หนังคนละม้วน! แท็กซี่โต้ไล่ผู้โดยสารลงจากรถ เพราะไม่คุยการเมือง ลั่นไม่ยอมขอโทษ

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์คลิปวีดีโอ พร้อมข้อความว่า เมื่อแท็กซี่ชวนคุยเรื่องการเมืองแล้วไม่อยากคุย ก่อนถูกไล่ลงจากรถ เมื่อเรื่องนี้ถูกแชร์ออกไปจำนวนมากและแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของคนขับแท็กซี่

• ผู้โดยสารสาวปฏิเสธคุยเรื่องการเมือง เจอคนขับแท็กซี่ไล่ลงจากรถ แต่ขอเก็บเงินด้วย

ทีมข่าวสอบ ถามคุณเดียร์ เจ้าของโพสต์ เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวาน ขณะที่ตนเองเลิกงานและเรียกแท็กซี่จากหน้าห้างแฟชั่นไอซ์แลนด์ ว่าจ้างให้ไปส่งบ้านพักย่านสะพานใหม่ ขณะที่ขึ้นรถมาเห็นว่า คนขับแท็กซี่ เปิดวิทยุฟังเรื่องการเมืองตนก็ไม่ได้สนใจ และคนขับถามว่า ตนไปร่วมชุมนุมหรือไม่ ตนก็ตอบไปว่าไม่ได้ไปเพราะทำงาน

จากนั้นคนขับแท็กซี่ก็วิจารณ์เรื่องการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎร ที่จะไปสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ว่าไม่เหมาะสม จากนั้นก็ถามตนว่า คิดว่าอย่างไรเรื่องการชุมนุม ตนจึงตอบไปว่า ไม่ขอออกความเห็นนะคะ ซึ่งประโยคนี้เป็นเหมือนจุดที่ทำให้คนขับแท็กซี่มีอารมณ์โกรธ ก็เริ่มตะคอกและด่าทอการชุมนุมและยังนำเสื้อสีเหลืองที่อยู่ในลิ้นชักหน้ารถออกมาโชว์ว่า เป็นคนทำงานที่ไหน ตอนนั้นตนก็ไม่อยากพูดแล้วและก็นิ่ง นำมือถือมาอัดคลิป แท็กซี่ก็ยังคงด่าทอตนไปเรื่อยๆ เกี่ยวกับเรื่องการเมืองและยังด่าถึงบุพการีและประโยคว่าโง่แล้วอวดฉลาด

จากนั้นก็ไล่ตนลงจากรถ ตนจึงบอกว่าหากไล่ลงจากรถ ตนก็ไม่จ่ายค่ารถ เพราะถือว่าทำผิดกฎของรถสาธารณะ คนขับแท็กซี่จึงโมโหและล็อกรถ จากนั้นก็เอื้อมมือมากระชากแขนตน ซึ่งกำลังจะเปิดประตูลงจากรถไป จนเกิดเป็นบาดแผล ตนเห็นว่าจะรุนแรง จึงยอมจ่ายค่ารถโดยสาร และบอกกับแท็กซี่คนนี้ว่าให้เก็บค่าโดยสารดีๆ ไว้เสียค่าปรับ คนขับก็ตอบมาว่า ไปแจ้งเลย

โดยส่วนตัวมองว่าแท็กซี่คือผู้ขับขี่รถสาธารณะให้บริการผู้โดยสาร ไม่สมควรจะทำกิริยาเช่นนี้ และการแสดงความเห็นทางการเมืองไม่ใช่เรื่องผิดหรือถูก แต่แล้วแต่ความคิดเห็นแต่ละคน ซึ่งตนเลือกที่จะไม่แสดงความเห็น แต่กลับกลายเป็นเรื่องที่ทำให้ได้รับบาดเจ็บและการด่าทอถึงบุพการี

