"บิ๊กต๊ะ" ชี้ กลุ่มการ์ดมีปัญหาเหมือนกันทุกม็อบ ตำรวจดูแลความปลอดภัยได้ดีกว่า
พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. ฐานะโฆษก บช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ร่วมกันแถลงข่าวเกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมืองบริเวณห้าแยกลาดพร้าวเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา
โดย พล.ต.ต.ปิยะ เปิดเผยว่า การชุมนุมที่จัดขึ้นเมื่อวานนั้น ทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการรวมตัวกันในเวลาประมาณ 13.30 น. และมีการลงจากฟุตปาธมาบน ถ.พหลโยธิน โดยกลุ่มการ์ดได้ตั้งวางสิ่งของเพื่อปิดกั้นการจราจรบริเวณถนนห้าแยกลาดพร้าว ซึ่งทางตำรวจจราจร บก.จร. และ สน.พหลโยธิน ต้องเข้าไปอำนวยความสะดวกให้ กระทั่งเมื่อเวลา 17.05 น. พ.ต.อ.อรรถวุฒิ นิวาตโสภณ ผกก.สน.พหลโยธิน ได้ประกาศให้ผู้ชุมนุมยุติการชุมนุมในเวลา 18.00 น. แต่กลุ่มผู้ชุมนุมเพิกเฉยและยังคงชุมนุมต่อจนถึงเวลา 01.00 น. ของวันนี้ ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบความเสียหาย มีการฉีดสีบนถนนและกำแพง บริเวณห้าแยกลาดพร้าว ล่าสุดพนักงานสอบสวนได้ประสานผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์แล้ว
ส่วนการกระทบกระทั่งกันระหว่างผู้ใช้ถนนกับการ์ดคณะราษฎรนั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า การชุมนุมโดยสงบเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่การที่การ์ดผู้ชุมนุมทำร้ายประชาชนและทำลายสิ่งของ ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายต้องถูกดำเนินคดี ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นความผิดส่วนตัว ผู้เสียหาย 1 คน ได้ประสานขอเข้าแจ้งความกับตำรวจ ส่วนความผิดที่เกิดขึ้นนั้นจะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ ทำให้เสียหาย ทำให้เสื่อมค่าทรัพย์สาธารณะประโยชน์ ทำให้สกปรก ความผิดตาม พ.ร.บ.ความสะอาด ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างสำรวจความเสียหาย
ส่วนกรณีที่มีการฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน หรือมีการกล่าวพาดพิงคนอื่นให้เสียหายนั้น เบื้องต้นอยู่ระหว่างตรวจสอบ สำหรับการจำลองเหตุการณ์เผาหุ่นผู้พิพากษานั้น คงต้องมีการพิจารณาเกี่ยวกับความผิดอีกครั้ง เนื่องจากหากพบว่ามีการกล่าวคำหยาบ หรือ กล่าวคำใดๆ ที่เข้าข่ายทำให้ศาลรัฐธรรมนูญเสียหายนั้นก็เข้าข่ายละเมิดอำนาจศาล
ขณะเดียวกัน รอง ผบช.น. ยังระบุว่า การชุมนุมเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่ต้องปราศจากอาวุธและไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่น แต่กรณีดังกล่าวทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน จึงขอให้ยุติการกระทำดังกล่าว และ ขอให้ใช้สิทธิผ่านกระบวนการต่างๆ เช่น ผ่านตัวแทน ส.ส. ในสภาผู้แทนราษฎร หรือใช้ช่องทางอื่นๆ เคลื่อนไหว ที่ไม่กระทบกับประชาชนทั่วไป ซึ่งการที่ตำรวจประสานงานในเบื้องต้นก็เพื่อทำให้การชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และกระทบกับบุคคลอื่นให้น้อยที่สุด ส่วนกรณีการ์ด ถือเป็นปัญหาเหมือนทุกม็อบที่ผ่านมา จึงขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถรักษาความสงบเรียบร้อยได้ดีกว่าการ์ดผู้ชุมนุม โดยตำรวจยินดีเข้าไปดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยให้หากกลุ่มผู้ชุมนุมมีการประสานมา
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ในวันนี้ ได้รับรายงานว่าจะมีประชาชนบางส่วนเดินทางไปเรียกร้องกรณีการหายตัวไปของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ลี้ภัยทางการเมือง ที่ด้านหน้าสถานทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย กรณีนี้ต้องพิจารณาว่าเข้าข่ายมีความผิดเกี่ยวกับการชุมนุมสาธารณะหรือไม่ เพราะการชุมนุมถือเป็นสิทธิของผู้ชุมนุม และแกนนำก็ทราบอยู่แล้วว่าจำเป็นต้องแจ้งจัดการชุมนุมกับตำรวจ เพื่อวางมาตรการการดูแลรักษาความปลอดภัยในการชุมนุม ถ้าเริ่มจากการไม่แจ้งการชุมนุม สุดท้ายก็ต้องถูกดำเนินคดี
ทั้งนี้ ยังไม่ได้รับการประสานงานจากสถานทูตกัมพูชา เกี่ยวกับมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยอะไรเป็นพิเศษ แต่ตรงจุดดังกล่าวก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ดูแล อีกทั้งยังมีสันติบาลที่คอยประสานงานเป็นปกติอยู่แล้ว