ไต้ฝุ่นกิสนาถล่มเวียดนามเสียชีวิตแล้ว18คน
นายกฯสั่งทุกกระทรวงเฝ้าระวังพายุ สุขุมพันธุ์ พร้อมรับมือ บุรีรัมย์เตือนพื้นที่เสี่ยงภัย เชียงใหม่เฝ้าระวัง 2 อำเภอ
เมื่อเวลา 14.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมครม.ว่า ได้กำชับให้หลายหน่วยงาน เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงสาธารณสุข ให้ติดตามสถานการณ์และช่วยเหลือประชาชนทั้งในพื้นที่ที่ประสบกับปัญหาน้ำท่วม และส่วนที่จะได้รับผลกระทบจากพายุกิสนาที่จะเข้ามา และกำชับให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ช่วยเหลือ และรายงานข้อมูลต่างๆ ให้ทันท่วงที
"ในส่วนที่คาบเกี่ยวกันคือ กรณีเกิดอุทกภัยที่ฟิลิปปินส์ได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงสาธารณสุข ให้ความช่วยเหลือเรื่องข้าวและยากับผู้ประสบอุทกภัย" นายกฯ กล่าว
สุขุมพันธุ์ สั่งพร้อมรับมือ กิสนา เข้าไทย
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารกทม.ว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้พยากรณ์และคาดว่าในช่วงเย็นวันนี้ 29 ก.ย. เวลาประมาณ 01.00 น. พายุไต้ฝุ่นกิสนาจะเข้าประเทศไทยทางจังหวัดมุกดาหาร โดยมีความเร็วลมประมาณ 130 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่งผลให้มีฝนตกหนักในกทม.เฉลี่ยร้อยละ 70 ของพื้นที่ ต่อเนื่องไปจนถึงวันพฤหัสบดีที่ 1 ต.ค.จากนั้นจะค่อยๆ อ่อนกำลังลง ซึ่งระหว่างที่มีฝนตกหนักอาจเกิดปัญหาน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่
ทั้งนี้ จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือประชาชนในกรณีเกิดเหตุน้ำท่วม ซึ่งได้มีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการหลักที่สำนักการระบายน้ำ กทม.2 ดินแดง พร้อมสั่งการและแจ้งเตือนภัยให้ประชาชนได้รับทราบสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง และให้สำนักงานเขตทั้ง 50 เขตจัดเจ้าหน้าที่หน่วย BEST ลงพื้นที่จุดเสี่ยงน้ำท่วมเพื่อพร้อมปฏิบัติการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าก่อนที่น้ำจะท่วมโดยไม่ต้องรอให้ระดับน้ำถึงขั้นวิกฤติ เตรียมรถยก รถลากจูง และรถบรรทุกช่วยเหลือประชาชนกรณีต้องมีการขนย้ายทรัพย์สิน และเตรียมสถานที่ อาทิ โรงเรียน วัด และมัสยิดเพื่อใช้เป็นที่พักอาศัยชั่วคราว เตรียมน้ำดื่ม เครื่องอุปโภค บริโภค รถขยะ รถสุขาเคลื่อนที่ จัดหน่วยแพทย์-อนามัยเคลื่อนที่ให้ความช่วยเหลือรักษาพยาบาลเบื้องต้น ในกรณีที่ต้องมีการอพยพทั้งนี้ ตนจะประจำอยู่ที่ศูนย์ปฏิบัติการในช่วงที่เกิดพายุเพื่อรับฟังการรายงานและสั่งการด้วยตัวเอง
นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้ผู้อำนวยการเขตที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมซ้ำซากลงพื้นที่ และประสานผู้นำชุมชนเพื่อเตรียมรับมือ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกและตะวันตกย่านฝั่งธนบุรี บริเวณชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา รวมถึงขอความร่วมมือในการเฝ้าระวังและช่วยแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้น อาทิจัดทำสะพานทางเดินไม้ กระสอบทราย เป็นต้น ส่วนกรณีการเกิดน้ำท่วมขังบนท้องถนน ซึ่งอาจส่งผลต่อการจราจรก็ได้กำชับให้ทางเขตเร่งสูบน้ำออกโดยเร็วที่สุดและจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจอำนวยการจราจรช่วยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย สำหรับปริมาณน้ำที่ไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาถือว่าดีกว่าปี 2551 แต่ปริมาณฝนที่ตกในปีนี้เทียบกับปีที่แล้วในช่วงเดียวกันมีปริมาณที่สูงกว่า เนื่องจากลักษณะฝนที่ตกลงมาจะเทลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องยาวนาน ดังนั้นจึงมีโอกาสน้ำท่วมขัง
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบสถานการณ์ในขณะนี้ยังไม่น่าวิตกกังวลนัก เนื่องจากสถานที่รองรับปริมาณน้ำหลักที่สำคัญทั้ง 2 แห่ง ได้แก่ เขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนภูมิพล ปัจจุบันมีปริมาณน้ำในเขื่อนเพียงร้อยละ 50-60 เท่านั้น ซึ่งทำให้สามารถรองรับน้ำได้อีกเป็นจำนวนมาก อีกทั้งอัตราการเคลื่อนที่ของน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังอยู่ในระดับที่ดี เฉลี่ยที่ 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีโดยไม่มีกระแสน้ำทะเลหนุน ซึ่งหากกระแสน้ำในช่วงที่มีพายุไม่ถึง 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีก็คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหา จึงขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก แต่ก็ไม่ควรประมาทและรับฟังข่าวสารเป็นระยะ
บุรีรัมย์เตือนพื้นที่เสี่ยงภัยระวังผลกระทบจากพายุกิสนา
นายพรเชษฐ์ แสงทอง ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ออกมาแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลาบลุ่ม ติดริมน้ำ และที่ลาดเชิงเขา ให้ระมัดระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ในช่วงที่พายุกิสนาได้เคลื่อนตัวผ่านประเทศลาว เข้าสู่ประเทศไทยบริเวณแนวจังหวัดมุกดาหาร ตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงวันที่ 2 ตุลาคม 2552 ที่จะถึงนี้ อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ก็ได้ออกประกาศเตือนทั้งทางสถานีวิทยุ หอกระจาย และเสียงตามสายในหมู่บ้าน ชุมชนต่างๆ ให้ประชาชนได้รับทราบอย่างทั่วถึงแล้ว เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์และผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น
นายพรเชษฐ์ ยังระบุอีกว่า นอกจากนั้นยังได้ประสานไปยังทางอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้จัดทีมอยู่เวรยามเฝ้าติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือ หรืออพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ไปอยู่ในที่ปลอดภัยทันที เพื่อลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น
เชียงใหม่สั่งเฝ้าระวัง2อำเภอหลังพบปริมาณฝนตกมาก
นายประจญ ปรัชญ์สกุล ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ( ปภ.) จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า หลังจากที่มีฝนตกอย่างต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ส่งผลให้หลายพื้นที่โดยเฉพาะอ.แม่วาง และอ.สันป่าตอง ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมขังในพื้นที่ ประกอบกับในวันที่ 30 ก.ย.นี้พายุไต้ฝุ่นกิสนา จะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยบริเวณแนวจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งปภ.เชียงใหม่ ก็เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
โดยมีการตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่มขึ้น ปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งหากได้รับรายงานจากศูนย์อุตินิยมวิทยาภาคเหนือจะมีการวิทยุถึงพื้นที่ แต่ละอำเภอเพื่อกระจายข่าวให้ประชาชนได้รับทราบและเตรียมพร้อมรับมือ รวมถึงการสั่งการให้มิสเตอร์เตือนภัยที่ได้รับการอบรมก่อนหน้านี้สังเกตระดับน้ำในพื้นที่เป็นการเตรียมความพร้อมแจ้งให้ชาวบ้านในพื้นที่รับมือ
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของพายุไต้ฝุ่นกิสนาที่กำลังจะเคลื่อนตัวเข้าประเทศไทยนั้น ได้มีการสั่งเฝ้าระวังพื้นที่ใน 2 อำเภอ คือ อ.แม่วาง และอ.แม่แจ่ม เนื่องจากช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ค่อนข้างสูง โดยอ.แม่วาง มีปริมาณน้ำฝน 103 มิลลิเมตร อ.แม่แจ่ม มีปริมาณน้ำฝน 114 มิลลิเมตร ซึ่งหากฝนตกเกินปริมาณ 100 มิลลิเมตร จะเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม โดยได้เฝ้าระวังพื้นที่ 2 อำเภอเป็นพิเศษ
ขณะที่ นายวรพจน์ คุณาวิวัฒนางกูร เวรพยากรณ์อากาศศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ กล่าวว่า ขณะนี้พายุไต้ฝุ่นกิสนา บริเวณทะเลจีนใต้ ศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 220 กิโลเมตรทางทิศตะวันตกของเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม ได้เคลื่อนตัวมาทางตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งเวียดนามวันนี้ (29 ก.ย.) และจะเคลื่อนตัวผ่านประเทศลาวเข้าสู่ประเทศไทยบริเวณแนวจังหวัดมุกดาหารในวันพรุ่งนี้ (30 ก.ย.)
ทั้งนี้ จะส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนตกเพิ่มมากขึ้นและตกหนักในบางพื้นที่ ในส่วนของภาคเหนือตอนบนจะมีเมฆเป็นส่วนมาก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่ โดยภาคเหนือยังไม่ได้รับอิทธิพลจากพายุไต้ฝุ่นกิสนามากนัก
ไต้ฝุ่นกิสนาขึ้นฝั่งเวียดนามแล้วอพยพคน1.7แสนหนี
พายุกิสนาซึ่งคร่าชีวิตชาวฟิลิปปินส์ไปอย่างน้อย 240 ราย และได้ทวีความรุนแรงกลายเป็นพายุไต้ฝุ่นระดับ 2 เริ่มพัดขึ้นฝั่งทางตอนกลางของเวียดนามแล้วในบ่ายวันนี้ ทำให้มีลมแรงและฝนตกหนัก ขณะที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของเวียดนามคาดว่าตาพายุลูกนี้จะพัดขึ้นฝั่งทางตอนกลางของเวียดนามในเย็นวันนี้
ทางการได้อพยพประชาชน 170,000 คน ออกจากพื้นที่ 6 จังหวัดเมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ ขณะที่เริ่มมีฝนตกหนัก และมีลมแรงบริเวณชายฝั่งตั้งแต่เมื่อช่วงเช้า ทำให้มีต้นไม้และเสาไฟฟ้าหักโค่นเป็นจำนวนมาก และมีไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่จังหวัดกวางหงาย ใกล้เมืองดานัง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญและเป็นเมืองใหญ่อันดับ 4 ของประเทศ และที่จังหวัดเถือเทียนเว้ ใกล้เมืองเว้ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง
นอกจากนี้ ทางการได้ระดมกำลังตำรวจและทหารหลายพันนายไว้คอยช่วยเหลือประชาชนในเส้นทางพายุ พร้อมทั้งสั่งปิดสนามบิน โรงเรียน และตัดไฟในเมืองดานังเพื่อป้องกันไว้ก่อน และยังสั่งงดเที่ยวบินที่จะเดินทางไปเมืองดานังและเมืองเว้ พร้อมกับเรียกเรือประมงกลับเข้าฝั่งด้วย
ไต้ฝุ่นกิสนาถล่มเวียดนามเสียชีวิตแล้ว18คน
ล่าสุดเจ้าหน้าที่บรรเทาภัยพิบัติรายงานว่า พบผู้เสียชีวิตใน 6 จังหวัด รวมทั้งพบผู้เสียชีวิต 3 คน ในจังหวัดกว่างนัม หลังจากพายุไต้ฝุ่นกิสนาพัดขึ้นฝั่งเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น ด้วยความเร็วลมถึง 144 กม./ชม. นอกจากนี้ ยังมีรายงาน พบผู้เสียชีวิต 9 คนในจังหวัดคอนตูม ในเขตที่ราบสูงตอนกลางของประเทศ ขณะที่พายุกำลังเคลื่อนตัวมุ่งหน้าไปยังลาว