"ธนาธร" รับทราบข้อหาคดีถือหุ้นสื่อ เชื่อไม่มีรัฐประหาร-ปัดอยู่เบื้องหลังม็อบ

"ธนาธร" รับทราบข้อหาคดีถือหุ้นสื่อ เชื่อไม่มีรัฐประหาร-ปัดอยู่เบื้องหลังม็อบ

"ธนาธร" รับทราบข้อหาคดีถือหุ้นสื่อ เชื่อไม่มีรัฐประหาร-ปัดอยู่เบื้องหลังม็อบ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ธนาธร เข้ารับทราบข้อกล่าวหาคดีอาญากรณีหุ้นสื่อ ยืนยันความบริสุทธิ์ ยกเทียบมาตรฐานศาลไทยที่ให้ รัฐมนตรี-ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลรอดคดีถือหุ้น ขณะเชื่อไม่มีรัฐประหาร เพราะคนคิดก่อการไร้ต้นทุน ปัดอยู่เบื้องหลังม็อบ แนะฝ่ายอนุรักษนิยมฟังเสียงของยุคสมัย อย่ามโนตามทฤษฎีสมคบคิด

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล 2 หรือ บก.น. 2 เขตดอนเมือง กทม. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาคดีอาญาตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ หรือ พ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ปี 2561 มาตรา 151 จากกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. มีมติดำเนินอาญาคดีถือหุ้นสื่อบริษัท วีลัค มีเดีย จำกัด

จากเดิมที่ให้เข้ารายงานตัวที่ สน.ทุ่งสองห้อง ก่อนมีการเปลี่ยนสถานที่มาที่บก.น. 2 เนื่องจากมี "มวลชนเสื้อเหลือง" รวมกลุ่มจัดกิจกรรมเปิดเพลงยุคสงครามเย็นและป้ายข้อความ ประท้วงธนาธร อยู่บริเวณด้านหน้า สน.ทุ่งสองห้อง

ธนาธร กล่าวยืนยันความบริสุทธิ์ และจะปฏิเสธข้อกล่าวหา ทั้งไม่มีความกังวลใจ พร้อมยกกรณีเทียบเคียงที่ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยคดีของ ดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศและกรณีนางสาวภาดาท์ วรกานนท์ ส.ส.กทม. เขต 6 พรรคพลังประชารัฐ โดยเฉพาะในเรื่อง "เจตนาและรายได้" ซึ่งหากใช้มาตรฐานเดียวกัน ตนก็จะไม่สิ้นสภาพ ส.ส. และไม่ต้องถูกดำเนินคดีอาญาในวันนี้ พร้อมเรียกร้องให้สังคมจับตาการทำงานขององค์กรอิสระที่มีที่มาจากการรัฐประหารด้วย

ปัดอยู่เบื้องหลังม็อบ

ส่วนประเด็นการชุมนุมของเยาวชนนักศึกษาและประชาชนรวมถึงประเด็นการเมืองอื่นๆ ธนาธร ยืนยันว่า ตนและการนำคณะก้าวหน้าไม่ได้อยู่เบื้องหลังการชุมนุม เพียงแต่มีความต้องการเหมือนกันคือให้ต้องการในประเทศไทยที่เป็นประชาธิปไตยและก้าวหน้าเท่าทันกับโลก

ส่วนการที่ฝ่ายตรงข้ามหรือฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่บอกว่า ตนและแกนนำคณะก้าวหน้ารวมถึงสหรัฐอเมริกาอยู่เบื้องหลังการชุมนุมในไทยนั้น เป็น "ทฤษฎีสมคบคิด" ที่ต้องการสร้างความเกลียดชังให้เกิดขึ้นในสังคมโดยไม่มีมูลของความจริง

แนะฝ่ายอนุรักษ์นิยมฟังเสียงของยุคสมัย

ธนาธร มองว่า การที่ผู้มีอำนาจและฝ่ายอนุรักษ์นิยมไม่ยอมรับ "เสียงของยุคสมัย" ซึ่งผู้ชุมนุมมีวุฒิภาวะมากพอ และได้พิสูจน์แล้ว โดยเฉพาะการพยายามหลีกเลี่ยงความรุนแรง แต่ผู้มีอำนาจยังพยายามจับกุมและยัดข้อกล่าวหารวมถึงตามกฎหมายอาญามาตรา 112 นั้น เป็นเหมือนการ "ราดน้ำมันเข้ากองไฟ" จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายยิ่งขึ้น เพราะไม่ว่าจะจับกุมแกนนำคณะก้าวหน้าหรือแกนนำหลักของผู้ชุมนุมไปเท่าใด ก็ไม่ทำให้การชุมนุมยุติลง และยังมีคนอื่นๆ ที่พร้อมจะต่อสู้

อย่างไรก็ตาม ธนาธร เชื่อว่าการรัฐประหารจะไม่เกิดขึ้น เพราะชนชั้นนำอนุรักษ์นิยมไม่มีต้นทุนที่ไม่มากพอและได้เสียต้นทุนไปมากจากการรัฐประหารปี 2557 ครั้งล่าสุด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook