เพชรา เชาวราษฎร์ เผยโฉมครั้งแรกในรอบ 30 ปี
ฮือฮา นางเอกนัยน์ตาหยาดน้ำผึ้ง เพชรา เชาวราษฎร์ ปรากฏโฉมครั้งแรกในรอบ 30 ปี ผ่านโฆษณามิสทิน 30 ก.ย.นี้ เจ้าตัวเปิดใจทำใจได้ดวงตามองไม่เห็น เจอโรคแทรกซ้อนเกือบเอาชีวิตไม่รอด เตรียมบริจาครายได้เข้ามูลนิธิคนตาบอด
กลายเป็นข่าวฮือฮาไปทั้งประเทศ หลังจากนางเอกภาพยนตร์ตลอดกาลเจ้าของฉายา นางเอกนัยน์ตาหยาดน้ำผึ้ง เพชรา เชาวราษฎร์ หรือ เอก เชาวราษฎร์ ตัดสินใจรับเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้แก่เครื่องสำอาง ยี่ห้อมิสทิน และเตรียมปรากฏตัวครั้งแรกในรอบ 30 ปี ในวันที่ 30 กันยายนนี้
ล่าสุด เมื่อวันที่ 28 กันยายน เพชรา ให้สัมภาษณ์แก่ ดีเจ ตุ๋ย มหาชัย ทางคลื่นวิทยุลูกทุ่งเอฟเอ็ม 94.5 ช่วงเรือนรับรองดาว ถึงสาเหตุที่ไม่ยอมเผยโฉมในที่สาธารณะมานานหลายปี ว่า ช่วงที่ได้จัดรายการที่ลูกทุ่งเอฟเอ็มเมื่อหลายปีก่อน ตอนนั้นยังเจ็บป่วยอยู่มาก ตอนนี้ดีขึ้น แต่ก็ยังไม่หายดีหรอก ใช้เสียงได้ก็เรียกว่าเก่งแล้ว
ส่วนการตัดสินใจรับเป็นพรีเซ็นเตอร์หลังจากเก็บตัวมา 30 ปี เพชรา กล่าวว่า ตอนนั้นมีปัญหาเรื่องสายตา รักษาตา ก็มีโรคซํ้าซ้อนจนแทบเอาชีวิตไม่รอด คิดในใจว่าจะอยู่จะไปก็ขอไปเงียบๆ ไม่บอกใคร ไม่อยากให้ใครมาเสียใจกับเรา แต่มันก็ไม่ตาย หายใจได้แต่ร่างกายแย่มาก รักษาใช้เวลานานมาก จนมาถึงวันที่คุณวิทยา (นายวิทยา ศุภพรโอภาส) ให้มาจัดรายการทางลูกทุ่งเอฟเอ็ม
เพชรา กล่าวด้วยว่า มาถึงวันนี้ตนได้ดูแลตัวเอง ทำให้รู้ว่าตัวเรามีค่าขึ้น หลังจากที่เคยแต่รอวันตายลูกเดียว ตอนที่เกิดปัญหา เมื่อฟื้นขึ้นมา คิดว่าชีวิตจะไปทางใด ตาก็มองไม่เห็น แล้วจะทำอะไรยังไง ยังรักษาตา เพราะยังหวังที่จะหาย ยังอยากเห็นอยู่ หวังอยู่นาน แต่มาถึงประมาณนี้แล้วเรื่องดวงตาคงไม่หวังแล้ว ว่าจะหาย คงหมดโอกาส แต่ทั้งนี้ร่างกายส่วนอื่นๆ ต้องพยายามรักษาไม่ให้เป็นภาระกับคนอื่น อย่าเจ็บป่วยอื่นๆ อีก ค่อยยังชั่วขึ้นตอนนี้เกือบเป็นปกติ
เราคิดหวังว่าวันหนึ่งถ้าตามองเห็น จะออกมาสู้วงการสู่โลกภายนอกอีก แต่พอมองไม่เห็น อยู่เฉยๆ วันหนึ่งๆ ก็แค่นั้น เมื่อเรามองไม่เห็นก็อยากทำมูลนิธิดวงตา เพชรา ขึ้นมา มาศึกษากฎระเบียบตัวเอง ก็มองไม่เห็น คุณชรินทร์ (นายชรินทร์ นันทนาคร) ก็คนเดียว ลูกเราก็ไม่มี เลยค้างคาใจมา พอมิสทินเขามีข้อเสนอ เมื่อวันเกิดของเรา คุณโขมพัฒน์ (โขมพัฒน์ อรรถยา) ขอให้คุณเฮเลน (ปวรา ศิริสาร) มาด้วย เพราะคุณเฮเลนฝันอยากมาเจอ มาพบตัวจริงๆ ของเรา เขาจึงขอมา เราบอกว่ามาได้ แต่ห้ามติ ห้ามชม ห้ามวิจารณ์ ห้ามเขียนเขาก็ตกลง พอเขากลับไป วันหนึ่งเขาโทรมาบอก ว่าพี่ยังทำอะไรได้อีกเยอะแยะ เราก็บอกว่าอย่ามาพูด เพชรากล่าว
