เตรียมใช้ M Flow ระบบเก็บค่าผ่านทางอัจฉริยะ เร็วกว่าเดิม 5 เท่า
ก.คมนามคม เตรียมนำร่องใช้ระบบเก็บค่าผ่านทางอัจฉริยะ M Flow ระบายรถได้ 2,000 -2,500 คัน/ชม./ช่องทาง เร็วกว่าเดิม 5 เท่า
วันที่ 21 พ.ย.63 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า กระทรวงคมนาคมเตรียมนำร่องใช้ระบบเก็บค่าผ่านทางอัจฉริยะรูปแบบใหม่ (M Flow) ช่วยแก้ไขปัญหาจราจรติดขัดบนทางด่วนและมอเตอร์เวย์ ลดความแออัดของรถบริเวณด่านเก็บค่าผ่านทาง เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางสำหรับผู้ใช้บริการ
โดยกรมทางหลวง จะนำร่องบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 ในช่วงต้นปี 2564 โดยปรับปรุงด่านนำร่องจำนวน 4 ด่าน ได้แก่ ด่านทับช้าง 1 ด่านทับช้าง 2 ด่านธัญบุรี 1 และด่านธัญบุรี 2 ในขณะที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย จะนำร่องบนทางพิเศษฉลองรัช บริเวณด่านจตุโชติ ด่านสุขาภิบาล 5-1 และด่านรามอินทรา
ทั้งนี้ ระบบ M Flow เป็นการใช้เทคโนโลยี AI มาพัฒนาระบบจัดเก็บค่าผ่านด้วยกล้องตรวจบันทึกภาพป้ายทะเบียนรถ แทนการเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติแบบระบบไม้กั้น ทำให้ผู้ใช้รถยนต์สามารถขับขี่ผ่านบริเวณด่านฯ โดยไม่ต้องหยุดหรือชะลอรถ ด้วยความเร็วได้ถึง 160 กม./ชม. ช่วยระบายรถได้ 2,000 -2,500 คัน/ชม./ช่องทาง เร็วขึ้นกว่าระบบเดิมที่ใช้อยู่ถึง 5 เท่า
รองรับการใช้งานกับรถยนต์ทุกประเภทที่ได้รับอนุญาตให้วิ่งบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหรือทางพิเศษ ทั้งรถยนต์ 4 ล้อ รถยนต์ 6 ล้อ และรถยนต์มากกว่า 6 ล้อขึ้นไป ชำระค่าธรรมเนียมผ่านวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หลังการใช้บริการ หรือ ระบบ Post Paid ทั้งแบบชำระเป็นรายครั้งหรือชำระตามรอบบิล รวมไปถึงการชำระผ่านเว็บไซต์หรือโมบายแอปพลิเคชั่นของระบบ M-Flow ตลอดจนการชำระด้วยระบบ QR Code และการชำระผ่านระบบตัดเงินอัตโนมัติ
น.ส.ไตรศุลี ย้ำว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องการให้ทุกส่วนราชการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมา ตามนโยบาย Thailand 4.0 โดยเฉพาะการพัฒนางานบริการประชาชนให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ในปีหน้าผู้ใช้ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 และทางพิเศษฉลองรัช จะได้สัมผัสมิติใหม่ของการให้บริการ ซึ่งกรมทางหลวง และการทางพิเศษแห่งประเทศ ยังจะเตรียมขยายผลนำระบบ M Flow ไปใช้กับทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองและทางพิเศษในเส้นทางอื่นๆ ต่อไป