ต.ดงเค็ง อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น ให้ความเห็นต่อกรณีที่มีผู้โพสต์ลงโซเชียลมีเดียว่ามีชาวบ้านตากข้าวบนถนนพร้อมใช้ไม้หน้าสามตอกตะปูวางกันไว้ ไม่ให้รถเหยียบ ว่าไม่ควรโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย เพราะทุกคนต้องอยู่ต้องอาศัยกัน ไม่ควรเอาแต่ใจตัวเอง

กำนันรายนี้ มองอีกว่า คนตากข้าวเองก็มีความผิดในเรื่องการกีดขวางทางจราจรอยู่แล้ว ส่วนคนขับรถถ้าเหยียบข้าวก็มีความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์เช่นเดียวกัน

นายวรวุฒิ กล่าวต่อไปว่า ต้นตอของปัญหาเกิดจากการที่หน่วยงานที่ดูแลถนนไม่ให้ตากข้าวบนถนน เพราะถ้าชาวบ้านไม่ตาก ข้าวจะเน่า ส่วนพื้นที่วัดและโรงเรียนก็ไม่เพียงพอสำหรับตากข้าว

กำนันลั่นถ้าไม่โพสต์ก็ไม่มีปัญหา

กำนันรายนี้ตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ที่โพสต์ลงโซเชียลมีเดียอาจจะมีปัญหาหรือไม่ชอบตนอยู่แล้วก็เป็นได้ จึงโพสต์ไป และถ้าไม่โพสต์ก็จะไม่เกิดปัญหา ซึ่งทุกวันนี้โพสต์ที่ลงไปในโซเชียลมีเดียแพร่ออกไปไวมาก 

ไม่ใช่แค่นั้น กำนัน ต.ดงเค็ง กล่าวต่อไปว่า เจ้าของโพสต์นั้นไม่มีนาทำ ไม่เคยทำนา ไม่เข้าใจชาวนา ไม่เข้าใจความลำบากของชาวนา เอาแต่สนุกสนานในการโพสต์ลงบนโลกโซเชียล ตนเองเป็นกำนันมาตั้งแต่ปี 2552 ก็ไม่เคยเห็นคนโพสต์และครอบครัวมาเข้าร่วมกิจกรรมของหมู่บ้านเลย 

นายวรวุฒิ บอกว่า การตากข้าวของชาวบ้านที่ร้องเรียนมานั้น มีการตากแค่เลนเดียวเท่านั้นไม่ใช่ 2 เลนตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด และตนประชาสัมพันธ์อยู่เรื่อยๆ ว่าให้ตากข้าวแค่หนึ่งเลน เพราะว่าถ้าตากสองเลนแล้วมีรถมาเหยียบก็ถือว่าผิดทั้งคู่ทั้งคนเหยียบและคนตาก 

ผู้โพสต์สุดทน! จวกตากข้าวจนรถยนต์ผ่านไม่ได้

นายวรุต อนันต์ อายุ 25 ปี เจ้าของโพสต์เล่าว่า ตอนแรกจะขับรถยนต์ออกจากบ้านไปทำธุระแต่รถไม่สามารถออกได้เพราะว่ามีการตากข้าวเต็มถนน จึงได้ถอยรถกลับเพราะไม่อยากเหยียบข้าว และมีไม้ที่ตอกตะปูวางขวางเอาไว้ มีแค่รถจักรยานยนต์เท่านั้นที่สามารถขับผ่านได้ จึงได้ถ่ายรูปและโพสต์ลงโลกโซเชียล และไปบอกผู้ใหญ่บ้าน แต่ผู้ใหญ่บ้านไม่อยู่ จึงได้บอกกับลูกผู้ใหญ่บ้านไว้ผู้ใหญ่บ้านก็ได้ขับรถมาจัดการให้แล้ว

เจ้าของโพสต์ เล่าต่อไปว่า วันต่อมาผู้ใหญ่บ้านกลับประกาศบอกว่าไม่จำเป็นต้องไปลงโลกโซเชียล เพราะมันทำให้หมู่บ้านเสียหาย หนำซ้ำยังบอกว่าถ้าขับรถมาแล้วเกิดอุบัติเหตุก็ให้แจ้งทางอำเภอ ตนจึงมองว่าสิ่งที่ผู้ใหญ่บ้านทำนั้นไม่ถูกต้อง

เจ้าของข้าวยอมรับตากจริง แต่ตากแค่เลนเดียว

ด้านนางเปรมปรี ศรีจันทร์ ชาวบ้านหนองโบสถ์พัฒนา เจ้าของข้าวเปลือกที่ตากบนถนน และมีชาวบ้านถ่ายรูปโพสเฟสบุ๊ก เดินทางเข้าพบกับผู้สื่อข่าว พร้อมกับเปิดเผยว่า  ข้าวที่ตากบนถนน ตากตั้งแต่วันที่ 17 พ.ย. โดยมีการจ้างคนแก่ในหมู่บ้านมาตากให้ คนแก่ก็เกลี่ยข้าวตากคนเดียว แต่ไม่ได้ตากเต็มถนน เพราะรถจักรยานยนต์ รถเก๋งยังผ่านได้ ส่วนกรณีที่นายบิ๊ก ถ่ายภาพไม้ติดตะปูในกองข้าวนั้น ได้สอบถามคนตากข้าวแล้ว มีจริง แต่เอามาวางทับตาข่ายไม่นานก็เก็บขึ้น

นางสาวเปรมปรี กล่าวอีกว่า ความจริงไม่เป็นตามที่ถูกกล่าวหาในโซเชียล เพราะไม่ได้ตากข้าวเต็มถนน รถยังผ่านไปมาได้ แต่ก็ไม่อยากจะต่อว่าใคร เพราะ 1 ปี มีครั้งเดียว ถ้ามีที่ตากข้าวเพียงพอก็คงไม่เกิดปัญหาเช่นนี้ จึงอยากฝากถึงเพื่อนบ้านเข้าใจชาวนาด้วยกัน ต่างก็ตากข้าวตากแห้งก็เก็บขึ้นและข้าวที่ตากไว้ขณะนี้แห้งแล้วและกำลังจะเก็บใส่กระสอบให้เรียบร้อย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook