เปิดไทม์ไลน์หญิงไทยติดโควิด-19 มาจากเมียนมาไม่กักตัว พบผู้สัมผัส 326 ราย
สธ.แถลงไทม์ไลน์ สาวไทยวัย 29 ติดโควิด-19 จากเมียนมา ก่อนเข้าไทยที่แม่สาย จ.เชียงราย โดยไม่กักตัว และเดินทางมาเที่ยวเชียงใหม่ พบผู้สัมผัส 326 ราย
จากกรณี ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยวันนี้ (28 พ.ย.) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 5 ราย ซึ่งรายที่ 5 เพศหญิง อายุ 29 ปี เดินทางมาจากเมียนมา เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 โดยไม่ได้เข้าสถานกักกันที่รัฐจัดให้ ตรวจหาเชื้อวันที่ 26 พ.ย. ผลพบเชื้อ มีไข้ ถ่ายเหลว ปวดศีรษะ จมูกไม่ได้กลิ่น ตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน 2563 เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลนครพิงค์ จังหวัดเชียงใหม่ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
- เปิดข้อมูลผู้ป่วยโควิด-19 ที่เชียงใหม่ สาววัย 29 กลับจากเมียนมาไม่กักตัว รอแถลงบ่ายนี้
- ศบค.เผยไทยพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 5 ราย มาจากอินเดีย ฟิลิปปินส์ สวีเดน และเมียนมา
- เชียงใหม่พบหญิงติดโควิด-19 ไทม์ไลน์มีไปห้างดูหนัง ผู้ว่าฯ สั่งตรวจเข้มบาร์โฮสต์
ล่าสุด วันนี้ (28 พ.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. กระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมด้วย นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป และ นพ.ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงข่าวในรายละเอียดของกรณีดังกล่าว
นพ.โสภณ กล่าวว่า ผู้ป่วยรายล่าสุดของประเทศไทย เป็นการติดเชื้อมาจากต่างประเทศโดยข้อมูลล่าสุดที่ได้จากการสอบสวนโรค ที่เป็นการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.) เชียงใหม่และกองระบาดวิทยา สำนักงานป้องกันควบคุมโรค(สคร.)ที่ 1 จ.เชียงใหม่ ข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 12.00 น. ของวันนี้ คือ หญิงไทย อายุ 29 ปี ได้รับการวินิจฉัยว่า เป็นผู้ป่วยโรคโควิด-19 โดยประวัติที่ได้จากการสอบสวนอย่างรวดเร็ว เบื้องต้นดังนี้
24 ต.ค. – 23 พ.ย. เดินทางไปทำงานที่ประเทศเมียนมา
23 พ.ย. ผู้ป่วยเริ่มมีอาการป่วยด้วยอาการไข้ ถ่ายเหลว จมูกไม่ได้กลิ่น
24 พ.ย. ยังมีอาการไข้ ไอ ปวดศีรษะ
- เวลา 05.00 น. เดินทางจากเมียนมาเข้าแม่สาย จ.เชียงราย ด้วยรถตู้สาธารณะ
- เวลา 11.00 น. เดินทางจากเชียงราย มาเชียงใหม่ ด้วยรถบัสประจำทาง
- เวลา 14.51 น. เดินทางถึงเชียงใหม่ ใช้บริการ Grab Car 1 คัน กลับคอนโดของผู้ป่วย
- ช่วงกลางคืนใช้บริการรถ Grab Car 2 ไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ย่านสันติธรรม กับเพื่อน 2 คน มีการสูบบุรี่ร่วมกัน
- เวลา 02.00 น. เข้าพักค้างคืนที่คอนโดแห่งหนึ่งของเพื่อน ที่มาจากสถานบันเทิงด้วยกัน พร้อมกับเพื่อนคนที่ 1 และมีเพื่อนคนที่ 2 และคนที่ 3 ซึ่งพักอยู่ในห้องใกล้กันตรงข้ามกัน เข้ามาร่วมดื่มสุรา
25 พ.ย.
- เวลา 12.00 น. ออกจากคอนโดของเพื่อน ใช้บริการ Grab Car 3
- เวลา 13.00 น. เดินทางกลับถึงคอนโดที่พักของผู้ป่วย
- เวลา 15.30-20.30 น. ใช้บริการรถ Grab Car 4 ไปห้างสรรพสินค้าและอยู่ในห้าง โดยมีกิจกรรม คือ ชมภาพยนตร์ ทานอาหาร และเดินซื้อของ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าพฤติกรรมส่วนใหญ่ของผู้ป่วยสวมใส่หน้ากากอนามัย แต่ไม่ตลอด และได้เรียก Grab Car 5 กลับคอนโด
26 พ.ย.
- เวลา 15.30 น. ใช้บริการ Grab Car 4 เพื่อไปตรวจที่ รพ.เอกชน แห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ มีอาการจมูกไม่ได้รับกลิ่น และถ่ายเหลว อุณหภูมิร่างกาย 36.9 เซสเซียส ตรวจหาเชื้อโควิด-19
- เวลา 22.00 น. ส่งต่อเข้ารับการตรวจหาเชื้อที่ รพ.นครพิงค์
27 พ.ย.
