สาวใหญ่ออกมาดื่มเหล้ากับสามี ขากลับรถล้ม หาตัวไม่พบ 5 วัน สุดท้ายพบเป็นศพข้างทาง
วันที่ 19 พ.ย.63 เวลาประมาณ 18.00 น. ร.ต.อ.หญิง ทิพวดี อยู่ทรัพย์ พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองสิงห์บุรี ได้รับแจ้งว่ามีผู้พบผู้เสียชีวิตในสภาพขึ้นอืดพร้อมรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีแดง-ดำ ล้มคว่ำในป่าหญ้าข้างทางริมถนน สิงห์บุรี-อ่างทอง (สายเก่า) บริเวณพื้นที่หมู่ที่ 2 บ้านพระทราย ต.ต้นโพธิ์ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี จึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลสิงห์บุรี และอาสาสมัครกู้ภัยจังหวัดสิงห์บุรี
ที่เกิดเหตุ ในพงหญ้าริมทางห่างจากขอบถนนลงไปประมาณ 5 เมตร พบศพหญิงสาวทราบชื่อภายหลัง คือ นางกิริยา อายุ 46 ปี สภาพร่างกายเริ่มเน่าจนจำเค้าหน้าเดิมไม่ได้ แต่ทรัพย์สินคือ สร้อยทองที่คอ และแขน และกระเป๋าสตางค์ยังอยู่ครบ สอบถาม นางพัชรี ภู่สุวรรณ ผู้พบศพเป็นคนแรก เล่าว่า ขณะกำลังเดินเก็บขวดอยู่ริมถนนเพื่อนำไปขายจนมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุอยู่นั้น รู้สึกได้กลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรง และเมื่อเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ก็เห็นสะโพกคนโด่งขึ้นมาคิดว่าเป็นศพคนแน่นอน จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบทันที
จากการสอบถามญาติผู้เสียชีวิตที่เดินทางมายังที่เกิดเหตุเล่าว่า ผู้ตายได้ขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวพร้อมกับสามีออกจากบ้านพักใน ต.หัวป่า อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ในเวลาหัวค่ำของ วันที่ 14 พ.ย.63 เพื่อออกมาดื่มกินที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดสิงห์บุรี จนกระทั่งร้านปิดในเวลาประมาณ 02.00 น. ผู้ตายและสามีก็ขี่จักรยานยนต์เพื่อกลับบ้านพัก คาดว่าทั้งคู่มีอาการมึนเมาจากการดื่ม เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุรถจักรยานยนต์เกิดเสียหลักล้มคว่ำลงข้างทาง สามีของผู้ตายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ลุกขึ้นมาพยายามหาร่างภรรยาและรถจักรยานยนต์ แต่ด้วยอาการมึนเมาทำให้จำอะไรไม่ได้ หาผู้ตายและรถจักรยานยนต์ไม่เจอ จึงตัดสินใจเดินเท้ากลับไปจนถึงบ้านพักในเวลา 05.00 น. ของวันเดียวกัน และได้แจ้งให้ญาติทราบ พร้อมช่วยกันออกตามหา แต่สามีของผู้ตายก็ไม่สามารถจำสถานที่เกิดเหตุได้ ทำให้ญาติหาร่างของผู้ตายไม่พบ จนมีการโพสต์ในเฟซบุ๊กให้ช่วยกันตามหา ก่อนจะมาเจอศพในวันนี้ซึ่งก็ล่วงเลยผ่านมาแล้ว 5 วัน เจ้าหน้าที่จึงส่งศพปผ่าพิสูจน์ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์นิติเวช โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ รังสิต เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างแน่นอนอีกครั้ง