นางเอกตลอดกาล กล่าวอีกว่า จากนั้นเฮเลนได้นำเรื่องดังกล่าวไปเล่าให้เจ้าของมิสทินฟัง แล้วโทรมาอีกจึงเกิดเรื่องพรีเซ็นเตอร์โฆษณาขึ้นดังที่เป็นข่าว เงินส่วนหนึ่งจากค่าตัว จะเข้ามูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทยฯ ซึ่งหากตนอยู่เฉยๆ ไม่รู้จะตายวันไหน ถ้ามีโอกาสได้ทำอะไรก็เอาดีกว่า จึงตกลงไป จริงๆ แล้วเป็นความทุกข์มากทำใจอยู่นาน รู้สึกตัวเอง ว่าไม่พร้อม เพราะมองไม่เห็นตัวเอง สมัยก่อนรับหนัง หรือทำอะไร จะเป็นคนมั่นใจในตัวเอง ต้องดูด้วยตาเอง เพราะดีของเรากับดีของคนอื่น จะไม่เหมือนกัน เขาก็ถามว่าพร้อมหรือยัง ตนก็ตอบไปว่ายังไม่พร้อมตลอด จนคุณชรินทร์บอกว่าฉันไม่เห็นคุณจะมีอะไร เดินไปเดินมา
เมื่อถามถึงการเตรียมตัวในการถ่ายทำโฆษณามิสทิน และบรรยากาศถ่ายทำครั้งนี้ อดีตนางเอกหมายเลข 1 ของวงการภาพยนตร์ไทย กล่าวว่า ธรรมดาก็เดินไปเดินมา แขนก็ใหญ่ พุงก็ออก ว่ายนํ้าก็ไม่เป็น จึงซื้อเชือกไนลอน มาขึงฝั่งโน้นกับฝั่งนี้ของสระนํ้า แล้วทำท่าว่ายนํ้ากลัวจมน้ำ ว่ายอยู่ประมาณ 10 วัน คนก็ทักว่า ทำไมผิวดำ มาถึงบริเวณหน้า แสดงว่าแพ้คลอรีน เลยต้องหยุด แต่การลงสระเป็นเรื่องที่ดีมาก เลือดลมในท้องดี ขาแขนยืดสบาย
มีคนไปเดินที่ศูนย์สิริกิติ์ เขาไปเจอเคล็ดลับมาเลยแนะนำให้เราเดินไปมา เป็นเหมือนท่าฝึกทหารใหม่ คือยกแขนยกขาครึ่งชั่วโมง เราทำไม่ถึงหรอก แต่ลดน้ำหนักไปได้เยอะ อยากให้เหลือ 47 กิโล แต่บางวันก็เหลือ 46 กิโลกว่า แต่ก็พอใจที่ลดได้ ทางมิสทินเขาทุ่มเรื่องเสื้อผ้าหน้าผมให้เราเต็มที่ เป็นห่วงเป็นทุกข์แทนเรามากเลย เราไม่เคยทำงานกับเขา กลัวถ่วงเวลาเขา แต่อย่างอื่นมั่นใจ รองเท้าสูง 5 นิ้ว กระโปรงยาวเดินไปก็เหยียบไป กังวลว่าเราจะเดินตรงทางไหม จะหยุดตรงที่เขาต้องการได้หรือไม่ ก็ทำให้ดีที่สุด บังเอิญทำได้ ทีมงานทุกคนดีหมดอบอุ่น เลนส์ซูมไม่ใช้เลย ใช้ขยับกล้องเอา ประการสำคัญที่สุด คือ เราต้องรู้ว่ากล้องอยู่ตรงไหน ถ่ายเสร็จเราเดินออกมา แทนที่ทุกคนจะดีใจเขาร้องไห้กันหมดเขาตื้นตัน เราพลอยร้องไปด้วย ซึ่งการถ่ายทำครั้งนี้เทกเดียวผ่าน เพชรากล่าว