- ผลตรวจยืนยันพบเชื้อ ทีมปฏิบัติการสอบสวนโรค สสจ.เชียงใหม่ และ สคร.1 ดำเนินการสอบสวนและควบคุมโรค
จากการสอบสวนโรค พบมีผู้สัมผัสมีทั้งหมด 326 ราย มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 105 ราย เป็นผู้สัมผัสที่อยู่ในชุมชน 65 ราย ที่ จ.เชียงใหม่ เป็นผู้ที่พักอยู่ในคอนโดเดียวกับผู้ป่วย 2 ราย และของเพื่อนผู้ป่วย 2 ราย สถานบันเทิง 55 ราย และห้างสรรพสินค้า 6 ราย ทั้งหมดอยู่ระหว่างรอติดตาม เพื่อนำมาตรวจและกักกันโรคตามแนวทางที่กำหนด
ส่วนอีกกรณี ผู้สัมผัสในยานพาหนะทั้งหมด 40 ราย กรณีนี้มีผู้อยู่ในจังหวัดเชียงราย 35 ราย ได้แก่ ผู้เดินทางข้ามแดนด้วยกัน 1 ราย คนที่อยู่ในรถตู้ ผู้โดยสารที่เดินทางจากจังหวัดเชียงรายมาเชียงใหม่ 5 ราย ผู้ที่ขับรถ Grab Car 5 คัน รวม 5 ราย
ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 149 ราย ซึ่งอยู่ในชุมชน 140 ราย ได้แก่ คนที่พบในสถานบันเทิง 2 ราย และห้างสรรพสินค้า 138 ราย ทั้งหมดอยู่ระหว่างรอติดตาม และบางส่วนอยู่ระหว่างรอผลตรวจจากห้องปฏิบัติการ บุคลากรทางการแพทย์ รพ.นครพิงค์ 9 ราย ซึ่งถือเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ เพราะมีการใส่อุปกรณ์ป้องกัน ผู้สัมผัสอื่นๆ ที่อยู่ในชุมชน 72 ราย อยู่ใน จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในคอนโดแห่งเดียวกัน อยู่ระหว่างการติดตาม
ทั้งนี้ ขอให้ผู้ที่อยู่ในรายชื่อและอยู่ในระบบติดตามของสาธารณสุข จ.เชียงใหม่ ได้สังเกตอาการตัวเอง ขณะนี้ขอให้สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า เว้นระยะห่างจากผู้อื่น และล้างมือบ่อยๆ เพื่อความปลอดภัย ในกรณีที่สงสัยหรือมีความกังวลสามารถเข้ารับการตรวจที่ รพ.ในพื้นที่ของที่พักได้
จากการสอบสวนโรค พบผู้สัมผัสผู้ป่วยมีทั้งหมด 326 ราย
ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 105 ราย
- ผู้สัมผัสที่อยู่ในชุมชน 65 ราย ที่ จ.เชียงใหม่ ดังนี้ เป็นผู้ที่พักอยู่ในคอนโดเดียวกับผู้ป่วย 2 ราย และของเพื่อนผู้ป่วย 2 ราย สถานบันเทิง 55 ราย และห้างสรรพสินค้า 6 ราย ทั้งหมดอยู่ระหว่างรอติดตาม เพื่อนำมาตรวจและกักกันโรคตามแนวทางที่กำหนด
- ผู้สัมผัสในยานพาหนะทั้งหมด 40 ราย กรณีนี้มีผู้อยู่ในจังหวัดเชียงราย 35 ราย ได้แก่ ผู้เดินทางข้ามแดนด้วยกัน 1 ราย คนที่อยู่ในรถตู้ ผู้โดยสารที่เดินทางจากจังหวัดเชียงรายมาเชียงใหม่ 5 ราย ผู้ที่ขับรถ Grab Car 5 คัน คันละ 1 ราย รวม 5 ราย
ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 149 ราย
- ผู้ที่อยู่ในชุมชน 140 ราย ได้แก่ คนที่พบในสถานบันเทิง 2 ราย และห้างสรรพสินค้า 138 ราย ทั้งหมดอยู่ระหว่างรอติดตาม และบางส่วนอยู่ระหว่างรอผลตรวจจากห้องปฏิบัติการ
- บุคลากรทางการแพทย์ รพ.นครพิงค์ 9 ราย ซึ่งถือเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ เพราะมีการใส่อุปกรณ์ป้องกัน
ผู้สัมผัสอื่นๆ ที่อยู่ในชุมชน 72 ราย อยู่ใน จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในคอนโดแห่งเดียวกัน อยู่ระหว่างการติดตาม
ทั้งนี้ ขอให้ผู้ที่อยู่ในรายชื่อและอยู่ในระบบติดตามของสาธารณสุข จ.เชียงใหม่ ได้สังเกตอาการตัวเอง ขณะนี้ขอให้สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า เว้นระยะห่างจากผู้อื่น และล้างมือบ่อยๆ เพื่อความปลอดภัย ในกรณีที่สงสัยหรือมีความกังวลสามารถเข้ารับการตรวจที่ รพ.ในพื้นที่ของที่พักได้