สองพ่อลูกชาวประมง เรือล่มกลางทะเล เกาะถังน้ำมันลอยคอข้ามวันข้ามคืน ก่อนมีคนมาช่วย

เมื่อเวลา 20.20 น. วันนี้ (6 ธ.ค.63) เรือตำรวจน้ำ เร่งนำตัว นายริขิต นาคประคอง อายุ 53 ปี และนายกรกฏ นาคประคอง อายุ 27 ปี สองพ่อลูกที่หายไปในทะเลพร้อมกับเรือประมง 1 ลำ หลังจากออกไปวางอวนปู ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำของวันที่ 5 ธันวาคม 2563 และขาดการติดต่อไป

โดยวันนี้ (6 ธ.ค.63) นางวันทา นาคประคอง อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นภรรยา และมารดา ของผู้สูญหายทั้งสองราย ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ชะอำ โดยแจ้งว่า สามี และลูกชายได้หายไปหลังออกเรือประมงหางยาวพื้นบ้านอวนปู ขนาดความยาวเรือประมาณ 5-6เมตร สีส้ม-แดง ออกไปหาปูกลางทะเล บริเวณพิกัด 05.000 –ห่างจากชายฝั่ง ชุมชนบ้านหนองแจง อ.ชะอำ ประมาณ 6-7 ไมล์ทะเล แล้วทั้งคู่ออกเรือไปเมื่อช่วงเวลาประมาณ 14.00 น.โดยปกติจะเข้าฝั่งประมาณช่วงเย็นหรือช่วงค่ำ แต่ทั้ง 2 คนไม่ได้ติดต่อมา ตนจึงคิดว่าทั้งคู่น่าจะจอดเรือหลบคลื่นอยู่บริเวณริมคลองที่จอดเรือซึ่งเป็นปกติ จนกระทั่งรุ่งเช้าตนจึงออกมาตามหาก็ไม่พบ ตนจึงแจ้งเพื่อนๆชาวประมงพื้นบ้านขอความช่วยเหลือให้ช่วยกันออกตามหา และเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจภูธรชะอำในช่วงสายของวันนี้ จากนั้นจึงประสานขอความช่วยเหลือเรือตรวจการณ์ตำรวจน้ำอำเภอปราณบุรีจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ให้ช่วยออกตามหาอีกทาง

พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ ผบก.รน พ.ต.อ.ราม รสหอม ผกก.4 บก.รน. สั่งการให้ พ.ต.ท.ปริญญา หงษ์สร้อย สว.ส.รน.5 กก. 4 บก.รน (ปราณบุรี) ร.ต.อ.พัฒน์พงศ์ วงษ์คงคำ ผู้ควบคุมเรือตรวจการณ์ 527 พร้อมตำรวจประจำเรือ ออกค้นหาร่วมกับศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ภาค 1 เพื่อช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

จนกระทั่งเวลา 19.00 น.วันเดียวกัน ได้รับแจ้งจาก นายเดชา ทองจำนงค์ อายุ 43 ปี ไต๋เรือลอบหมึกสาย “ทรัพย์ชารีนา 7” ว่าพบคนทั้ง 2 เกาะถังแกลลอนพลาสติกเพียงใบเดียว ลอยคออยู่ในทะเลห่างจากท่าเทียบเรือสะพานปลาหัวหิน ราว 5 ไมล์ทะเล จึงรีบไปรับตัวทั้งคู่อยู่ในสภาพอิดโรยขึ้นฝั่งที่บริเวณท่าเทียบเรือเฟอร์รี่หัวหิน-พัทยา หมู่บ้านเขาตะเกียบ ให้มูลนิธิสว่างหัวหินธรรมสถานรีบนำตัวส่ง รพ.หัวหินเพื่อตรวจร่างกาย เบื้องต้นอาการปลอดภัย โดยภาพที่พบครั้งแรก 1 คน สวมใส่เสื้อชูชีพ อีกคนเกาะถังลอยคออยู่กลางทะเลอยู่ห่างจากสะพานปลาหัวหินประมาณ 3 ไมล์ทะเล ทั้งคู่มีสภาพร่างกายที่อ่อนแรงมากเนื่องจากลอยคออยู่กลางทะเลเป็นเวลานาน

จากการสอบถามนายริขิต เล่าวว่าขณะขับเรือกลับจากวางอวนดักปู รู้สึกเหมือนท้องเรือชนเข้ากับท่อนไม้อย่างจัง จากนั้นน้ำทะเลไหลทะลักเข้าเรืออย่างรวดเร็วจนจมลง ตนจึงว่ายไปเอาถังแกลลอนพลาสติกเกาะคู่กับลูกชายพยุงตัวอยู่กลางทะเลนานหลายชั่วโมงแต่ว่ายเข้าฝั่งไม่ไหว ขณะลอยคออยู่มีเรือประมงพื้นบ้านผ่านไปมาตนตะโกนเรียกให้ช่วยแต่ไม่มีใครได้ยิน ขณะจะหมดแรงก็มีเรือลอบหมึกสายผ่านมาเห็นเข้าช่วยชีวิตได้ทัน