จากนี้คงเข็ดกับการนั่งรถแท็กซี่ ก็จะใช้บริการแกร็บแทน เพราะหากเจอแท็กซี่ที่มีความเห็นต่างและมีพฤติกรรมแบบนี้จะเป็นอันตรายกับผู้โดยสาร หลังเกิดเหตุ ตนก็ไปตรวจร่างกาย และเข้าแจ้งความ สน.คันนายาว ขอดำเนินคดีกับคนขับแท็กซี่คนดังกล่าว และขอให้ทางขนส่งพิจารณาลงโทษตามกฎหมาย

ด้าน นายสุภาพ คนขับแท็กซี่ เปิดเผยว่า เมื่อวานไปพบตำรวจแล้ว แต่ยังไม่แจ้งข้อหาใดๆ ขอให้รอเจรจากับผู้โดยสารในวันจันทร์ที่ 30 พ.ย.นี้ ซึ่งขอยืนยันว่า ตนไม่ได้ไล่ผู้โดยสารลงจากรถ ไม่ได้ทำร้าย เหตุการณ์เกิดขึ้น เมื่อรับผู้โดยสารมาแล้วเห็นว่าใส่ชุดสีดำ จึงถามว่าไปชุมนุมมาหรือเปล่า ผู้โดยสารตอบว่าไม่และมีท่าทางไม่อยากคุยด้วยใดๆ ทั้งสิ้น

ตนก็นิ่งไปและเปิดวิทยุฟังข่าวตามปกติ และพยายามถามเส้นทางกับผู้โดยสาร เพราะรถติดมาก แต่เห็นว่าผู้โดยสารไม่อยากคุยด้วย ตนก็บ่นพึมพำกับตัวเองว่ารถติดหนัก ติดมากตั้งแต่สายจนถึงค่ำ เพราะมีม็อบมาชุมนุม บ่นไปกับตัวเองไม่ได้คุยกับผู้โดยสารเลย แต่ผู้โดยสารก็ดูหมิ่นตนดูหมิ่นอาชีพว่า แก่แล้วยังทำงาน ไม่มีปัญญา ต้องมาขับแท็กซี่ ตนก็งงว่าทำไมต้องดูถูกขนาดนี้ ตนก็ทำอาชีพสุจริต แล้วก็เปิดเสื้อที่เก็บไว้ในรถ เป็นสีส้ม และบอกว่าตนทำอาชีพสุจริต ไม่ใช่เสื้อสีเหลือง

จากนั้นผู้โดยสารก็จะขอลงจากรถ ตอนนั้นรถติดอยู่กลางแยก ตนก็ปิดล็อกประตูบอกว่าลงไปไม่ได้ เพราะหากตนปล่อยผู้โดยสารลงแล้วเกิดอุบัติเหตุตนก็ต้องรับผิดชอบ และอันตราย จึงเอื้อมมือไปดึงตัวผู้โดยสารไว้ ไม่ใช่กระชากหรือทำร้าย  ช่วงนี้ผู้โดยสารก็จะอัดคลิป ในคลิปตนยังพูดว่าผมไม่ได้ไล่ หากไล่จริงจะมานั่งอัดคลิปได้อย่างไร และที่เขาอัดคลิปก็เอาแต่เรื่องดีของตัวเอง จากนั้นตนก็ขับรถไปส่งถึงที่หมายที่ผู้โดยสารบอก มิเตอร์ค่าโดยสาร 169 บาท ผู้โดยสารก็จ่ายให้ 200 บอกว่าให้เก็บเงินไว้ดีๆ ไว้ไปเสียค่าปรับ

เรื่องทั้งหมดตนไม่ได้ผิด จึงไม่ต้องขอโทษและยังไม่เห็นว่าทำผิดตรงไหน ก็รอให้ตำรวจและทางขนส่ง พิจารณาตามขั้นตอนกฎหมาย และระบุว่า ตนเองเคยต้องโทษมาก่อน และกลับตัวกลับใจเป็นคนดี ทำมาชีพหาเลี้ยงครอบครัว แต่กลับต้องมาถูกดูหมิ่นดูถูก ก็เสียความรู้สึก  และเรื่องทั้งหมดไม่ได้เกี่ยวข้องกับการแสดงความเห็นต่างเรื่องการเมืองและการชุมนุมใดๆ ทั้งสิ้น