ไทม์ไลน์ 2 สาว ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายล่าสุดที่เชียงใหม่ ผู้สัมผัสน้อยเพราะอยู่แต่ในบ้านพัก
เปิดไทม์ไลน์ 2 สาว ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายที่ 43 และ 44 ของเชียงใหม่ พบผู้สัมผัสน้อยเพราะอยู่แต่ในบ้านพัก
(2 ธ.ค.63) นายแพทย์ จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ และ นพ.วรเชษฐ เต๋ชะรัก ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพิงค์ ร่วมแถลงข่าวกรณีพบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่ม 2 ราย ซึ่งถือเป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายที่ 43,44 ของจังหวัดเชียงใหม่ เป็นหญิงไทยอายุ 23 ปี และ 25 ปี มีประวัติลักลอบข้ามแดนกลับเข้ามาในประเทศไทยและเป็นผู้สัมผัสกับผู้ป่วยโควิด-19 รายล่าสุดของจังหวัดพะเยา
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับสำนักควบคุมโรคที่ 1 ร่วมกับสอบสวนโรค ทราบว่า ผู้ป่วยทั้งสองรายนี้ได้เดินทางไปทำงานที่ประเทศเมียนมาและเดินทางกลับจากประเทศเมียนมา ในวันที่ 30 พ.ย. 2563 และได้เดินทางเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ โดยได้พักอาศัยอยู่ในที่พักส่วนตัวกับญาติ จนกระทั่งมีเพื่อนจากจังหวัดพะเยาเข้ามาหาที่บ้านพัก
ต่อมาเพื่อนคนดังกล่าวที่มาจากพะเยา ได้เดินทางเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดเชียงใหม่ ผลตรวจยืนยันพบเชื้อโควิด-19 จึงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพะเยา
สำหรับไทม์ไลน์ของผู้ป่วยรายที่ 43 และ 44 มีดังนี้
- 27 พ.ย. 2563 เวลา 15.00 – 17.00 น. เดินทางเข้าประเทศทางพรมแดนธรรมชาติ 3 ราย โดยการเดินเท้า จากนั้นนั่งรถจักรยานยนต์เดินทางเข้าประเทศ และ นอนค้างบ้านเพื่อนที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย
- 28 พ.ย. 2563 อยู่บ้านเพื่อน อ.แม่สาย จ.เชียงราย
- 29 พ.ย. 2563 นั่งรถเก๋งรับจ้างไปในตัวเมืองเชียงราย นอนบ้านเพื่อนที่ อ.เมือง จ.เชียงราย (ใกล้ๆ Big C)
- 30 พ.ย. 2563 เวลา 11.00 - 16.30 น. เหมารถจาก อ.แม่สาย จ.เชียงราย เดินทางมาพร้อมกันทั้ง 3 คน รถมาส่งที่บ้านพักย่านสันติธรรม (ระหว่างเดินทางไม่ได้แวะที่ไหน) และในวันเดียวกันนี้ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 จาก จ.พะเยา มาหาที่บ้านพักและหอพักย่านสันติธรรม ในช่วงค่ำหลังจากไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่ รพ.เอกชน ในจังหวัดเชียงใหม่
- 1 ธ.ค. 63 เวลา 12.00 น. ไปฟังผลให้เพื่อนที่ รพ.เอกชนในจังหวัดเชียงใหม่ จากกการสัมภาษณ์ประวัติเพิ่มเติม พบว่ามีประวัติเสี่ยงเดินทางมาจากพื้นที่ระบาดเช่นกัน จึงได้ติดตามเพื่อนอีก 2 คนมาตรวจด้วยกันทั้งหมด ต่อมา เวลา 18.00 น. ผลตรวจของ CM43, CM44 ผลตรวจยืนยันพบเชื้อโควิด-19 ได้รับรักษาที่ โรงพยาบาลนครพิงค์ ส่วน น.ส.A ผลเป็นลบ ขณะนี้กักตัวอยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐกำหนด
สำหรับการติดตามผู้สัมผัสกับผู้ป่วยทั้งสองรายนี้ พบผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง จำนวน 3 ราย และผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ จำนวน 2 ราย ซึ่งขณะนี้ได้เก็บสิ่งส่งตรวจหาเชื้อโควิด-19 แล้วรอผล จำนวน 4 ราย ส่วนอีก 1 ราย รอเก็บเชื้อส่งตรวจหาเชื้อโควิด-19 และทางทีมสอบสวนโรคยังคงดำเนินการติดตามค้นหากลุ่มผู้สัมผัสกับผู้ป่วยทั้งสองรายนี้ ต่อไป
ทั้งนี้ ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ขอเน้นย้ำให้ประชาชนที่เดินทางไปร่วมกิจกรรมดนตรีที่สิงห์ปาร์ค จังหวัดเชียงราย ในวันที่ 29 พ.ย. 2563 ให้กักสังเกตอาการตัวเอง จนครบ 14 วันหลังสัมผัส (พ้นระยะกักตัว 14 ธ.ค.2563) หากมีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก จมูกไม่ได้กลิ่น ให้รีบไปรับการตรวจที่โรงพยาบาลได้ทุกแห่ง พร้อมบอกอาการเสี่ยงสัมผัส รวมถึงสามารถประเมินตนเองได้จากแอพพลิเคชั่น แบบคัดกรองตนเองสำหรับผู้สงสัยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
นายแพทย์จตุชัย กล่าวว่า ภาพรวมสามารถควบคุมโรคได้ เนื่องจากมีการสอบสวนติดตามผู้สัมผัสได้ทั้งหมด ขอให้ชาวเชียงใหม่มั่นใจในการสอบสวนและควบคุมโรค อย่างไรก็ตามเน้นย้ำให้ปฏิบัติตามมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดและยกระดับให้สูงขึ้นมากกว่านี้ จะทำให้ทุกคนปลอดภัย แม้จะมีคนติดเชื้อเข้ามาในพื้นที่ ก็จะไม่ได้รับผลกระทบ ส่วนมาตรการกักตัวผู้ที่เดินทางเข้าจังหวัดเชียงใหม่ ขณะนี้ยังไม่จำเป็น เพราะยังไม่มีหลักฐานการแพร่ระบาดในพื้นที่ แต่เป็นผู้ติดเชื้อจากนอกพื้นที่เข้ามา
- เชียงรายตื่นเฝ้าระวังโควิด-19 โรงเรียนหลายแห่งปิด ผวาเคสหญิงพะเยาเที่ยวเทศกาลดนตรี
- โควิด-19 โผล่พะเยา! หญิงวัย 28 ลักลอบเข้าไทยที่แม่สาย แวะเที่ยวเชียงราย-เชียงใหม่