ฟาด! "ช่อ" แฉยับขบวนการไอโอ ลั่นกองทัพกำลังสร้าง "ความรักจอมปลอม"
"ช่อ พรรณิการ์" โต้กองทัพบก แฉทหารสร้างวงจรอุบาทว์ปั่นไอโอ กร้าวหากท่านไม่หยุด เราก็ไม่หยุดเปิดโปง
ที่อาคารไทยซัมมิท พรรณิการ์ วานิช โฆษกคณะก้าวหน้า แถลงข่าว "เปิดวงจรอุบาทว์ไอโอ ผู้มูฟออนเป็นวงกลม" ด้วยการเปิดเผยรายละเอียดข้อมูลการปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร หรือ ไอโอ ของกองทัพและหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อตอบโต้การแถลงข่าวของกองทัพบกเมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา
พรรณิการ์ กล่าวว่า กว่า 1 ปีที่ผ่านมา ที่ ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ อภิปรายในสภาเรื่องปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร แต่กองทัพยังคงผลิตความรักและความเกลียดชังจอมปลอมเหมือนเดิม ล่าสุดมีผู้เปิดเอกสารจำนวน 25 หน้าทางโซเชียลมีเดีย ที่ทางกองทัพออกมาปฏิเสธว่าไม่ใช่ไอโอ แต่ยอมรับว่าเป็นเอกสารจริง
แกนนำคณะก้าวหน้า ตั้งข้อสังเกตุว่า เอกสารของกองทัพแสดงให้เห็นระบบปฏิบัติการแบบทหารอย่างชัดเจน มีการแบ่งงานเป็น 2 ฝ่ายคือ สีขาวและสีดำ มีผู้ควบคุมอยู่ศูนย์กลางดังนี้
สีขาว คือ หน่วยที่ทำหน้าที่ปล่อยข้อความจงรักภักดีเทิดทูนสถาบัน รวมถึงภาพลักษณ์ที่ดีของกองทัพ
สีดำ ซึ่งถือเป็นแกนกลางของปัญหานั้น ทำหน้าที่ตอบโต้ฝ่ายตรงข้าม ซึ่งหมายถึงผู้เห็นต่างรัฐบาลโดยชื่อของผู้ที่อยู่ในปฏิบัติการ เฉพาะ พล ร. 2 รอ. มีถึง 17, 562 บัญชี
มีการแบ่งหน่วยรับผิดชอบที่สำคัญคือ "ซ.1, ซ.2, ซ.3"
"ซ.1" มีหน้าที่ รีทวิต
"ซ.2" มีหน้าที่กดไลค์กดถูกใจต่างๆ
"ซ.3" มีหน้าที่ทวีตข้อความ เน้นสร้างผู้ติดตาม
"ซ.3.1" เป็นชุดปล่อยข้อมูลเทิดทูนสถาบัน เชิดชูกองทัพ
"ซ.3.2" เป็นชุดปล่อยข้อมูลสีดำ ที่ด้อยค่าและแพร่มลทินให้ประชาชน โจมตีฝ่ายเห็นต่างจากผู้มีอำนาจ จุดที่สังเกตว่าเป็นไอโอได้ชัดเจนคือ การเปิดทวิต 3 เดือน มีการทวีตข้อความและภาพ รวมถึงติดแฮชแท็กเหมือนในห้วงเวลาเดียวกัน บางคนเปิดหน้าว่าเป็นทหาร บางคนใช้รูปสัตว์
ยกตัวอย่างผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งที่มีรายชื่อเป็นไอโอในเอกสารกองทัพ คือ "เฮียตือ หนามเป้า" ซึ่งเป็นนายทหารม้ายศพันโท จาก พล.ม.2 รอ. โพสต์ข้อความและภาพประกอบพร้อมติดแฮชแท็ก เกี่ยวกับการจงรักภักดี ซึ่งอาจเป็นเรื่องปกติที่คนจะโพสต์ลักษณะนี้ แต่ที่ผิดปกติคือ มีผู้รีทวีตใช้ทั้งข้อความ ภาพและแฮชแท็กเดียวกันการจายทั่วทวิตเตอร์ และมีบุคคลที่เป็นตัวหลักซึ่งเป็นนายทหาร สังกัดหรือเกี่ยวข้องกับหน่วยงานทั้ง 904 และทหารรักษาพระองค์ต่างๆ
บังคับชั้นผู้น้อยแพร่ข้อมูล
พรรณิการ์ ย้ำว่า ที่กองทัพบอกว่า เป็นงานเชิงบวกสร้างภาพลักษณ์ให้กับกองทัพและเทิดทูนสถาบัน จึงไม่ใช่ความจริงมีทหารชั้นผู้น้อยถูกบังคับให้เผยแพร่ ทั้งเเพร่ความรักหรือความเกลียด ซึ่งเป็นการใช้งบประมาณจากภาษีประชาชน โดยสังเกตได้ง่ายๆ ว่าการคัดลอกแล้วโพสต์ทั้งข้อความภาพและแฮชแท็กต่างๆ เหมือนกัน ผิดธรรมชาติการใช้โซเชียลมีเดีย อีกทั้งก่อนหน้านี้ทวิตเตอร์ได้ระงับ 926 บัญชีไอโอ โดยให้เหตุผลการระงับว่า เป็นบัญชีทวิตเตอร์ที่ด้อยค่าประชาชน โจมตีฝ่ายตรงข้าม ชื่นชมรัฐบาล ซึ่งมีบัญชีโรงเรียนจิตอาสาพระราชทานถูกระงับในคราวนั้นด้วย
"อยากให้กองทัพกลับไปทำหน้าที่ของตนคือปกป้องประชาชน ถ้าท่านยังไม่หยุด เราก็จะไม่หยุดพูดความจริง จนกว่ากองทัพจะเป็นกองทัพของประชาชน เป็นประชาธิปไตยและรบกับศัตรูของประชาชน แทนที่จะรบราฆ่าฟันกับประชาชนของตัวเอง ทั้งในโลกออนไลน์และในสถานที่ชุมนุม" แกนนำคณะก้าวหน้า สรุป