ศาลอนุมัติหมายจับมือปืนยิงในม็อบ ยันขัดแย้งส่วนตัวของกลุ่มการ์ด ไม่เกี่ยวการเมือง
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ , พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น., พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น. ร่วมแถลงข่าวกรณีเกิดเหตุยิงกันหลังยุติการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎร บริเวณหน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ แยกรัชโยธิน (SCB) มีผู้บาดเจ็บจำนวน 2 ราย หลังมีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางถึงกรณีดังกล่าว โดยในการแถลงข่าวได้มีแสดงชาร์ตเหตุการณ์และเปิดคลิปวิดีโอหลักฐานให้สื่อมวลชนดูด้วย
พล.ต.ท.ภัคพงษ์ กล่าวว่า เหตุดังกล่าวมีผู้บาดเจ็บจากอาวุธปืนและจากการถูกทำร้าย รวม 2 คน ยืนยันว่าทั้งสองรายอยู่ในพื้นที่การชุมนุมและทำหน้าที่เป็นการ์ดรักษาความปลอดภัยให้ผู้ชุมนุม โดยสาเหตุเบื้องต้นเกิดจากความโกรธแค้นส่วนตัว
ด้าน พล.ต.ต.จิรพัฒน์ กล่าวลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. มีสื่อมวลชน แถลงข่าวบริเวณหน้าอเวนิว ตรงข้าม SCB ระหว่างนั้น ผู้ก่อเหตุเดินผ่านกล้อง 3 คน ซึ่งทั้ง 3 คน ได้ทะเลาะชกต่อยกับอีกกลุ่มที่อยู่ใกล้กัน โดยคนที่สวมหมวกกันน็อคสีขาว ชกต่อยกับกลุ่มคนอีกกลุ่มทำให้เพื่อนที่อยู่ใกล้ราว 10 คน กรูเข้ามาทำร้าย จากนั้นคนที่สวมหมวกกันน็อคได้ขว้างวัตถุชนิดหนึ่งออกไปทำให้เกิดเสียงและมีกลุ่มควัน ก่อนที่ทั้งสามคนจะวิ่งหลบหนีออกไปทางแยกรัชโยธิน ระหว่างนั้นกลุ่มที่ถูกชกต่อยก็วิ่งไล่ติดตามไป ห่างจากจุดปาวัตถุระเบิดประมาณ 50 เมตร มีผู้ชายสวมฮู้ดแขนยาวสีเข้ม นุ่งกางเกงสีอ่อนขาสั้น วิ่งนำข้างหน้าและใช้อาวุธปืนยิงออกมา 4 นัด โดยหันปืนมาทางกลุ่มที่วิ่งไล่ตาม คนที่ถูกยิงได้ล้มลง ส่วนคนที่ยิงได้วิ่งหลบหนี แต่ถูกประชาชนช่วยจับไว้ได้
สำหรับอาวุธปืนพกลูกโม่ ยี่ห้อ สมิธแอนด์เวสสัน ตกในที่เกิดเหตุ พบบรรจุกระสุน 5 นัด ยังไม่ได้ยิงอีก1นัด ตรงกับพยานในที่เกิดเหตุที่บอกว่าได้ยินเสียงปืนดัง 4 นัด โดยฝ่ายสืบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดเป็นที่เพียงพอและขออนุมัติศาลออกหมายจับเรียบร้อยและตัวผู้ต้องหาอยู่ รพ. โดย นายภาสพงศ์ กุลอมรกานค์ ผู้ใช้อาวุธปืนยิง ศาลอาญาออกหมายจับในความผิด พยายามฆ่าผู้อื่น , มีอาวุธและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต,พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร พร้อมยืนยันว่าเหตุที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับเหตุยิงกันที่แยกเกียกกายแต่อย่างใด
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า คนเจ็บยังรักษาตัวอยู่ยังให้ปากคำไม่ได้ แต่ยืนยันว่าทั้งสองกลุ่มมาทำหน้าที่การ์ดรักษาความปลอดภัย จากการรวบรวมหลักฐานเป็นเหตุความขัดแย้งของ 2 กลุ่ม ไม่ได้เป็นเรื่องอื่น ยืนยันว่าตำรวจดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ส่วนมาตรการดูแลการชุมนุมหลังจากนี้ ตำรวจย้ำเสมอว่าการชุมนุมทำได้แต่ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย ที่ผ่านมาตำรวจได้พยายามกำหนดขอบเขตพื้นการชุมนุม เพื่อให้กระทบกับประชาชนให้น้อยที่สุด เหตุที่เกิดขึ้นตำรวจเข้าพื้นที่ไม่ได้ เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมบอกว่าจะดูแลเอง หากตำรวจเข้าไปก็จะถูกผลักดันออกมา ยืนยันหากผู้ชุมนุมประสานขอให้ตำรวจเข้าไปช่วยดูแลก็พร้อมจัดกำลังไปดูแลความปลอดภัยให้อยู่แล้ว เพราะมีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อย ไม่ใช่คู่ขัดแย้ง