ราชบุรีเปิดไทม์ไลน์หญิงวัย 36 ติดเชื้อโควิด-19 เที่ยวผับท่าขี้เหล็ก เริ่มป่วยก่อนกลับไทย

ราชบุรีเปิดไทม์ไลน์หญิงวัย 36 ติดเชื้อโควิด-19 เที่ยวผับท่าขี้เหล็ก เริ่มป่วยก่อนกลับไทย

ราชบุรีเปิดไทม์ไลน์หญิงวัย 36 ติดเชื้อโควิด-19 เที่ยวผับท่าขี้เหล็ก เริ่มป่วยก่อนกลับไทย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หญิงวัย 36 ติดเชื้อโควิด-19 ประวัติเที่ยวผับ 1G1 ท่าขี้เหล็ก ลอบกลับเข้าไทย บินมาดอนเมืองก่อนนั่งรถตู้ไปราชบุรี

(2 ธ.ค.63) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ สธ.แถลงพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 6 ราย ลักลอบเข้ามาจากเมียนมาที่เดินทางเข้ามาจากช่องทางธรรมชาติ โดย 6 รายใหม่ เป็นชาวพะเยา กทม. พิจิตร ราชบุรี และเชียงใหม่อีก 2 ราย ซึ่งขณะนี้กำลังสอบสวนโรค รวมกับเคสก่อนหน้า 4 ราย รวมเป็นทั้งหมด 10 ราย

ล่าสุด นายรณภพ เหลืองไพรโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นายวิสาห์ พูลศิริรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี และ แพทย์หญิงปาจรีย์ อารีย์รบ นายแพทย์สาธารณสุข จังหวัดราชบุรี ได้เปิดเผยข้อมูลรายงานถึงสถานการณ์โควิด-19 หลังมีการพบผู้ติดเชื้อเดินทางเข้ารักษาตัวที่ รพ.เอกชน จังหวัดราชบุรี เป็นหญิงอายุ 36 ปี เดินทางมาจากประเทศเมียนมา ลักลอบเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ ที่จังหวัดเชียงราย ก่อนเดินทางมาบ้านแฟนหนุ่มที่จังหวัดราชบุรี แต่เข้ารักษาตัวที่ รพ.เอกชน เนื่องจากสงสัยตัวเอง จนล่าสุดมาพบว่าติดเชื่อโควิด-19 เมื่อช่วงสายวันนี้ 2 ธ.ค.63

แพทย์หญิงปาจรีย์ อารีย์รบ นายแพทย์สาธารณสุข จังหวัดราชบุรี เปิดเผยว่า กรณีที่พบผู้ป่วยหญิงสาววัย 36 ปี ที่เดินทางมาจังหวัดราชบุรี เป็นรายที่ 9 ที่ติดโควิด-19 ของจังหวัดราชบุรี ในเบื้องต้นที่ได้มีการสอบสวนโรคพบว่ามีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทั้งสิ้น 41 ราย เสี่ยงต่ำ 2 ราย ในจำนวน 41 ราย ที่จำเป็นต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลราชบุรี จำนวน 5 ราย ส่วนอีก 36 ราย ขณะที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดราชบุรี ได้ทำการกักตัวผู้ป่วยไว้ที่สถานที่กักตัว และผู้ต้องสงสัย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับชาวจังหวัดราชบุรีด้วย

สำหรับผู้ที่รักษาตัวทั้ง 5 ราย ที่ต้องแอดมิทได้มีการตรวจหาเชื้อแล้วคาดว่าผลจะออกในคืนนี้ ถ้าผลตรวจออกมาเป็นลบทั้ง 5 ราย ก็จะสบายใจได้ไม่ต้องวิตกกังวล ในส่วนอีก 36 ราย จะเข้าตรวจเชื้อในวันที่ 7 ธ.ค.63 ตามกระบวนการ

ด้าน นายรณภพ เหลืองไพรโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี กล่าวว่า สำหรับจังหวัดราชบุรี เราจะไม่ปิดบังข้อมูลข่าวสาร เราจะชี้แจงให้เข้าใจจนเคลียร์ทุกเรื่อง หลังจากที่เราได้รับรายงาน ได้ทำงานร่วมกันแบบบูรณาการไม่ถึง 24 ชม. หาตัวผู้สัมผัสเชื้อได้ ในส่วนของจังหวัดราชบุรี แต่ผู้โดยสารอื่นเช่นผู้โดยสารทางเครื่องบิน ทางกระทรวงจะเป็นผู้ติดตาม

ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับทางจังหวัดราชบุรี เราได้ข้อมูลทั้งหมดแล้ว ทั้งรถแท็กซี่ คนขับรถตู้ ผู้โดยสารที่นั่งมาในรถตู้ตันเดียวกับผู้ติดเชื้อ คนขับวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง รวมไปถึง แฟนหนุ่ม พร้อมครอบครัว เพื่อนที่เข้าไปเยี่ยมรวมไปถึงตัวแทนประกันภัยที่เข้าไปพบด้วย เราได้ดำเนินการเข้าสอบสวนโรคและกักกันไว้ทั้งหมดแล้ว และทางจังหวัดยังได้เฝ้าติดตามกลุ่มคนที่จะหลบลักลอบเข้าเมืองมา

สำหรับหญิงสาววัย 36 ปีที่ตรวจพบการติดโควิด-19 รายนี้ จริงๆ แล้ว ไม่ใช่คนราชบุรี เป็นคนจังหวัดอื่น แต่ว่าเดินทางกลับมาหาแฟนหนุ่มที่ราชบุรี เพราะว่าอยู่ใกล้ที่สุดและไม่ได้เดินทางไปไหนต่อ มาถึงราชบุรีแล้วได้เดินทางเข้ารักษาตัวเพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่ รพ.เอกชนทันที 

ส่วนที่มีมีข่าวแพร่กระจายในโลกโซเชียลขณะนี้ว่าในจังหวัดราชบุรี ที่อำเภอบ้านคา และ อำเภอสวนผึ้งเป็นพื้นที่เสี่ยงสูงไม่ปลอดภัยนั้น ตนยืนยันว่าเป็นข่าวปลอม 

ส่วน ไทม์ไลน์ของหญิงสาววัย 36 ปี ที่ตรวจพบโควิด-19 ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ผู้ป่วยรายนี้มีประวัติในการเดินทางท่องเที่ยวจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ระหว่างวันที่ 3-28 พฤศจิกายน 2563 กับเพื่อนสนิท โดยช่องทางธรรมชาติ ไปอาศัยกับเพื่อนสนิทที่ทำงานที่สถานบันเทิง แต่ตัวเองไม่ได้ทำงาน และเป็นคนที่ชอบไปเที่ยวที่สถานบันเทิงบ่อยมาก โดยวันที่ 23-24 พ.ย.63 ได้ไปเที่ยวที่สถานบันดังกล่าวอีก เนื่องจากเป็นวันเกิดของเพื่อนสนิท ทั้ง 2 คืน และพบว่ามีความใกล้ชิดกับกลุ่มที่มีผลตรวจพบ โควิด-19 แต่อยู่กันคนละกลุ่ม นอนกันคนละห้อง ระหว่างนั้นสังเกตว่าเพื่อร่วมห้อง 1 คน เริ่มมีอาการไข้ หนาวสั่น ไอมีน้ำมูก ต่อมาวันที่ 25 – 28 พ.ย. 63 ตนเองเริ่มมีอาการไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ ตัวร้อนเล็กน้อย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อรับประทานยาแล้วไม่ดีขึ้น

จากนั้น วันที่ 29 พ.ย. 2563 ได้เดินทางกลับประเทศไทย ผ่านช่องทางธรรมชาติ และโดยสารทางเครื่องบิน สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ เที่ยวบินเวลา 10.40 น. จากจังหวัดเชียงรายเข้ากรุงเทพฯ ถึงสนามบินดอนเมือง เวลาประมาณ 12.00 น. จากนั้นนั่งรถแท็กซี่มายังหมอชิต เพื่อเดินทางต่อมายังจังหวัดราชบุรี ด้วยรถตู้โดยสาร มาถึงที่หน้าห้างสรรพสินค้า บิ๊กซี ราชบุรี และนั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างที่หน้าห้างบิ๊กซี ราชบุรี เดินทางไปยังโรงพยาบาลเอกชนทันทีเพื่อรักษาตัว ในระหว่างรักษาตัวมีแฟนหนุ่มเฝ้า และนอนเฝ้า และมีการใส่หน้ากากอนามัยตลอดขณะเฝ้า พร้อมกันนี้มีเพื่อนมาเยี่ยม มีตัวแทนประกันมาพบที่ห้องด้วย

ต่อมาวันที่ 1 ธ.ค.63 เพื่อนที่ไปปาร์ตี้ด้วยกัน ส่งผลว่าติดเชื้อ SaRs-cov-2 มาให้ทราบ ตนเองจึงสงสัยและแจ้งผลให้หมอทราบว่าเข้าเกณฑ์ PUI จากนั้นดำเนินการเข้าระบบ รักษาตัวที่ รพ.ราชบุรี

และวันที่ 2 ธ.ค.63 เวลา 01.22 น. ผลตรวจ พบเชื้อ SaRs-cov-2 ที่ รพ.ราชบุรี หลังพบเชื้อได้ส่งตรวจเพื่อยืนยันผลที่สมุทรสงคราม ก่อนจะมีการยืนยันผลว่าหญิงสาววัย 36 ปี รายดังกล่าวมีผลติดเชื้อโควิด-19

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook