ย้ำแล้วย้ำอีก! ตำรวจเผยสารเคมีในน้ำไม่อันตราย เผยเหลือรถฉีดน้ำพร้อมใช้ 3 คัน
พล.ต.ต.สมพร สัจพจน์ ผู้บังคับการกองสรรพวุธ สำนักงานส่งกำลังบำรุง ชี้แจงเกี่ยวกับรถฉีดน้ำแรงดันสูงที่ใช้ฉีดใส่ผู้ชุมนุมว่า เป็นไปตามหลักสากล และ ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะฯเคยใช้งานมาแล้วเมื่อการชุมนุมในปี 2557 กับกลุ่ม กปปส. อีกทั้งยังเคยทดลองใช้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจมาแล้วเช่นกัน โดยตัวรถเป็นรถจากประเทศเกาหลีใต้ รุ่นเดียวกับที่ UN ใช้ มีความปลอดภัยสูง ควบคุมปริมาณน้ำที่ฉีดออกไปได้และมีส่วนจัดเก็บแยกชัดเจน สามารถบรรจุน้ำได้ 12,000 ลิตร, โฟม 150 ลิตร สำหรับควบคุมเพลิง สีย้อม 100 ลิตร ไม่มีอันตรายสำหรับแยกกลุ่มผู้ชุมนุม, แก๊สน้ำตาเหลวความเข้มข้น 5% จำนวน 100 ลิตร ตามมาตรฐานสากลซึ่งได้รับรองจากสถาบันต่างๆ
ด้าน ร.ต.อ.โสฬส ประยูรพิทักษ์ ผู้กำกับการกององกำกับการควบคุมฝูงชน 1 กองบังคับการอารักษ์ขาและควบคุมฝูงชน(อคฝ.) ได้อธิบายถึงขั้นตอนการทำงานว่าสามารถเลือกควบคุมกำหนดการฉีดน้ำแต่ละครั้งได้ โดยสามารถเลือกน้ำเปล่าหรือเลือกน้ำเปล่าผสมสารเคมี ส่วนแก๊สน้ำตาเหลวที่ถูกผสมออกไปฉีดสู่ผู้ชุมนุมจะไม่เกิดครั้งละ 3% ซึ่งไม่เป็นอันตราย และใช้น้ำเปล่าสะอาดจากการประปานครหลวง
ด้าน พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงกรณีนักวิชาการตรวจสอบสารแล้วพบว่ามีการผสมสารหลายชนิดนั้นอาจไม่ได้มาจากแหล่งโดยตรง ซึ่งอาจเก็บจากตามพื้นไปตรวจสอบทำให้เกิดความคาดเคลื่อนได้ หากผู้ใดต้องการเข้าตรวจสอบจากต้นทาง กองบังคับการอารักษ์ขาและควบคุมฝูงชนก็ยินดี
นอกจากนี้ได้ส่งสารสีม่วง หรือ เมทิลไวโอเลตทูบี ให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ทดสอบปริมาณแล้วโดยทราบว่าจะทดลองกับหนูตะเภา จะทราบผลในเดือนมีนาคม สำหรับรถฉีดน้ำควบคุมฝูงชน ยี่ห้อจีโน่ ที่ตำรวจใช้ทั้งหมดมี 4 คัน และ เสียหายจากการชุมนุมที่แยกเกียกกาย จำนวน 1 คัน เหลือใช้งานได้ 3 คัน